Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ขอ��� Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

เราศึกษาประวัติศาสนาพุทธที่เราเชื่อถือลึกซึ้งแค่ไหนคะ?

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0...

เนื่องจากคำถามว่าทำบุญไดจึงจะได้บุญมาก ทำให้เราเห็นว่าฆราวาสไม่เข้าใจว่า "บุญ" คืออะไร ทำไมจึงต้องทำบุญ

จากประวัติคร่าวๆของวิคกี้พีเดีย เราก็รู้ว่าศาสนาพุทธถูกบิดเบือนเปลี่ยนแปลงอย่างอีลุ่ยฉุยแฉกตั้งแต่หนึ่งเดือนหลังจากพระพุทธภาคเจ้าปรินิพาน แล้วไม่เคยย้อนหลังไปที่ดั้งเดิม นับวันที่ขยายวงกว้างขึ้นก็จะผสมผเสพิธีกรรมและหลักการสักการะบูชา ถ่ายทอดคำสอนไหม่ๆเพิมเติมตลอดมาจนปัจจุบัน จริงค่ะ แก่นสารของคำสอนไม่ได้เปลี่ยนไป แต่เพิ่มการกระทำที่เรียกกันว่า "ทำบุญ" ที่คนเฉลียวจะสงสัยว่า เอ.. ที่ให้ทำบุญโดยบริจากของมีค่าให้วัดมากๆนี้ ใครได้ผลประโยชน์? ที่สอนกันว่าทำบุญกับพระผู้ใหญ่ได้บุญมากกว่าทำบุญกับสงฆ์ผู้น้อยนี่ใครเป็นสอน? ขัดผลประโยชน์กันหรือเปล่า? ไม่น่าแปลกใจที่มีเณรคำมาอ้างว่าบรรลุอรหันต์แล้วชักชวนคนที่รู้เท่าไม่ถึงการ ให้ฃง"ทำบุญ" กันจนมีเรื่องราวฉาวโฉ่ เดี๋ยวนี้พระมาหากินต่างประเทศกันเยอะเพราะได้เงินใส่ย่ามที่แลกเป็นเงินไทยได้เป็นถุงเป็นถังค่ะ

ขออภัยค่ะ วันนี้มาแรงผิดปกติ. ไม่อยากเล่ามากกว่านี้เพราะเรื่องนี้ไม่ดีมากๆ คืออยากให้เราใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าให้ฉลาด ท่านสอนว่าอย่าเชื่ออย่างงมงายสิบข้อ น่าจะปฏิบัติตามให้มากๆ พระคอรัพท์เพราะเราช่วยให้ท่านคอรัพท์นะคะ. ช่วยกันเป็นหูเป็นตาอย่าให้ทั้งพระและคนหากินกับศาสนาทำลายสิ่งที่เราฝากความ "เชื่อ" เอาไว้ค่ะ

อัปเดต:

http://m.youtube.com/watch?feature=player_embedded...

ขอแชร์คำสอนของท่านอาจารย์ พระพุทธทาสค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ "คู่มือมนุษย์" ยิ่งฟังก่อนนอนยิ่งซึมซับ

ความเข้าใจว่าทำไมเราจึงนับถือพุทธศาสนาค่ะ

อัปเดต 2:

ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยกันฉายแสงธรรมตามทัศนะ แลกเปลี่ยนความคิดความอ่านที่ให้ประโยชน์มากมายทีเดียวค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ Siincere ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน " You are the captain of your ship". นั่นแหละจึงต้องหยุดพิจารณา

สิ่งที่มีอิทธิพลในการดำรงค์ชีวิตของเราให้ถ้วนถี่ เวลาเป็นสิ่งที่ไม่หวนกลับมา เสียแล้วเสียไปค่ะ

คุณ นายหน่อง ไม่ต้องกลัวเป็นคนไม่มีศาสนาค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่การคิดถูก พูดถูก ทำถูกไม่ใช่หรือ? ถ้าคิดถูก พูดถูก

ทำถูก ไม่เคลมศาสนาก็เป็นคนดีที่สุดคนหนึ่งค่ะ

คุณ เมา วิชาการธรรมมะไม่เปลี่ยนและยังเป็นคำสอนที่เถียงไม่ขึ้นจริงค่ะ แต่พิธีกรรมที่จะนำผู้มีศรัทธาไปสู่ความสำเร็จในธรรมถูกบิดเบือนต่อเติมด้วยความเชื่อถีอในท้องถิ่นที่ศาสนาพุทธเผยแพร่เข้ามา ศาสนาพุทธไม่ห้ามผู้มีศรัทธาไม่ให้รับศาสนาอื่น แต่เผยแพร่โดยให้ใช้วิชาการของธรรมมะเป็นหลักค่ะ

คุณ Lady Bug จริงค่ะ การทำบุญขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้ทำ ในความเห็นส่วนตัว ผู้ปฏิบัติพรหมวิหาร 4 จะไม่ต้องลังเลสงสัยเลยว่าจะได้จะเสียอะไร. ความเมตตานำมาซึ่งความกรุณา และความกรุณานำมาซึ่งความอุเบกขาค่ะ

คุณ กองกอยคะ คนที่รู้ทุกอย่างมีคนเดียว

อัปเดต 3:

ต่อคำตอบของคุณ.กองกอย ผู้รู้ทุกอย่างคือพระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง พระองค์ตรัสไว้ว่า สิ่งที่ท่านนำมาสอนผู้มีศรัทธาศึกษาธรรมมะนี้ เทียบเท่าใบไม้แค่หยิบมือเดียวในป่าใหญ่ ผู้ที่ประสงค์จะรู้จริงต้องศึกษาจนเชื่อได้ด้วยตนเอง อย่าไปเชื่อเพราะเขาบอกให้ แม้ผู้ที่บอกเล่าจะเป็นเกจิอาจารย์ที่จบด๊อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยลานันทา

หรืออ๊อกซ์ฟอร์ดค่ะ (เชื่อไหมว่าพระพุทธเจ้ารู้ว่าจ���มีด๊อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยเหล่านี้มาหลอกพวกเรา?). ฮาาาา

อัปเดต 4:

🎃🎃😍 ขอความกรุณาเพื่อนๆให้ช่วยเลือกยอดคำตอบให้ด้วยนะคะ พรุงนี้จะหนีไปชมใบไม้ผลัดใบที่รัซเซียสัก

สองอาทิตย์นะคะ ขอบคุณค่าาา

7 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 8 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ทราบแค่ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านให้เดินทางสายกลาง

    เมื่อเวลาผ่านมายาวนาน ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย

    ถูก ผิด อย่างไร อยู่ที่ผู้เลือกปฏิบัติ หากใจมองว่าทำแล้วดี ทำแล้วเป็นสุข

    ไม่ได้เบียดเบียนใคร ก็ทำเลยครับ สาธุ

  • pop
    Lv 7
    8 ปี ที่ผ่านมา

    ความเชื่อก่อนการนับถือพระพุทธศาสนา

    ชาวไทยมีความเชื่อในเรื่องลึกลับที่มิอาจพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ได้ และความเชื่อนี้ เป็นของดั้งเดิมประจำโลกและคู่มนุษย์ คือ ความเชื่อเรื่อง “ภูต ผี ปีศาจ และ วิญญาณ” และจากความเชื่อเรื่องผีนี้เองจะโยงมาถึง “ศาสนา” แม้จะหาคำตอบมิได้ว่า ผีคืออะไร แต่ก็เชื่อว่าผีมีจริง ส. ศิวรักษ์ กล่าวว่า “ความเชื่อระดับ ‘ศาสนา’ จะเป็นความเชื่อที่ลึกซึ้งที่สุดของมนุษย์ ในสิ่งที่ไม่สามารถจะหาคำตอบจากที่อื่นได้ แต่จะลึกซึ้งเพียงใดขึ้นอยู่กับระดับสติปัญญาของมนุษย์คนนั้น ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงพัฒนาการทางความคิดและจิตใจของคนนั้น ถ้าพัฒนาน้อย ความเชื่อก็ตื้น ถ้าพัฒนามากความเชื่อจะลึก ทั้งหมดคือความเชื่อ”

    พระพุทธศาสนาถือว่า การที่ต้องเดา คาดคะเน หรือตึกตามอาการนั้น ก็เพราะยังไม่พบความจริง เพราะฉะนั้นจึงวางหลักปฏิบัติเพื่อให้บรรลุความจริงๆไว้ตั้งแต่ต่ำจนถึงสูงที่สุด และถือเอาการรู้ ที่ประจักษ์ความแท้จริง ขั้นสุดท้ายด้วยตนเอง เป็นข้อมุ่งหมาย เพราะฉะนั้นวิธีทางพระพุทธศาสนาจึงลงกับวิธีของวิทยาศาสตร์ยังเจริญอยู่ เพราะยังคิดค้นความจริงได้ไม่หมดจึงยังไม่ถึงที่สุด ส่วนพระพุทธศาสนา ค้นคว้าหาความจริง ได้ถึงที่สุดแล้วเป็นความจริงที่ทำให้พ้นทุกข์ได้ จึงนิยมให้ปฏิบัติไปตามทางที่จะให้พบของจริงนั้น เพื่อผู้ปฏิบัติจะได้รู้แจ้งประจักษ์ด้วยตนเอง ไม่ต้องเดา หรือ เก็งความจริง การหาความจริงของวิทยาศาสตร์ ส่วนมากหนักไปทางสิ่งภายนอก หรือทางวัตถุ ส่วนทางพระพุทธศาสนาหนักไปทางในจิตใจ เพราะมุ่งไปให้พ้นทุกข์ถึงที่สุดทุกข์เป็นเกณฑ์ และเมื่อสรุปแล้ว หลักความเชื่อถือตามที่พระพุทธศาสนาสั่งสอน ก็คือความเชื่ออย่างมีเหตุผล หรือภายหลังที่ได้ค้นคว้าทดลอง ปฏิบัติตนประจักษ์แล้ว ไม่ให้เชื่องมงาย หรือขู่ให้เชื่อ ถ้าไม่เชื่อจะตกนรก ดังนี้

    ยาทิสํ ลภเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ

    กลฺยาณการี กลยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ

    บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น

    ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    โอ..เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง ครับ

    บางทีชาวพุทธเช่นผม อาจรู้น้อยไปบ้าง

    หรือบางครั้ง อยากได้ อยากมี อยากได้วาสนา

    และเผลอรอคอยโชคแห่งชะตา..

    ความอ่อนไหวเหล่านี้บางครั้งทำให้ผม เคลิ้มหลง

    ให้แก่ผู้ที่สอดแทรกคัมภีร์ ยัดไส้จีวร ตลอดจนพิธีกรรมอื่นๆ

    ได้ "โดยง่าย"

    ผู้กระทำต่อพระพุทธศาสนา ได้อาศัยจุดอ่อนที่ว่านี้ดำเนินการของเขา

    หลายครั้งในประวัติศาสตร์ ผู้กระทำเหล่านี้ บรรลุผลตามประสงค์

    จนสามารถตั้งนิกายใหม่ได้

    ในประเทศไทยเกือบจะเห็นเห็นแล้ว

    เชื่อมั๊ยว่า นิพพานเป็นอัตตา...บุญใหญ่นะ

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    คำ "ลึกซึ้ง" ถึงแค่ไหน ไม่รู้แน่

    รู้เพียงแต่ เชื่อทุกธรรม ท่านนำสอน

    เมื่อทำดี ต้องได้ดี มีสักตอน

    ผลบุญย้อน จิตใจสุข ทุกครั้งครา

    "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" นั่น

    หวังใครกัน หากไม่ทำ จิตนำหน้า

    รอใครเล่า หากตัวเรา ยังรอรา

    หวังวันหน้า คงไม่ดี มีแต่จน

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    พุทธศาสนามีสอง ธรรมฝ่ายโลกและธรรมฝ่ายพ้นโลกพ้นทุกข์ คือโลกียธรรม และ โลกุตตรธรรม

    ส่วนมากแล้ว หลายคน นับสือ ศาสนา ในรูปแบบของผ้าห่อตัว เห็นเหลืองๆมา ก็ว่าใช่ ไม่ได้ใส่ใจ ในพระไตรปีฏก ชอบใจ ท่านไหน ชอบลีลาการพูดการเทศ ก็ชอบ โดยไม่ดูเนื้อใน เหมือนท่อนหนึ่งในเพลงร้อง มารจำแลงแปลงเป็นฤษีเยื้องกายพาทีชีชวนทำบุญ จึงเป็นโอกาศ ให้คนหลายประเภท เข้ามาจำแลงกาย ห่อผ้าเหลือง หากิน สร้างสวรรค์บาปขึ้นมาให้มอมเมาสาธุชน งมงาย ซื้อสวรรค์ ก็ยังมีอีกหลายๆ ตั้งตัวเป็นเกจิอาร์จารย์บวชนานเข้าหน่อยคนเริ่มยกมือไหว้ก็เริ่มเหลิงทำตัว จะเป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง ประเภท รู้ปากเกินจมูก หละเยอะแยะ คนบนโลกนี้ เมืื่อไม่มั่นใจกับการดำเนินชีวิต ในการดำรงค์สถานภาพให้อยู่ได้ ผู้คนก็หาที่พึ่ง จึงเป็นโอกาสให้ เหล่าผีบุญ ขายบุญ อ้างนรกสวรรค์ แต่งตำรามั่ง เขียนหนังสือมั่ง อ่านแล้วก็งั้นๆ ถ้าเหล่าท่านเคยอ่าน ไตรปีฏกมาก่อน ถูกต้องแล้วคร๊าบบ พระพุทธเจ้าไม่ได้ฝากศาสนาเอาไว้ที่ไครคนใดคนหนี่ง แต่ฝากศาสนาเอาไว้ กับบริษัท สี่ ไม่ได้ฝากเอาไว้กับ พระ หรือ พวกจำแลงแลงเป็นพระ สวดได้ท่องได้ สวดปาฎิโมกข์ทุกกึ่งเดือน(บทปาติโมกข์ปรากฏอยู่ในพระวินัยปิฎก หมวดสุตตวิภังค์) ยังประพฤติลวงโลกอยู่ก็มี บ้านเรา นี่ จะเห็น ชัดๆ ก็ ตั้งแต่ยันตะ ต่อมา อีกหลาย คน มากระทั่ง เณรคำ เรียกง่าย ว่า ติดสินบนด้วยปัจจัย พวกขุนนางพระ ออกมาป้องปก ท้ายที่สุด ทนสื่อไม่ไหว แสดงให้เห็น ว่า มันเสื่อม ตั้งแต่หัวแถว ยันหางแถว แล้วจะเหลืออะไร ทำไห้เราไม่ต้องสงสัย ในความมีหรือไม่มีตัวตนของพระพุทธเจ้า จากพุทธทำนาย 16 ข้อ อย่าเสียใจ หรือ ดีใจ กับ มันเลย ไครรู้ทัน ก็เป็นปัจเจกชน พ้นไปแต่ผู้เดียว ไครรู้ไม่ทัน ก็ วนเวียนอยู่ในวัฎสงสาร ต่อไป

    ถ้าตรงคำตอบคำถามนี้ ...เราศึกษาประวัติศาสนาพุทธที่เราเชื่อถือลึกซึ้งแค่ไหนคะ? ก็คงมอง ย้อนกลับไปอีกนิด ก่อนศาสนาพุทธ จะสถิตย์ลงบนแผ่นดินชมพูทวีป มีอาณาจักรใหญ่ หรือแคว้น ต่างๆ ถึง 16 แคว้น อังคะ,มคธะ,กาสี,โกสละ,วัชชี,มัลละ,เจตี,วังสะ,กุรุ,ปัญจาละ...ฯลฯ แต่ละแคว้น เก็บส่วยสาอากร พ่อค้า กองเกวียน มีกองกำลังเป็นของตนเอง มันมีเศรษฐศาสตร์ ในตัวเอง บ้างก็บอกว่า การออกบวช ของเจ้าชายสิทธะถะ เป็นเรื่องการเมืองมั้ย การลดอำนาจ พราห์ม ลงมาหรือป่าว พราห์ม เป็นวรรณะผู้สอนนี่ นะ อะไร อะไร ก็พราห์ม ก่อน .. ไม่ตอบต่อแระพอๆ แหะแหะ เด๋ว หาว่า นาย หน่อง ไม่มีศาสนา ชักพาออกนอกเรื่อง

    แหล่งข้อมูล: http://www.vichadham.com/buddha/city16.html
  • ?
    Lv 5
    8 ปี ที่ผ่านมา

    พระธรรมคำสอน ยังอยู่ดี แต่ที่ไม่ดีก็คนที่เอาไปใช้ต่างหากมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นกับคน นั้นๆ ดังที่ว่าศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนมันเสื่อม เราจึงมองว่าศาสนาเสื่อม การทำบุญที่ถูกต้องเป็นไปในทางพอใจ ไม่มีใครมากะมาเกณฑ์ ให้น้อยก็บุญให้มากก็บุญ และไม่หวังผลจากการทำบุญ อันนี้สิจริง ที่ได้จากการทำบุญคือความสดชื่น อารมณ์ดี สบายใจ ก็พอแล้ว

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    ตามความเชื่อของผม ที่ไปทำบุญก็เพื่อทำให้จิตใจเราสบาย อิ่มเอิบเบิกบาน ลดความตระหนี่ถี่เหนี่ยวและก็เพื่อมอบให้กับผู้ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวร เผื่อเอาใว้ในอนาคตหรือชาติหน้าตามความเชื่อในศาสนา

    การทำบุญเป็นสิ่งที่ดี ตามความเห็นของผม ผู้ที่บริจาคทรัพย์สินเงินทองมากๆ ก็เพราะอยากจะได้บุญเยอะๆ แต่ก็บริจาคในสิ่งที่ไม่สมควร คิดว่าพวกเค้าก็ยังมีจิตใจที่ดี แต่ผู้รับนี่ซิครับแย่มาก เจตนาหลอกลวงให้บริจาคจนเกินขอบเขตแถมเอาไปใช้ก็ผิดวัตถุประสงค์ จึงต้องช่วยกันดูแล บอกเล่าเก้าสิบ ห้ามปราม เท่าที่จะทำได้เกี่ยวกับการทำบุญของเราชาวพุทธ ผู้ตื่นผู้เบิกบานแล้วน่ะครับ.

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้