Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
ไม่มีแรงเลย ทำไงดีค่ะ?
งานหนักมาก ทำหลายอย่าง หมดแรงตอนเที่ยง งานยังมีอยู่ แต่ไม่มีแรง ไม่สามารถทำได้ ทำอย่างไรให้มีแรงบ้าง อาหารดิฉันทานน้อย แต่ทำงานมาก แต่ไม่อยากทานมากกว่านี้ กลัวอ้วนค่ะ ไม่ค่อยได้พักด้วย
6 คำตอบ
- popLv 78 ปี ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
(1). Cut out caffeine = งดกาเฟอีน
งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน โดยเฉพาะกาแฟ
กาเฟอีนออกฤทธิ์กระตุ้นได้นานจนถึง 7 ชั่วโมง และอาจนานขึ้นถ้ากินยาคุมกำเนิด ทำให้สารสื่อสมองที่ทำให้หลับทำงานได้น้อยลง และกระตุ้นฮอร์โมนเครียดจากต่อมหมวกไต
แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ) ก็ร้ายพอๆ กัน เนื่องจากทำให้สมองได้รับออกซิเจนน้อยลง นอกจากนั้นเครื่องดื่มกลุ่มนี้หลายชนิดยังมีน้ำตาลสูงอีกด้วย
(2). Cut out sugar = งดน้ำตาล
น้ำตาลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียดมากขึ้น
ถ้าอยากดื่มอะไรที่หวานๆ จริง... ควรลอง "สมูตตี (smoothie)" หรือใช้ผลไม้ทั้งผลปั่น ไม่กรองกาก (ไม่ใช่น้ำผลไม้กรอง)
เวลาดื่มน้ำผลไม้ปั่นทั้งผล... ไม่ควรจิบช้าๆ เนื่องจากกรดผลไม้อาจทำให้ฟันสึกได้
ทางที่ดีคือ ดื่มให้เร็วหน่อย บ้วนปากแรงๆ หลายครั้งหลังดื่มทันที ไม่แปรงฟันก่อน 30-60 นาที เนื่องจากหลังดื่มน้ำผลไม้ หรือกินผลไม้ใหม่ๆ เคลือบฟันจะอ่อนลงชั่วคราว ถ้าแปรงทันทีอาจทำให้ฟันสึกได้ง่าย
ควรกิน "ซูเปอร์ฟูด (superfood = อาหารคุณค่าสูง)" เช่น เบอรี (เมืองไทยเรามี 'mulberry' = ลูกหม่อน) บรอคโคลี ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายกลับคืนสู่สมดุล (rebalance) ได้เร็ว
(3). No processed fats = ไม่กินไขมันแปรรูป
ไขมันแปรรูปหรือไขมันทรานส์ (trans fats = ไขมันเติมไฮโดรเจน เช่น เนยขาว ครีมเทียม คอฟฟี่เมต) พบมากในอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) อาหารสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ เบเกอรี
ไขมันทรานส์ทำให้โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) และมีส่วนทำให้สุขภาพสมอง ตา ข้อ และผิวหนังแย่ลง
(4). Eat early, eat well = กินแต่เช้า และกิน(อาหาร)ดีๆ
ร่างกายคนเรามีระดับการเผาผลาญอาหารสูงสุดในช่วงเที่ยงวัน... อาหารที่ดีคือ อาหารที่กินแต่เช้า (ภายในชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน)
ควรกินมื้อเช้าและมื้อเที่ยงเป็น "มื้อหลัก" หนักไปทางโปรตีน (ถั่ว โปรตีนเกษตร เนื้อไม่ติดมัน ไข่ นมไขมันต่ำ) และไขมัน
อาหารมื้อเย็นควรเป็นมื้อเล็กหน่อย หนักไปทางคาร์โบไฮเดรต (คา��์บ = ผลไม้ ผัก ธัญพืช) ที่มีคุณค่าสูง เช่น ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้กรอง) ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี (เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ฯลฯ)
อาหารกลุ่มคาร์บช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย (relax) หลับสบาย และช่วยล้างพิษ (detoxity) ในช่วงที่เราหลับอยู่
(5). Make your food more colourful = ทำให้อาหารมีสีสัน หรือกินอาหารหลากสี
การกินพืชผักหลากสี ซึ่งทำได้ง่ายๆ โดยเทียบสีรุ้ง "ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง" หรือสีไฟจราจร "เขียว เหลือง แดง" แถมสีขาวของแสงแดด (ผักผลไม้ที่มีสีออกไปทางขาว เช่น หอม กระเทียม กล้วย ฯลฯ) และพยายามกินให้ได้ 5 สีขึ้นไปทุกวัน
การกินพืชผักหลากสีทำให้ได้สารคุณค่าพืชผัก หรือพฤกษเคมี (phytonutrients) ซึ่งช่วยป้องกันโรค ต้านการอักเสบ (ธาตุไฟกำเริบ) ล้างพิษ และช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมน
สารคุณค่าพืชผักตามธรรมชาติออกฤทธิ์แบบเสริมกัน ดังนั้นการกินธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ (การกินข้าวหลายสายพันธุ์มีแนวโน้มจะดีกับสุขภาพเช่นกัน) ผัก ผลไม้ ถั่ว เห็ดให้ได้วันละหลายๆ อย่างจะดีกับสุขภาพมากกว่าการกินอาหารอย่างเดียวมากๆ
(6). Sleep smarter = นอนให้เป็น หรือนอนอย่างฉลาดขึ้น (smart = ฉลาด; smarter = ฉลาดมากกว่า)
กฏข้อแรกของการนอนให้ดีขึ้นคือ ไม่ดู TV บนเตียง และไม่ใช้เตียงทำอะไรอย่างอื่น ยกเว้นการนอนกับเพศสัมพันธ์
พวกเราส่วนใหญ่มีธรรมชาติ "ไวต่อแสง" เพราะฉะนั้นกลางคืนควรหรี่แสง นั่นคือ ค่ำลงอย่าเปิดไฟจ้า เวลานอนปิดไฟ และพยายามอย่าให้แสงภายนอกเข้าไปในห้องนอน
ตรงกันข้ามกลางวันควรรับแสง... เมื่อตื่นนอนขึ้นมาควรเปิดไฟที่คล้ายแสงธรรมชาติ (หลอดไฟแต่ละรุ่นมีแสงคล้ายแสงธรรมชาติไม่เท่ากัน แสงไฟกลุ่ม 'cool white' จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า 'daylight' - ผู้เขียน) หรือเปิดประตู-หน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน เพื่อให้นาฬิกาเวลาทำงานได้ดี
(7). Breathe properly = หายใจให้เป็น (breathe = หายใจ; properly = อย่างเหมาะสม ถูกวิธี)
หาเวลาสบายๆ ก่อนนอนทำ 'breathing break (breathing = การหายใจ; break = เบรค ช่วงพัก)' หรือทำการหายใจแบบสบายๆ
วิธีการฝีก "หายใจแบบสบายๆ" ทำได้โดยการหาที่นั่งเงียบๆ ขอเวลาให้ตัวเองสัก 5 นาที นั่งตัวเกือบตรง (หลังไม่งอ และไม่เกร็ง)
วางมือข้างหนึ่งไว้ที่หน้าอกเบาๆ วางอีกข้างไว้ที่หน้าท้องเบาๆ...
หายใจเข้าช้าๆ เวลาหายใจเข้าให้ทำความรู้สึกว่า "หายใจเข้า ฉันผ่อนคลาย" , เวลาหายใจออกให้ทำความรู้สึกว่า "หายใจออก ฉันผ่อนคลาย"
สังเกตการเคลื่อนไหวของมือที่วางไว้บนหน้าท้อง... เวลาหายใจเข้า ท้องควรจะป่องออกเล็กน้อย ถ้าหายใจเข้าแล้วท้องไม่ป่องออกเลย แสดงว่า ยังหายใจไม่เป็น... ไม่ต้องตกใจ ขอให้หายใจช้าลง ร่างกายจะเริ่มผ่อนคลาย แล้วท้องจะป่องออกมาเล็กน้อยเวลาหายใจเข้าได้เอง
เรื่องหายใจนี้... คนไทยมีแนวโน้มจะรู้สึกว่า ท้อง "ยุบเข้า-พองออก (in-and-out)" คนชาติอื่นๆ ทั้งชาวพม่าและฝรั่งจะรู้สึกว่า ท้อง "สูงขึ้น-ลดลง (up-and-down)" ถนัดแบบไหนใช้ได้ทั้งนั้น...
(8). Choose gentle exercise = เลือกออกกำลังแบบนุ่มนวล
การออกกำลังแบบตะวันออก เช่น โยคะ มวยจีน ไทชิ-ไทเกก รำกระบองชีวจิต ฯลฯ ช่วยกำจัดความเครียด ทำให้ผ่อนคลาย ช่วยให้ท่าทางดีขึ้น
(9). Soak up the sun = อาบแสงแดดอ่อน
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า (ก่อน 9.00 น.) และยามเย็น (หลัง 16.00 น.) ให้พลังในการบำบัดสูงมาก
แหล่งข้อมูล: http://iam.hunsa.com/health2you/article/23898 - PongsakLv 58 ปี ที่ผ่านมา
ไม่ได้บอกเลยว่า งานที่ทำ เป็นงานใช้สมอง งานเอกสารหรืองานออกแรงกาย
แต่ทุกงานก็ต้องกิน ยิ่งงานหนักก็ต้องกินให้มากขึ้น
เมื่อเสร็จงานแล้วไปออกกำลังกาย เพื่อรีดเอาอาหารส่วนเกินออก
ยิ่งกลัวอ้วน ซ้ำร้ายยังกินน้อยอีก บวกกับไม่ค่อยได้พัก
ยิ่งเป็นผลลบกับสุขภาพมากขึ้นไปอีก จะทำร้ายร่างกายไปถึงไหน
ปฎิวัติการใช้ร่างกายใหม่ได้แล้ว เพื่อวันข้างหน้า
- SomkuanLv 68 ปี ที่ผ่านมา
สำหรับปัญหาของคุณนั้นมีทางเดียวที่แก้ได้คือ อดทนครับ ต้องพยายามออกกำลังกายครับ
- SincereLv 68 ปี ที่ผ่านมา
ออกกำลัง บ้างหรือเปล่า พี่ Jane ขา
ไม่เรียกมา หรือเสริมบ้าง ร่างล้าได้
พักผ่อนน้อย แรงที่ถอย จะมาไง
ทานน้อยได้ แต่ต้องถูก สุขอนามัย
สุดท้ายนั้น คือท่านเครียด เบียดสุขท่าน
สุขจริงนั้น กาย และจิต ทิ้งไม่ได้
อารมณ์ก็ต้อง ยิ้มรับ งานใดใด
ถ้าไม่ไหว คุยเพื่อนงาน ไขขานนาย
- 8 ปี ที่ผ่านมา
ร่างกายคนเรา ก็คล้ายกับเครืองยนต์ถ้าไม่เติมพลังงานหรือน้ำมันให้ถูกต้อง
และเหมาะสม เครื่องก็น๊อตเป็นธรรมดาและสาเหตุก็ทราบดีอยู่แล้ว
ขึ้นอยู่ว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปล่าเท่านั้นเอง