รับได้ไม่ ? ถ้ารักคนมีอดีต....?

อดีตไม่สำคัญ สำคัญแต่ตอนนี้ และ ต่อไป เท่านั้นเอง

คนทุกคนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อเราตัดสินใจที่จะ ก้าวไปด้วยกันแล้ว

สิ่งที่ต้องคิดคือ ปัจจุบัน และ อนาคต การบอกถึงอดีต อาจเป็นตัวบ่งบอกว่า คนนั้น เป็นอย่างไร แต่มันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ใข้ได้ไม่ใช้เหรอ เพราะฉนั้น เรื่องในอดีต มีไว้สอนเรา เป็นบทเรียนให้เรา เท่านั้นเอง

เคยได้ยินพระท่านกล่าวไว้ว่า "อดีต คือ ความฝัน ปัจจุบัน คือ ความจริง อนาคต ไม่แน่นอน " เพราะนั้นเราก็ควรที่จะก้าวต่อไปกับคนที่เรามั่นใจ และยอมรับอดีตในแต่ละคน ให้ได้เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน ครับ ^^"

อดีตไม่สำคัญ แต่ปัจจุบันต้องมีเราคนเดียว ไม่งั้นตายยยยยยย

อดีตเป็นบทเรียนในอนาคตค่ะ เราทุกคนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น เพียงแค่เราจะเอาอดีตที่ไม่ดีมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีได้หรือไม่ และเรายอมรับตรงนี้ในตัวเขาได้ไหม การที่คนเรารักบอกอดีตที่ผ่านมา เราน่าจะดีใจนะที่เขากล้าบอกดีกว่าจะปิดบัง อำพราง และมารู้ที่หลังซึ่งไม่จริงใจ ผู้ชายที่กล้าพูดความจริงในอดีตได้ถือว่าเป็นสุภาพบุรุษนะ เพราะอย่างน้อยเราทราบเรื่องราวของเขาและทำให้เราสามารถประครองชีวิตไปด้วยกันได้ คือการยอมรับในตัวเขา แต่ถ้าเรารับไม่ได้ก็ทำให้เราสามารถแยกจากกันได้ เพราะเรารู้อดีตของเขา

มีผู้ชายบางคนรับอดีตของผู้หญิงได้ เช่นกันมีผู้หญิงบางคนที่รับอดีตผู้ชายได้ แต่ที่สำคัญอยู่ที่เราสองคนมากกว่า ที่จะตัดสินใจค่ะ

ไม่ว่าใครต่างก็มีอดีตด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ อยู่ที่ว่าเราจะเปิดใจให้กว้าง และยอมรับเข้ามาหรือไม่ส่วนตัวผมแล้วไม่ว่ายังไงถ้าเรารักซะอย่างไม่จำเป็นต้องมีเปอร์เซนต์หรอกครับเพรา่ะผมคิดว่าไม่ว่าชายหรือหญิงค่าของของเขาย่อมเท่ากันครับ ถ้าคุณรับอดีตเขาไม่่ได้เรื่องต่อๆไปคุณอาจจะเอาตรงนั้นมาตัดสินก็เป็นได้ ฉนั้นนะครับ ผมรับได้เสมอครับ เพราะอดีตผ่านไปแล้วก็ผ่านเลยที่เหลือก็คือความทรงจำแค่เราไม่จำมันก็น่าจะพอนะครับ สิ่งดีๆก็ควรจำเรื่องไม่ดีก็ลืมๆไปบ้างก็ไม่เลวนะ

สนใจทำไมกับอดีตค่ะ ชีวิตเราอยู่กับปัจจุบัน

เมื่อเราคือคนปัจจุบัน เราก็สำคัญที่สุดแล้ว

ตราบใดที่มีพรุ่งนี้

เราย่อมมีเมื่อวาน

อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่หากปัจจุบันยังไม่ยอมแก้ไขตนเอง ก็สมควรที่จะรับไม่ได้ครับ

มนุษย์ จะมีอายุกี่วัน

มนุษย์ จึงใช้ความรัก ตอบแทนในทุกคำถามครับ

เรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อย่าใส่ใจกับมันมากจะดีกว่า มันก็ใช่ ถ้าคนที่เราดูๆ กันอยู่มาบอกว่ามีอดีตแย่ๆ แน่นอนเราอาจจะรู้สึกไม่ดี แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่สนใจมันหรอกครับ เราควรจะเปิดใจเรา ดูการกระทำในปัจจุบันของเขา เราควรดูว่าอดีตแย่ๆ บางอย่างของเขานั้นยังส่งผลหรือมีผลกระทบกับตัวเขาอยู่ไหม เขายังมีเงาของช่วงเวลาที่ไม่ดีนั้นอยู่หรือเปล่า ถ้ามีแล้วเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักก็น่าจะระวังไว้หน่อย เผื่อใจเอาไว้ก่อน ทางที่ดีเราควรจะช่วยให้เขาลบเงาของอดีตที่ติดตัวมา แล้วปรับปรุงตนเองในปัจจุบันให้เป็นคนที่ดีมากขึ้น ส่วนเปอร์เซ็นต์บอกไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ขึ้นอยู่กับตัวคนแต่ละคนด้วยนะ

ถ้าบอกกันตรงๆรับได้ค่ะ ถือว่าเขามีความจริงใจ และอดีตก็คืออดีต มันผ่านไปแล้ว ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ถ้าคิดมากชิวิตคู่ก็จะไม่สามารถเดินต่อได้

แต่ถ้าเขาไม่บอก แล้วเรามาทราบทีหลัง อย่างนี้ซิรับไม่ได้จริงๆ เขาอาจยังมีความหวังกันอยู่ก็ได้

ดังนั้นถ้าใครมีอดีตและยังไม่ได้บอกซึ่งกันและกัน ก็ขอให้หาจังหวะดีๆบอกให้เขาทราบเถอะ อย่าหลอกกันเลย

ทุกคนมี"อดีต"ทุกคน ส่วนจะรับได้หรือไม่ได้นั้น มันอยู่ที่การ"เปิดใจ"ให้รับรู้ซึ่งกันและกันว่าอะไร เป็นอะไร เป็นมาอย่างไร..

เมื่อเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา ก็ไม่ต้อง"ก่นด่าว่ากระทบกระเทียบเปรียบเปรยกันและกัน"..ภายหลัง..ให้ต่างคนต่างเสียความรู้สึก..

ส่วนมากฝ่ายหญิงจะรับรู้และยอมรับอดีตของฝ่ายชายเกือบ ร้อยเปอร์เซ็นต์.

แค่ฝ่ายชาย(อาจจะ)ยอมรับรู้อดีตของฝ่ายหญิงสามสิบเปอร์เซ็นต์..

อันนี้สมมุตินะ..ถ้าต่างฝ่ายต่าง"ทะเลาะกัน"แล้วฝ่ายหญิงว่า.."เธอนะ ผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อยแล้วมั้ง?"(เป็นคุณๆคิดว่าคำนี้เป็นไง?)

แล้วทางฝ่ายชายว่าบ้างละว่า"อย่างเธอ ผ่านผู้ชายมาเป็นร้อยแล้วมั้ง?"(เป็นคุณๆคิดว่าคำนี้เป็นอย่างไร?

รับได้ค่ะ กี่เปอร์เซนต์ไม่รู้ค่ะ

ถ้าเป็นอดีตน่ะ เราไม่ใส่ใจแน่นอน ไม่สนใจเลย รับได้ทุกอย่าง เต็ม 100% เลย ที่ผ่านมาเขาจะเคยเป็นยังไงก็เป็นกรรมของเขา และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถเปลี่ยนอดีตของตัวเองได้ (แล้วจะไปใส่ใจทำไม ถ้าปัจจุบันนี้คุณทั้งสองรักกันและดีต่อกัน แล้วจะต้องไปอดีตเอามาเป็นปัญหาทำไม)

แต่ถ้าปัจจุบัน อนาคตยังทำให้เป็นเรื่อง (ให้เป็นแบบในอดีต) อันนี้แกตาย ๆ ๆ ๆ ก๊าก... (คือเรารับไม่ได้ค่ะ ถ้ายังจะทำให้เป็นแบบในอดีต คนเราควรเรียนรู้ และอย่าทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ถ้ารู้แล้วว่าประวัติศาสตร์แบบนั้นมันไม่ดี ถ้ายังทำก็ต้องแหลกค่ะ)