Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
คุณคิดยังไงกับเรื่องที่นักโทษเรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ในเรือนจำแล้วออกมาประกอบอาชีพเ���็นทนายความ นิติกร ฯลฯ คะ?
คำถามนี้ เราแค่ต้องการฟังความคิดเห็น และมุมมองของเพื่อนๆ ค่ะว่า คุณคิดว่า ...
1. หากนักโทษคนนั้น สามารถผ่านทุกๆ ขั้นตอน ในการสอบคัดเลือกต่างๆ เช่น สอบเนติบัณฑิตผ่าน สอบตั๋วทนายผ่าน แล้วเนี่ย เขาสมควรจะมีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนชาวไทยคนอื่นๆ ในการประกอบอาชีพทางด้านกฎหมายโดยตรงหรือไม่คะ
2. ถ้าให้คุณชั่งน้ำหนักระหว่าง "การให้โอกาสแก่คนที่กลับใจ" กับ "การเอาความปลอดภัยของส่วนรวม ไปแขวนไว้กับความไม่แน่นอน" เนี่ย คุณคิดว่า คุณจะเลือกทำอย่างไหน จึงจะเกิดผลดี / มีประโยชน์กับทุกฝ่าย มากกว่ากันคะ
ที่บอกว่า "การเอาความปลอดภัยของส่วนรวม ไปแขวนไว้กับความไม่แน่นอน" นั้น เราหมายความว่า คนที่เคยทำผิด เช่น สมมติว่า เคยลักขโมย มาแล้วเนี่ย ...จริงอยู่ที่เขากลับใจเป็นคนดีได้แล้ว ไม่เช่นนั้น คงไม่หันมาร่ำเรียนหนังสือ ...
แต่เราจะ "เชื่อมั่น" ได้หรือไม่คะ ว่า คนๆ นั้นจะ ไม่หลงเหลือความรู้สึกเข้าอก เข้าใจ เห็นใจคนที่เคยทำผิดมาเหมือนกัน???
เพราะการที่คนๆ หนึ่ง มีวินัย และเคร่งครัดกับตัวเอง คือ สามารถบังคับตัวเองให้ประพฤติตัวในทางที่ถูก ที่ควรได้อย่างน่าสรรเสริญนั้น ... บางทีมันก็ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะ หมดความลำเอียง หมดความเข้าใจ / เห็นใจ คนที่ทำผิดในแบบเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันกับที่ตัวเขาเองเคยทำ / เคยเป็น และก็ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะต้องไปบังคับ / จูงใจ / สั่งสอน / แก้ไข ฯลฯ ให้คนอื่นๆ หันมาทำดี เหมือนกับที่เขาทำด้วยนี่คะ
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ จากเรื่องที่ไม่ได้มีความร้ายแรง
อะไรเลยนะคะ เช่น สมมติว่า คนๆ หนึ่ง เป็นคนที่มีนิสัยขี้งอนมากๆ โดยไม่มีเหตุผล ต่อมาตัวเขาเอง เลิกนิสัยนี้ได้โดยเด็ดขาด ... แต่ถึงกระนั้น เขาก็จะยังคง มีความเข้าใจว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนๆ หนึ่งขี้งอน ได้มากขนาดนั้น และเขาก็จะไม่ค่อยโกรธ / ไม่ถือสา คนที่ขี้งอนมากๆ และอาจจะไม่ไปสั่งสอน / จูงใจ / แก้ไขคนๆ นั้น ให้เลิกขี้งอนเหมือนเขาก็ได้ ... ดีไม่ดีเขาอาจจะไปง้อฝ่ายหลังนี้ด้วยซ้ำ เพราะเหตุว่า ตัวเขาเองนั้น มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ว่าทำไมคนเราถึงขี้งอน ... และความรู้สึกที่ว่านี้ ก็ "อาจจะ" มีส่วนทำให้ความเด็ดขาด ความยุติธรรม ฯลฯ ลดน้อยลงไปก็ได้
ถ้าหากว่า เรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริสุทธิ์ / การให้ความยุติธรรมกับโจทก์ - จำเลยนั้น เหมือนกับเรื่องคนขี้งอน กล่าวคือ ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะส่งผลร้ายแรงอะไรมากมาย มันก็คงไม่เป็นอะไรมากนัก
แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นน่ะสิคะ ... อย่างนี้แล้วเนี่ย เพื่อนๆ คิดว่า เราควรจะมีวิธีการอย่างไร ในการจัดการกับเรื่องการเรียน - การประกอบอาชีพด้านกฎหมายของนักโทษคะ
ขอรบกวนเพื่อนๆ ได้โปรดช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
....................................................................
ขอบคุณ คุณเอก กับคุณฮิเดโกะฯ นะคะ ที่เข้ามาตอบให้เราเร็วมากๆ และได้ให้ข้อคิดเห็นที่ดีๆ อีกด้วย
เวลาในการตอบคำถามนี้ ยังเหลืออีกหลายวัน เราจึงอยากจะขอให้เพื่อนๆ ท่านอื่น ได้โปรดสละเวลาเข้ามาตอบกันอีกนะคะ
ขอบคุณค่ะ
......................................................................
ขอขอบคุณ คุณ Lekky 1991 ด้วยค่ะ ที่เข้ามาตอบให้เรา ... พอเรากดส่งข้อความขอบคุณ คุณเอก กับคุณฮิเดโกะฯ เสร็จ ก็เพิ่งจะมาเห็นข้อความที่คุณตอบเรามา เลยไม่ได้ขอบคุณพร้อมกัน 3 คน ตั้งแต่ทีแรกน่ะค่ะ
........................................................................................
เราขอขอบคุณ คุณ Jirasak และคุณ กบเล มากนะคะ ที่ทำให้เรามองเรื่องนี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งก็เป็นแง่มุมที่ดีมากๆ
โดยความสัตย์จริงแล้ว การที่เราตั้งคำถามนี้ขึ้นมาเนี่ยนะคะ ... เรา ไม่ได้ต้องการที่จะเจาะจงไปที่ งานประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อจะไปวิจารณ์ว่า งานประเภทไหนดี / ไม่ดี หรือ อะไรดีกว่าอะไร ทำไมถึงดีกว่า ฯลฯ เลยจริ��ๆ นะคะ ...
และการที่เรายกตัวอย่างอาชีพทั้ง 2 ในคำถาม แล้วใส่ "ฯลฯ" นั้น ก็เพราะว่า เราไม่สามารถที่จะพิมพ์ชื่อของ "ตำแหน่งงานในสายกฎหมาย" ลงไปในหัวข้อของคำถามได้ทั้งหมด ดังนั้น เราจึงละไว้แค่นั้น แล้วใส่ "ฯลฯ" แทนค่ะ
อีกอย่างก็คือ เราต้องการให้คนอ่าน เข้าใจได้ว่า ... ถ้า "สมมติ" ว่าในสายงานทางด้านกฎหมายนั้น มี "ตำแหน่งงาน" ที่เกี่ยวข้องอยู่ในสายงานนี้ 10 ตำแหน่ง ... ทั้ง 10 ตำแหน่งนี้ ก็ย่อมจะมีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และไม่ว่าคนเรา จะเข้าไปทำงานตรงจุดไหน แต่ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม มันก็ต้องกระทบ 10 ตำแหน่งนี้บ้าง ไม่มากก็น้อยอยู่
ดี ดังนั้น ตอนที่พิมพ์คำถาม เราจึงยกตัวอย่างแค่ 2 อาชีพนี้ขึ้นมา โดยที่เราไม่ได้มีความคิดร้ายใดๆ กับ 2 อาชีพนี้ เพียงแต่เราแค่คิดว่า คนที่อ่านคำถามของเรานั้น คงจะเข้าใจได้ว่า เราเจตนาจะถามความคิดเห็น ในประเด็นที่ว่า "ถ้าให้นักโทษมาทำงานในสายกฎหมาย ไม่ว่าจะเข้ามาตรงจุดไหนก็ตามเนี่ย คุณคิดว่า มันเหมาะสมหรือไม่ และเพราะอะไร?" เท่านั้นเองจริงๆ ค่ะ
โดยส่วนตัวของเราแล้ว การที่เราแสดงความเห็นตามที่เพื่อนๆ ได้อ่านไปแล้วนั้น ก็เป็นเพราะว่า ในบรรดาวงศาคณาญาติของเรานั้น มีคนทำงานในสายกฎหมายอยู่ด้วย และตัวเราเองก็เคยไปเป็นพยานในศาลค่ะ
เราจึงอยากจะแสดงความเป็นห่วง เฉพาะในสิ่งที่เราได้เคยพบเห็นมาแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่บางส่วน ... และในขณะเดียวกัน เราก็อยากรู้ด้วยค่ะว่า คนอื่นๆ ที่เขามองจากอีกด้านหนึ่งของปัญหาเนี่ย เขาจะพูดว่าอย่างไรกันบ้าง
ซึ่งในเรื่องนี้ เราก็อยากจะบอกเพื่อนๆ ค่ะว่า เรารู้สึกยินดีจริงๆ ที่เพื่อนๆ ให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ และได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้เราอีกหลายอย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องดีๆ ที่เราจะไม่มีวันหาได้จากที่อื่นๆ
และขอกล่าวประโยคเดิมอีกครั้งค่ะว่า ...
เวลาที่จะใช้ในการตอบคำถามนี้ ยังเหลืออีกหลายวัน ... ขอให้เพื่อนๆ ได้โปรดสละเวลาเข้ามาตอบคำถามกันอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
................................................................................................................
อยากบอกเพื่อนๆ ค่ะว่า ใจจริงแล้ว เราอยากจะ vote ให้กับทุกๆ คำตอบ ที่สามารถ "เขียนบรรยายให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจน" ว่า ผู้ตอบ มีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ ...
ทั้งนี้ โดย "ไม่มีข้อจำกัด" ว่า คุณจะมีความคิดเห็นไปในแนวทางใด และ ถึงแม้ว่า แต่ละท่าน จะมี "วิธีที่จะอธิบายให้เราฟัง" แตกต่างกันไป ตามสไตล์ของแต่ละท่าน ... แต่นั่นก็ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร สำหรับเราค่ะ
เพราะจุดประสงค์ของเรานั้น มีเพียงแค่ว่า ต้องการจะเกิดความเข้าใจว่า คนอื่นๆ คิดอย่างไรกันบ้าง เท่านั้นเองค่ะ
แต่เนื่องจาก เขาให้เรา vote ได้แค่ 1 คน (น่าเสียดายมากๆ) เพราะฉะนั้น เราจึงขออนุญาต เลือกเอาคนที่เราคิดว่า เข้าหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ "มากที่สุด" ก็แล้วกันนะคะ
1) แสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างชัดเจน / เห็นภาพ และ ละเอียดละออ
2) โต้แย้งได้อย่างมีเหตุมีผล
3) ตอบคำถามได้ตรงประเด็น
4) ตอบโดย "ไม่คิดว่า" ผู้ถาม เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณ หรือ อะไรในทำนองเดียวกันนี้
ขอบคุณค่ะ
.................
13 คำตอบ
- กบเลLv 51 ทศวรรษ ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
"การเอาความปลอดภัยของส่วนรวม ไปแขวนไว้กับความไม่แน่นอน"
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
1.นักโทษใช่ว่าจะตั้งใจทำผิดกันทุกคน
2.เจตนาในการเลือกเรียนของเขาก็น่าสนใจ
-ตั้งใจแก้แค้นที่กฏหมายลงโทษตน
-เรียนเพื่อช่วยคนที่ไม่ได้ตั้งใจทำผิด(เช่นตัวเอง)
-เรียนเพราะมีเวลาและเป็นวิชาชีพที่ดีกว่าอาชีพอื่นที่มีฝึกสอน
ในเรือนจำ
3.ในชีวิตจริงคนในสายอาชีพที่อาศัยกฏหมายหากินก็มีคนชั่วแฝง
ตัวอยู่มาก ทำให้คนติดคุกโดยปราศจากความผิดก็เยอะ
4.ในชีวิตจริงคนรวยเมื่อมีคดีกับคนจนผลของคดีมักเป็นที่รู้กัน
5.ทนายอาสาในศาลเท่าที่เคยเห็นมันคือกระบวนการเอาคนจนเข้าคุก
โดยกระบวนการกฏหมายเพราะไม่เห็นว่าทนายจะคิดช่วยผู้ต้องหา
แบบจริงใจ ที่ทำเพราะเป็นกฏบังคับให้ต้องทำเพื่อรับใช้สังคมเท่านั้น
สรุป
เป็นนักโทษเพราะผิดเพียงเรื่องเดียว คนที่ไม่ใช่นักโทษอาจทำผิด
มากยิ่งกว่าเค้าก็เป็นได้
เค้าจะดีจะเลวอยู่ที่การกระทำหลังออกจากคุก
หากเค้าวางตัวดีควบคุมอารมณ์ดีบุคลิกดีพูดดี
เป็นผมผมก็เลือกเค้าเข้าทำงาน
- เอกLv 71 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
นักโทษที่อยู่ในเรื่อนจำนั้น จะผ่านกระบวนการอบรมบ่มนิสัย ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ
ผู้ที่ได้รับการลงโทษครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้ว คนในสังคมบางคนจะถือว่าเขาไม่มีความผิดแล้ว ให้โอกาสเขา
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนในสังคมแต่ละคน
ไม่ได้หมายความว่า เรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ในเรือนจำแล้ว จะออกมาประกอบอาชีพเป็นทนายความ นิติกร ฯลฯ ได้ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับนายจ้างด้วยครับ
ถ้าจะเป็นข้าราชการ จะกำหนดคุณสมบัติทั่วไปของผู้มีสิทธิสมัครสอบเป็นข้าราชการไว้ว่า
"ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ"
ฉะนั้น จะเป็นข้าราชการไม่ได้
ส่วนการทำงานอื่นที่ไม่มีกฎหมายห้าม ผมคิดว่าควรให้โอกาสเขาเหมือนคนทั่วไป ถึงแม้ว่าการเคยทำความผิดจะมีทั้งข้อดีข้อเสีย เช่น รู้ซึ้งเข้าใจคนที่ทำความผิด ตามที่คุณบอก ซึ่งก็เป็นได้ทั้งข้อดีข้อเสีย
และคนทั่วไปที่ไม่เคยถูกลงโทษให้จำคุก ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคนดีมากหรือน้อยกว่าคนที่เคยถูกจำคุก
เมื่อไม่มีอะไรชัดเจนแน่นอน ก็ควรให้โอกาสคนทั่รับโทษครบถ้วนจนพ้นโทษแล้ว เหมือนคนทั่วไป ครับ
- ?Lv 61 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
บุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ คือการให้โอกาสคน
ดิชั้นไม่คิดว่า การที่นักโทษจิตสำนึกดีๆ ขยันจนถึงขนาดเรียนนิติจบมาได้ จะเป็นคนแบบที่คุณกลัวหรอกค่ะ คุณรู้มั้ยว่า กว่าจะจบมาได้ คนพวกนี้ต้องผ่านบททดสอบอะไรมาบ้าง ไม่ใช่แค่นั่งเรียน ก็ได้เกรดมา
สิ่งที่เราทำได้คือ หวังว่าเขาจะเป็นทนายที่สังคมให้โอกาสเขาทำงาน มิใช่ให้มานั่งระแวง
ตัวเราอยู่ในที่แคบได้ แต่อย่าให้ใจแคบ...ค่ะ
- ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
การศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้คนเราหลุดพ้นความยากจนได้ บ้างไม่มากก็น้อย
การศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้คนเราหลุดพ้นความยากจนได้ บ้างไม่มากก็น้อย
การศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้คนเราหลุดพ้นความยากจนได้ บ้างไม่มากก็น้อย
1.กว่าจะประกอบอาชีพทนายความ มีขั้นตอน ระเบียบ ที่ชัดเจน รัดกุมในตัว
2.คุณลองตอบคำถามตัวเองสิว่า ทนายที่ไม่เคยผ่านการติดคุก เรียนจบจากสถาบัน ดีมีชื่อเสียง เขาทำงาน เพื่อความถูกต้อง เพื่ออุดมการณ์ หรือเพื่อเงินที่ลูกความมาจ้าง?
3.กรณี ถ้าเขาได้เป็นทนายความ คุณคิดว่าเขาจะเปลี่ยนสีดำให้เป็นขาวได้ทั้งหมดหรือไม่ เอาความเห็น มาหักล้างผู้พิพากษาได้ทั้งหมดหรือไม่ เปลี่ยนแปลงโลกนี้ทั้งหมด เปลี่ยนแปลงวงการยุติธรรมได้ทั้งหมดหรือไม่
4.ก���รกลับตัวกลับใจของเขา เป็นคนดี เป็นไปได้หรือไม่ ไ่มีใครรู้
- กรณีเป็นคนดี อันนีก็จบ หายสงสัย
- กรณีเป็นคนไม่ดี ว่าความแบบหัวหมอ คุณคิดว่าเขาจะอยู่ได้หรือไม่ ผมว่าไม่ได้แน่ๆ
5.การขึ้นศาลเพื่อทำหน้าที่ เขาก็ต้องไปซักถามกับทนาย เหมือนกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ มันมีเหตุมีผลในการที่ผู้พิพากษาจะต้องพิจารณา
ุ6.ให้เขาได้ทำมาหากินบ้างเถอะครับ ออกมานอกคุกแล้วไม่มีข้าวฟรีกินเหมือนในคุกแล้ว ชีวิตยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจ ก็ต้องทำมาหากิน ต้องเลี้ยงชีพ ต้องกินข้าว ไม่มีงานทำ ไม่มีข้าวกิน เดี๋ยวเขาหาเรื่องกลับเข้าคุกอีกรอบ จะทำยังไง
ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือก สังคมจะเป็นผู้ตัดสิน ผมเองเชื่อว่าการที่คนเหล่านี้เลือกที่จะเรียนกฏหมาย คงไม่ใช่ต้องการเป็นทนายเพียงอย่างเดียว ติดคุกแล้วจะพึ่งใคร ถ้าไม่มีตังก็พึ่งตัวเอง เรียนเองเลย เพราะไม่มีใครตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้เรื่องกฎหมายได้ตลอดเวลา ประกอบกับมีเวลาเหลือให้ศึกษาเล่าเรียนในคุก
เรื่องที่คุณกล่าวมานั้นอาจเป็นไปได้ ส่วนผมก็แสดงความเห็นตามที่ได้คิด
ขอเเนะนำให้ดูหนังเรื่อง (ไม้ได้ล้อเลียนว่ามีเฉพาะในหนังน่ะ) Goodwill hunting ที่พระเอกเอากฎหมาย ช่วงปี คศ 1800-1900 มาหักล้างคดีชกต่อย ที่เกิดในปัจจุบันได้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่อัจริยะ แมท เดม่อน(เขีบนบทเรื่องนี้ได้รางวัลตุ๊กตาทอง) กับ เบน อัลเฟ็กแสดง เรื่องนี้ได้รางวัลตุ๊กตาทองด้วย สอง สาม รางวัล
- ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
...ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่านักโทษที่ได้รับการตัดสินว่ามีความผิดและได้รับโทษนั้นบางคนอาจจะเป็นการทำผิดที่คนผู้นั้นคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นความผิดหรือไม่ใช่เป็นการทำผิดโดยสันดานนั่นเอง....!
.....จึงไม่อยากให้ตัดสินคนที่ต้องโทษติดคุก.."ทุกคน" ว่าเป็นคนเลว เพราะการที่คนจะเลวนั้นต้องเป็นคนที่เลวโดยสันดาน จนไม่อาจจะแก้ไขได้แล้วเท่านั้นต่างหาก
.....ดังนั้นคำว่า.."นักโทษ"จึงไม่ใช่เพียงแค่ว่าคนๆหนึ่งต้องติดคุกแล้วเขาจะต้องเป็นคนเลวเป็นคนที่สังคมตราหน้าตำหนิว่าเขาไม่สามารถเป็นคนดีได้อีกเลย อย่าเพียงแค่ใช่เหตุการณ์ตรงนี้แล้วไปตัดสินความดีความเลวของคนเพียงแค่ว่า.."คนที่ติดคุกคือคนเลว"
.....แล้วคนที่ไม่เคยติดคุกเลย แต่มี.."พฤติกรรม" เลวเสียยิ่งกว่าคนที่อยู่ในคุกหลายเท่าอย่างที่ในสังคมเราก็เห็นกันอยู่นั้น จะไม่ยิ่งน่ารังเกลียดน่าละอายน่าขยะแขยงเสียยิ่งกว่า คนที่แม้จะได้ชื่อว่าเคยติดคุกแต่เขาได้รับการขัดเกลาจิตใจได้เล่าเรียนศึกษาหาความรู้เพื่อต้องการออกมาประกอบอาชีพที่สุจริตเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไปในภายหน้า ทำไมเราจึงไปจำกัดความดีงามที่เขาควรจะได้รับด้วยหรือ สังคมจะไม่ให้โอกาศเขาเลยหรือ.....
.....แล้วเราคิดว่าในสังคมนี้คนที่เชิดหน้าชูตากันอยู่นั้น ทุกๆคนเป็นคนดีกว่าคนที่ได้รับโทษติดคุกอยู่จริงหรือ อยากให้ใช้สติและความเป็นธรรมตัดสินใหม่ด้วยนะครับ
.....เพราะที่จริงแล้วค่าของคนอยู่ที่.."พฤติกรรม"ของคนๆนั้นเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะว่าถ้าคนที่ติดคุกทุกคนแล้วจะต้องเป็นคนเลวไปหมดทุกคน จนสังคมไม่ให้โอกาศที่จะให้เขาได้ยืนอยู่ในสังคมอย่างสง่าผ่าเผยไม่ได้อีกเลย ให้โอกาศเขาบ้างเถอะครับ.....!!!
- ตัว ต.Lv 71 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ควรให้โอกาสค่ะ การเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ประกอบอาชีพสุจริต เป็นสิ่งทีดีค่ะ น่าให้โอกาส อย่างน้อยเป็นบทเรียนที่ควรจดจำแก้ไข และเมื่อเขาได้อบรมฝึกฝนจากเรือนจำ ก็ทำให้เขาเห็นคุณค่าของการประกอบอาชีพที่สุจริตและเป็นประโยชน์ต่อสังคมค่ะ และประเทศชาติต่อไปค่ะ
- นายขันติLv 61 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ได้เห็นข่าวเหมือนกันคับ
ส่วนตัว มิได้รังเกียจผู้ที่เคยกระทำผิดแล้วได้อิสระภาพมาสู่โลกภายนอกเลย
กลับคิดว่าดีซะอีก ออกมาแล้วได้ประกอบอาชีพสุจริตทำ
ไม่เป็นตัวถ่วงสังคมต่อไป ส่วนที่เหลือคงเป็นจิตใต้สำนึกของคนๆนั้นในการดำรงชีพต่อไปในโลกใบนี้ จากภาพข่าว ดูแล้ว บัณฑิตเหล่านั้นมีความภาคภูมิใจที่ได้กลับตัวกลับใจอีกครั้งนึง เชื่อว่าออกมาแล้วคงไม่อยากกลับเข้าไปรับปริญญาอีกใบหรอกคับ...
- ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
เค้าเข้มแข็งจัง สามารถอดทน เรียนสำเร็จ แล้วออกมาทำอาชีพสุจริตได้ พลังใจดีมาก หาได้น้อย เพราะส่วนใหญ่สังคมมีอคติต่อนักโทษ นักโทษจะท้อแท้ หมดกำลังใจ และประชดสังคม โดยทำเลวซะเลย แต่เขากล้าที่จะสวนน้ำขึ้นมา ต้องปรบมือดังๆ และเป็นกำลังใจให้ค่ะ เยี่ยมมาก ขอให้คุณคนนั้น นึกถึงในหลวงเข้าไว้ ทำดีเพื่อพ่อเราค่ะ เยี่ยม
........................................
แต่ถ้าเขาคิดจะนำความรู้ที่มี อำนาจที่มี มาทำร้ายสังคม ทำร้ายผุ้บริสุทธิ์ เราคนไทย อยุธยาไม่สิ้นคนดีค่ะ เชื่อว่าจะต้องแพ้ภัยตนเองไป แน่นอน
- 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ความผิดที่ผ่านมา เขาคงสำนึกเพราะคนรู้จักเขาทั่วประเทศไทย ยกเว้นเด็กๆ
สงสารเขามากกว่า ว่าเขาออกมาสังคมจะยอมรับเขาอย่างไร
เขาจะเชิดหน้าอยู่ในสังคมอย่างไร อยากให้สังคมให้โอกาส อย่าซ้ำเติมเลย
แต่ว่าถ้าอาชีพที่เขาจะทำนั้น ใครจะเป็นผู้จ้างวานเขาหล่ะ ความผิดที่เขากระทำนั้น
เราไม่ลืมหรอก เสียดายไอคิวเค้าน่ะ เกรงว่าถ้าทุกคนมองเค้า คอยจับผิดเค้า
ตลอด เรารู้สึกว่าเหมือนตกนรกคนเป็นเลย ถามความคิดเรา สรุปเราสงสาร
เค้ามากกว่าน่ะ