Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

Lv 2481 points

Pizzy

คำตอบทีโปรดปราน62%
คำตอบ37
  • ถ้าคุณเจอเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปคะ?

    คือ ตอนนี้น้องที่เป็นญาติสนิทของเราคนหนึ่ง กำลังเสียใจกับเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นอย่างมาก จนเราไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดีค่ะ ดังนั้น เราจึงอยากจะถามเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ค่ะว่า ถ้า "สมมติว่า" คุณได้เจอกับสถานการณ์ทั้ง 14 ข้อ ดังต่อไปนี้ แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปคะ???

    1. คุณได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุมากกว่าคุณ 2 ปี (แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคุณอายุน้อยกว่าเขา 2 ปี เพราะคุณเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเขา) และเรียนจบจาก ม.ราชภัฎแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2547

    2. ในตอนที่คุณรู้จักกับคนคนนี้เป็นครั้งแรก ที่ ม.รามคำแหงนั้น เขายังไม่ได้ทำงาน คือ หลังจากเรียนจบ ก็อยู่บ้านเฉยๆ มาโดยตลอด ตัวคุณเองก็ยังไม่ได้ทำงานเหมือนกัน แถมยังไม่ได้รับปริญญาของ ป.ตรีใบแรกเลยด้วยซ้ำ และเพราะว่าทั้งคุณและเขา ยังไม่มีงานทำกันทั้งคู่ จึงเป็นสาเหตุให้ไปสมัครเรียนที่ ม.รามคำแหงเหมือนๆ กัน

    3. ที่ ม.รามคำแหงนั้น คุณกับเขาก็ได้พบปะพูดคุย กินข้าวด้วยกัน ไปนั่งเรียนหนังสือด้วยกัน ฯลฯ และการทำเช่นนี้ ทำให้คุณเกิดความรู้สึกชื่นชม ประทับใจ และสนิทสนมกับคนคนนี้เป็นอันมาก เพราะเขามีบุคลิก นิสัย และแนวความคิดหลายๆ อย่างที่ถูกใจคุณมากๆ

    4. คนคนนี้รับรู้ว่าคุณเคยเรียนจบจากมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ที่ติดอันดับ top five ของประเทศไทยมาก่อน และเขาก็ได้ถามคุณเกี่ยวกับเรื่องมหาวิทยาลัยเก่าของคุณเป็นอันมาก ซึ่งคุณก็ตอบไปอย่างเปิดเผย และบริสุทธิ์ใจ (เพราะคุณต้องการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดีกับคนคนนี้ กล่าวคือ คุณไม่อยากโกหกตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะกลัวจะเสียเพื่อนในภายหลัง ถ้าหากเขามาจับได้ว่าคุณโกหก) เช่น บอกว่าคุณเรียนเมเจอร์อะไร เพื่อนฝูงที่คณะเป็นยังไง ฯลฯ

    5. คนคนนี้ได้ถามคุณในช่วงที่เรียนด้วยกันว่า คุณทำงานหรือยัง และถ้าทำ ทำมานานเท่าไหร่แล้ว ... ซึ่งอันที่จริง ในตอนที่เขาถามคำถามนี้ คุณยังไม่ได้ทำงานเลย แต่เพราะคุณหวังดีกับคนคนนี้มาก เนื่องจากมีความรู้สึกที่ดีๆ ต่อเขา (คือ อยากให้เขามีงานทำเสียที) ตามที่เราได้เล่าเอาไว้ในข้อที่ 3. ดังนั้น คุณจึงโกหกเขาไปว่า คุณกำลังทำงานอยู่กับ บริษัทในเครือของสำนักพิมพ์ที่ชื่อ A และบอกว่า พอคุณเรียนจบมาได้ 3 - 4 เดือนก็ได้มาทำงานในบริษัทที่ว่านี้เลย นอกจากนี้ คุณยังยุ / แนะนำ / โน้มน้าวใจ ให้คนคนนี้ไปสมัครงานอีกด้วย

    6. ผลที่เกิดขึ้นจากข้อ 5. นั้น มี 2 อย่าง คือ หลังจากเรียนที่ ม.รามคำแหงด้วยกันมาได้ 3 - 4 เดือน คนคนนี้ก็ "ได้งาน" ในตำแหน่งพนักงานขาย ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง และเขาก็เลิกเรียนที่ ม.รามคำแหง

    7. ความที่ทั้งคุณและเขา ยังมีความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกัน ดังนั้น แม้ว่าเขาจะลาออกจาก ม.รามคำแหง หลังจากที่เรียนไปได้แค่ 3 - 4 เดือน แต่ทั้งคุณและเขา ก็ยังโทรคุยกัน ส่งอีเมล์ถึงกัน นัดไปกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ด้วยกันตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งยังบอกที่อยู่ของแต่ละฝ่าย ให้แก่กันด้วย

    8. ในช่วง 1 - 2 ปีแรกที่รู้จักกัน คุณ "ไม่ได้เอะใจ" เลยสักนิด ว่าทำไมคนคนนี้ ถึง "ไม่ค่อยอยาก" ตอบคำถามที่คุณถาม "เกี่ยวกับตัวเขา" และ "ไม่ค่อย" แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเอง เป็นต้นว่า เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฯลฯ เพราะคุณมองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนเราอาจจะเกิด "ความรู้สึกได้หลายๆ อย่าง" เวลาที่ได้รู้จักกับคนที่เรียนจบจาก “ต่างสถาบัน” ... ดังนั้น คุณจึงยังคงแสดงความชื่นชม แสดงการให้เกียรติ์ และแสดงความเป็นมิตรอย่างจริงใจ ในทุกๆ วิถีทาง เท่าที่คุณจะมีโอกาสทำได้ ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม เพราะในสายตาของคุณแล้ว คุณมองว่าคนคนนี้ "เป็นคนเก่ง คนดี และเท่าเทียมกับคุณในทุกๆ ด้าน"

    9. แม้คุณจะรู้ดีว่า คนคนนี้พยายามที่จะ "ทดสอบ" คุณในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านความรู้ นิสัย คุณธรรม ความชอบ อารมณ์ ฯลฯ แต่คุณก็ "ไม่ถือว่า" นั่นเป็นการ "ท้าทาย" หรือ "ลองเชิง" กล่าวคือ คุณยอมให้เขาทดสอบได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด และคุณก็ยอมเปิดเผย / บอก / เล่า ในสิ่งที่เขาอยากรู้ โดยบอกไป "ตามความเป็นจริง" เท่าที่พอจะทำได้ (คือ เปิดเผยในเรื่องที่ "ไม่เป็นความลับจนเกินไป")

    10. แม้ว่าในบางครั้งที่นัดเจอกัน คนคนนี้จะ "จำวันนัดผิด" "ไปสายกว่าเวลานัด" หรือ "ไปถึงสถานที่นัดพบแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากไปเที่ยวด้วยกันตามแผนที่กำหนดไว้ จึงโทรบอกคุณว่า เขาจะกลับบ้านแล้วนะ" แต่คุณก็ยังมีความอดทนที่จะแก้ปัญหา โดยคุณมักจะใช้วิธีโทรไปคุยกับคนคนนี้เองโดยตรง หรือไม่ก็ส่งจดหมายไปเพื่อปรับความเข้าใจต่างๆ เพราะคุณยังคงมีความคิดว่า มิตรภาพย่อมต้องมีอุปสรรคบ้าง เป็นธรรมดา ถ้ายังไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ คนเราก็สมควรจะต้องอดทนบ้าง

    11. คนคนนี้อ่านจดหมาย (ที่คุณส่งไป) จนจบทุกฉบับ ไม่ว่ามันจะสั้น - ยาวแค่ไหน และบอกคุณทางโทรศัพท์ / SMS (โดยไม่เคยเขียนจดหมายตอบเลย) ว่า เขารู้สึกขอบคุณในความมีจิตใจอันดีงาม ฯลฯ ของคุณ ... ในกรณีที่คุณส่งอีเมล์ หรือ SMS ถึงคนคนนี้ เขาก็ "แทบจะไม่ตอบเอาเสียเลย" ยิ่งถ้าเป็นอีเมล์ด้วยแล้ว ถามอย่างหนึ่ง บางทีก็กลับตอบไปอีกอย่างหนึ่ง ราวกับว่า "ไม่ได้สนใจ" ในสิ่งที่คุณถามเอาเสียเลย และกว่าจะตอบกลับมาสักที บางครั้งก็นานมากๆ จนน่าโมโห ... หรือถ้าเป็นกรณีที่ส่ง SMS ถึงกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถามอะไรเขาไปทาง SMS ก่อนหรือไม่ แต่คำตอบของเขาจะมีอยู่แค่ 2 อย่าง คือ “คิดถึงเธอนะ” และ “หวังว่าเธอคงสบายดี” เท่านั้น ส่วนคำตอบอย่างอื่น นอกเหนือไปจากนี้ จะ "มีน้อยมากๆ"

    12. ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนจดหมายไปปรับความเข้าใจตั้งหลายๆ ฉบับ โดยเฉพาะในเวลาที่เกิดเหตุการณ์ตามข้อ 10. แต่คนคนนี้ ก็ "ไม่เคย" แสดงความโกรธ เย็นชา หรือเกลียดชังในตัวคุณเลย กล่าวคือ เขายังคงโทรมาหา แม้ในช่วงเวลาที่คุณหายเงียบไปนานๆ ทั้งๆ ที่ "คนส่วนมาก" มักจะมี "ทิฐิ" คือ ถ้าใครมาพู

    5 คำตอบเพื่่อน1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • ถ้าชาวไทยพุทธ อยากเรียนรู้ภาษาที่ใช้จารึกคัมภีร์อัลกุรอาน และอยากเรียนภาษาอารบิก จะไปเรียนที่ไหนได้บ้างรึไม่?

    ถ้าเป็นภาษาบาลี - สันสกฤตนั้น เรายังพอจะรู้ว่า มีที่ไหนเปิดสอนบ้าง แต่ภาษาข้างต้นนี้ ... ถ้าหากเรา ไม่ได้เป็นชาวมุสลิม แล้วเราจะพอหาที่เรียนในเมืองไทย ได้บ้างหรือไม่คะ หรือว่า ต้องไปเรียนในต่างประเทศ และต้องเปลี่ยนศาสนาก่อน

    แค่ถามเป็นความรู้เอาไว้เฉยๆ น่ะค่ะ และขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ

    1 คำตอบภาษา1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • เท่าที่คุณทราบนั้น หนังสือเกี่ยวกับ "นัสรูดิน" มีกี่เล่ม หรือกี่ภาค และมีชื่อหนังสือ หรือชื่อภาคว่าอย่างไรบ้าง?

    คือ หลานสาวของเรา เคยซื้อหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ชื่อ "นัสรูดิน บินลัดฟ้า ฮาไทยปนหรั่ง" แล้วทีนี้เขาทำมันหายไปแล้ว เลยเสียดายมาก และนั่งร้องห่มร้องไห้มาหลายวันแล้ว เราจึงอยากรู้ว่า หนังสือเล่มนี้ หรือ หนังสือที่มีชื่อคล้ายๆ กันนี้ (คือหมายถึงว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "นัสรูดิน" เหมือนๆ กัน) ในปัจจุบัน ยังคงมีขายอยู่หรือเปล่า ... ถ้าหากมี แล้วมีกี่เล่ม และชื่ออะไรบ้าง

    เราขอเกริ่นคร่าวๆ เกี่ยวกับนัสรูดิน เผื่อว่าเพื่อนๆ บางท่าน อาจจะยังไม่ทราบว่า "นัสรูดิน" เป็นใคร ... คือ นัสรูดิน (Nasrudin) เป็นตัวการ์ตูนในหนังสืออ่านเล่นสำหรับเด็ก ประเภทวรรณกรรมเยาวชน เขาเป็นชาวตุรกี เป็นคนที่มีนิสัยตลก มีความคิด และการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่แปลกๆ ... หลักในการคิด และปฏิภาณไหวพริบ ที่เขาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ นั้น บางทีผู้อ่านก็นึกไม่ถึง และอาจจะแปลกใจก็ได้ นัสรูดินประกอบอาชีพหลากหลาย เช่น เป็นครู เป็นผู้นำสวดมนต์ เป็นผู้พิพากษา ฯลฯ

    เราขอรบกวนเพื่อนๆ ในรู้รอบ ถ้าท่านใดที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้โปรดสละเวลาเข้ามาตอบให้เราสักนิด เพราะเรากำลังคิดว่า ถ้าหนังสือเหล่านี้ ยังคงมีขายอยู่ เราก็จะไปหาซื้อเล่มใหม่มาให้หลาน

    ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบ

    1 คำตอบการ์ตูนและอนิเมชั่น1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • ทำไม 2 บริษัททัวร์ที่จัดโปรแกรมไปเที่ยวในประเทศเดียวกัน+จำนวนวันพอๆกัน จึงมีค่าใช้จ่ายต่างกัน+มีวิธีเลือกยังไง?

    เช่น สมมติว่า บริษัททัวร์นำเที่ยวชื่อ A กับ B ต่างก็จัดโปรแกรมทัวร์ไปยังประเทศอิตาลี (การที่เรา "ไม่ถาม" ถึงประเทศที่อยู่ "ใกล้ๆ กับเมืองไทย" ก็เพราะว่า ถ้าเป็นประเทศที่อยู่ ใกล้ๆ กับเมืองไทยแล้ว เท่าที่ดูก็รู้สึกว่า ราคาจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไร) โดยใช้เวลา 8 คืน 9 วันเหมือนๆ กัน หรือ (อาจจะ) มาก - น้อยกว่ากัน แค่วันเดียว แต่ทำไมค่าใช้จ่ายในบางกรณี (เมื่อเทียบ 2 บริษัท) จึงแตกต่างกันเป็น เกือบหมื่น หรือบางทีเกือบ 2 หมื่น??

    เนื่องจากว่า ตัวผู้ถามเอง ยัง "ไม่เคย" มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้ จึงอยากจะถามเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ว่า บริษัททัวร์โดยทั่วไปนั้น ใช้อะไรมาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดว่า ควรจะคิดค่าใช้จ่ายถูกกว่า หรือ แพงกว่ากัน มากน้อยแค่ไหน เพียงไร ... ในเมื่อจุดหมายปลายทางของ 2 กลุ่มนี้ แท้จริงแล้ว ก็คือ ประเทศอิตาลีเหมือนกัน พาไปดู "เรือกอนโดลา" เหมือนกัน อย่างนี้เป็นต้น ...

    เวลาที่คุณเดินทางไปกับทัวร์ที่ราคาถูกกว่า กับ เดินทางไปกับทัวร์ที่ราคาแพงกว่านั้น คุณมองเห็นความแตกต่างระหว่าง 2 ทัวร์นี้อย่างไรบ้าง หมายถึงว่า ถ้าจุดหมายปลายทางเป็นที่เดียวกัน??

    และถ้าให้คุณเป็นคนเลือก ว่าจะใช้บริการของบริษัททัวร์ A หรือ B คุณจะพิจารณาจากอะไร (หมายถึง เฉพาะในกรณีที่คุณ ยังไม่เคยใช้บริการของบริษัททัวร์ใดๆ มาก่อน) ... คุณจะรู้ได้ยังไงว่า "ราคาที่ตรงตามความเป็นจริง" สำหรับการไปเที่ยวที่อิตาลี (หรือ ประเทศใดก็ตาม) นั้น ควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

    ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้ถาม

  • ในความเห็นของคุณ สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ของไทย ควรทำ 4 อย่างต่อไปนี้หรือไม่ และ เพราะอะไร?

    1. ยอมให้คนที่ ไม่ใช่นักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ฯลฯ ของสถาบันฯ

    - ไป "นอน" บนม้านั่ง / ในศาลา ที่เป็นของสถาบันฯ

    - ไปใช้บริการห้องสมุดได้ โดยที่ ไม่ต้องแสดงบัตรใดๆ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน) และ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าไปใช้บริการ เพียงแต่ว่า จะไม่สามารถ ยืมหนังสือ ออกไปนอกห้องสมุดได้

    2. ยอมให้คนที่แต่งตัวซอมซ่อ หรือ คนจรจัดที่ผมเป็นกระเซิง เนื้อตัวสกปรก และแบกถุงใบใหญ่ๆ นั้น สามารถเดินผ่านเข้าไปภายในรั้วของสถาบันฯ ได้

    3. ยอมให้ใช้พื้นที่ของสถาบันฯ เป็นฉากในการ "ถ่ายทำละครโทรทัศน์" และให้ตัวร้ายตบนางเอก ในวันที่สวมชุดครุยรับปริญญา

    4. ยอมให้บุคคลภายนอก เช่าพื้นที่ในอาคารต่างๆ ของสถาบันฯ เพื่อใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น แสดงดนตรี ฯลฯ แล้วเอารายได้เข้าสถาบันฯ

    คุณคิดว่า สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ของไทย ควรทำ 4 อย่าง ตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้หรือไม่ และ การหารายได้เข้าสถาบันฯ ด้วยวิธีการที่กล่าวมาในข้อ 3 และ 4 นั้น ในความเห็นของคุณแล้ว มันเหมาะสมหรือไม่ และเพราะอะไร ... นอกจากนี้ คุณจะมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้หรือไม่

    ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่เข้ามาร่วมแชร์ความคิดเห็น

    2 คำตอบอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัย)1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • คุณคิดว่าจะมีวิธีทำให้คนที่เห็นเลือดแล้วเป็นลม กับคนที่กลัวแมงมุม / แมลงสาบมากๆ หายจากอาการเหล่านี้ได้รึไม่คะ?

    เพื่อนของเราคนหนึ่ง มักจะเป็นลมอยู่บ่อยๆ เวลาที่เขาบังเอิญทำมีดบาดมือ หรือไปสะดุดอะไรหกล้มจนเป็นแผล แล้วเลือดออกมากหน่อย (คือหมายถึงว่า ไม่ใช่แค่เลือดไหลซิบๆ เหมือนเวลาที่คนเราโดนอะไรข่วน) ... อีกทั้งยังเป็นคนที่กลัวแมงมุม กับแมลงสาบมากๆ ...

    ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเห็นสัตว์ 2 ชนิดนี้ (ไม่ว่าจะเห็นเพียง ชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือทั้ง 2 ก็ตาม) ... แล้วปรากฏว่า ไม่มีคนช่วยจับสัตว์ 2 ชนิดนี้ ไปปล่อยในที่ที่พ้นหูพ้นตาเขา หรือไม่มีใครฆ่ามัน ให้เขาเห็นต่อหน้าต่อตาแล้วล่ะก็ เขาก็จะไม่ยอมลงจากเก้าอี้ที่เขาปีนขึ้นไป เพื่อหนีสัตว์ 2 ชนิดนี้ / ไม่ยอมอาบน้ำ ทานข้าว ดูทีวี ฯลฯ (ขึ้นอยู่กับว่า เขาเจอเจ้าสัตว์ 2 ชนิดนี้ที่ไหน เช่น ในห้องครัว ในห้องน้ำ ฯลฯ)

    เราเลยอยากถามเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ค่ะว่า เพื่อนๆ พอจะมีข้อแนะนำ / วิธีแก้ไข / วิธีบรรเทาอาการเหล่านี้กันบ้างไหม และควรทำอย่างไรคะ

    ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบค่ะ

    1 คำตอบจิตวิทยา1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • คุณทราบมั้ยคะว่า โดยทั่วๆ ไปแล้ว ครีมบำรุงผิว (โลชั่น) จะหมดอายุภายในระยะเวลาเท่าไร?

    ครีมบำรุงผิว / ครีมกันแดดบางยี่ห้อ จะบอกแต่วันผลิต จึงไม่รู้ว่าจะหมดอายุเมื่อไหร่ค่ะ

    เราจึงอยากถามว่า มีเพื่อนๆ ท่านใด พอจะทราบบ้างมั้ยคะว่า จริงๆ แล้ว ถ้าจะให้ปลอดภัยเนี่ย เราควรจะใช้โลชั่นให้หมด ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เช่น กี่เดือน หรือกี่ปี เป็นอย่างช้าคะ

  • ถ้าจะรับเด็กสักคนเป็นลูกบุญธรรม คุณคิดว่ามีปัญหาเรื่องอะไรบ้างมั้ยคะ ที่เราควรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องเจอ?

    คำถามนี้ เราขอเปิดกว้างให้เพื่อนๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันนะคะ ... ไม่ว่าคุณจะเป็นชาย หรือหญิง จะเป็นพ่อ แม่ ลูก ฯลฯ

    คือ เราอยากรู้ค่ะว่า ถ้าการที่คนๆ หนึ่ง มีความตั้งใจอันดี / ต้องการที่จะมีลูก / มีความหวังดี ที่จะเอาเด็กสักคนมาอุปถัมภ์เนี่ย นอกจากเขาจะมีเจตนาอันดี ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เขาควรจะ "วางแผนอนาคตของครอบครัว" ไว้อย่างไรบ้าง เช่น ...

    1. เขาควรจะต้องเตรียมตัวในการเป็นพ่อ - แม่บุญธรรมอย่างไรบ้าง

    2. มีปัญหาอะไรบ้างไหม ที่ "อาจจะ" เกิดขึ้นได้ในอนาคต เป็นต้นว่า พ่อ - แม่บุญธรรมควรจะบอกลูกหรือไม่ว่า ลูกเป็นลูกบุญธรรม ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ถ้าบอกจะบอกยังไง และถ้าบอกแล้ว ผลจะเป็นยังไง เป็นต้น รวมทั้งปัญหาในเรื่องอื่นๆ ด้วยน่ะค่ะ

    3. ในความคิดเห็นของคุณแล้ว ถ้า "สมมติว่า" เกิดปัญหาตามข้อ 2 คุณจะแก้ไขปัญหานั้นๆ ด้วยวิธีใดคะ

    การที่เราถามคำถามนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่า มีคน 2 คนที่เรารู้จัก กำลังคิดที่จะรับลูกบุญธรรม แต่ตอนนี้เขาก็ยัง ไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรลงไปหรอกนะคะ ...

    คนที่เรากล่าวถึงว่า เขาอยากจะรับลูกบุญธรรมนั้น คนที่ 1 เป็นผู้ชาย ตอนนี้อายุ 37 ปี เคยแต่งงาน แต่ว่าภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว และไม่มีลูกกับภรรยาคนที่เสียชีวิตไปแล้วนี้ ... ส่วนเด็กที่จะรับมาเป็นลูกบุญธรรมนั้น เป็นเด็กผู้ชายอายุ 4 ขวบ กับ เด็กผู้หญิงอายุ 3 ขวบ ... เด็กผู้ชายนั้น เอามาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ส่วนเด็กผู้หญิงนั้น แม่ที่แท้จริงของเขา เอามาฝากให้ผู้ชายคนนี้ช่วยเลี้ยงให้ในช่วงกลางวันของวันหนึ่ง (เพราะประมาณว่า รู้จักกันในระดับหนึ่ง ในฐานะเพื่อนบ้าน หรืออะไรทำนองนี้) แล้วก็ไม่มารับคืนอีกเลย เป็นเวลา 6 - 7 เดือนแล้วค่ะ แล้วผู้ชายคนนี้ ก็ตามหาแม่คนดังกล่าวไม่เจอด้วย เพราะดูเหมือนว่า ทางครอบครัวของผู้หญิงคนนี้ ก็จะช่วยกันปิดบังด้วย

    ส่วนคนที่ 2 ที่จะรับลูกบุญธรรมนั้น เป็นผู้หญิง อายุ 45 ปี เป็นโสด และจะรับเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบเป็นลูกค่ะ แต่เด็กคนนี้ เป็นเด็กต่างชาติ ผมสีทองค่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่า พ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนี้ เป็นคนประเทศไหน อย่างไรนะคะ รู้แต่ว่ารับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ

    ขอรบกวนเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ได้โปรดสละเวลาเข้ามาตอบคำถามให้เราสักนิดนะคะ

    ขอบคุณค่ะ

    3 คำตอบครอบครัว1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • ตอนที่คุณหัดขับรถเป็นครั้งแรก คุณมีวิธียังไง จึงสามารถถอยท้ายรถเข้าจอดได้ทั้งๆ ที่มีรถอื่นจอดขนาบอยู่ 2 ฝั่งคะ?

    เพื่อนๆ มีเทคนิคอย่างไรกันบ้างคะ ในการถอยท้ายรถเข้าไปจอดในช่อง เช่น เวลาไปจอดรถในห้างสรรพสินค้า ...

    คำถามของเรานี้ เลือกถามเฉพาะเวลาที่มีพื้นที่จอดรถ เหลืออยู่อย่างจำกัด กล่าวคือ มีรถยนต์คันอื่น จอดขนาบช่องที่เราต้องการจะเข้าไปจอดทั้ง 2 ด้าน และมีเงื่อนไขว่า ในที่นี้ เราจะจอดในช่องที่เขาขีดเส้นไว้ให้จอดเท่านั้น จะไม่จอดในแนวขวาง ฯลฯ

    เราเองเพิ่งจะมาหัดขับรถได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ทั้งๆ ที่อายุก็พอสมควรแล้วนะคะ ... เพื่อนๆ ของเราบางคนน่ะ ขับรถเป็น และมีใบขับขี่ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 หรือปี 2 ด้วยซ้ำ ...

    เราขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ

  • คุณคิดยังไงกับเรื่องที่นักโทษเรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ในเรือนจำแล้วออกมาประกอบอาชีพเป็นทนายความ นิติกร ฯลฯ คะ?

    คำถามนี้ เราแค่ต้องการฟังความคิดเห็น และมุมมองของเพื่อนๆ ค่ะว่า คุณคิดว่า ...

    1. หากนักโทษคนนั้น สามารถผ่านทุกๆ ขั้นตอน ในการสอบคัดเลือกต่างๆ เช่น สอบเนติบัณฑิตผ่าน สอบตั๋วทนายผ่าน แล้วเนี่ย เขาสมควรจะมีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนชาวไทยคนอื่นๆ ในการประกอบอาชีพทางด้านกฎหมายโดยตรงหรือไม่คะ

    13 คำตอบอื่นๆ เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • คุณคิดว่ามีวิธีเลี้ยงลูกอย่างไร เพื่อให้เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง เวลาคุยกับใครแล้วไม่หลบสายตาคน และมีบุคลิกดีคะ?

    เมื่อเร็วๆ นี้ มีคนมาพูดให้เราฟังค่ะว่า ลูกของเขา มีพฤติกรรมประมาณว่า เวลามีใครสักคนมาคุยด้วย เขา (ลูก) ก็จะไม่ค่อยสบตากับคู่สนทนา ... แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ว่า จะทำเป็นมองไม่เห็น / ไม่สนใจ / เพิกเฉยต่อคู่สนทนาหรอกนะคะ เพียงแต่ว่า อาจจะไม่กล้ามองสบตากับคู่สนทนาตรงๆ หรือ อาจจะมองหน้าคู่สนทนาในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็เสไปมองทางอื่น ทั้งๆ ที่ยังพูดคุยกันไม่จบประโยค / ยังไม่หมดเรื่องคุย เป็นต้น

    3 คำตอบครอบครัว1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • สมัยที่คุณเป็นเด็ก (หรือถึงแม้ว่าตอนนี้คุณเป็นพ่อ-แม่แล้ว) พ่อแม่ของคุณ / ตัวคุณทำยังไงให้ลูกทานผัก ผลไม้ได้คะ?

    มีวิธีการอะไรบ้าง ที่จะฝึกให้เด็กเล็กๆ สามารถทานผัก ผลไม้ได้ โดยไม่เขี่ยทิ้ง ไม่เขี่ยเล่นในจาน หรือไม่ทำอะไรก็ตาม ที่จะเป็นสาเหตุให้ การรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ กลายเป็นเรื่องที่ยุ่งวุ่นวาย มากกว่าปกติน่ะค่ะ

    ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ

    17 คำตอบการเลี้ยงดูเด็ก1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • คุณคิดว่าการที่คนๆ หนึ่งเดินเข้าไปในโรงรับจำนำเนี่ย มันทำให้คนๆ นั้น กับคนที่มองเห็นเขาเข้าไป รู้สึกยังไงบ้างค?

    เมื่อวานนี้ เพื่อนที่ทำงานของเราคนหนึ่ง มีความจำเป็นจะต้องไปไถ่ของคืนจากโรงรับจำนำค่ะ เพราะคนที่เขารู้จักกัน ได้เอาของสิ่งหนึ่งไปจำนำไว้ และดูท่าทีแล้ว คงจะยังไม่มีเงินไปไถ่คืนได้ ภายในเวลาที่กำหนด

    ทีนี้ เพื่อนคนดังกล่าว ก็เลยมาขอร้องให้เราไปที่โรงรับจำนำเป็นเพื่อนเขาหน่อย เพราะเขารู้สึกไม่ดี ไม่กล้าไปคนเดียว ฯลฯ

    8 คำตอบอื่นๆ เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
  • ในความเห็นของคุณ การเต้นรำจังหวะวอลซ์ กับแทงโก้ อย่างไหนยากกว่ากัน เพราะอะไร และมีข้อแนะนำอะไรในการเรียนบ้างคะ?

    เราเองเคยเรียนการเต้นรำมาบ้างนิดหน่อย ตอนอยู่ ม.ปลาย ซึ่งก็ นานนนนน พอสมควรแล้วนะคะ แต่ตอนนี้ลืมเกลี้ยงไปแล้ว เพราะไม่ยักเคยมีใคร ควงออกไปเต้นรำเล้ย

    ทีนี้พอดีว่า เมื่อ 2 - 3 วันก่อน มีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ที่ค่อนข้างจะสนิทกัน มาถามเราว่า เราคิดอย่างไรเรื่องการเรียนเต้นรำ ถ้าเขาจะให้ลูกไปเรียนพิเศษด้านการเต้นรำจะดีไหม เรียนการเต้นจังหวะไหนดี ฯลฯ

    การที่มีคนพูดถึงเรื่องการเรียนเต้นรำขึ้นมา ก็เลยทำให้เราอยากจะมาขอฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ค่ะว่า คุณคิดว่า การเต้นรำทั้ง 2 จังหวะนี้ อย่างไหนยากกว่ากัน เพราะอะไร และมีข้อแนะนำอะไรในการเรียนบ้างคะ

    ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ

    2 คำตอบการเต้นรำ1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา