ทำไม 2 บริษัททัวร์ที่จัดโปรแกรมไปเที่ยวในประเทศเดียวกัน+จำนวนวันพอๆกัน จึงมีค่าใช้จ่ายต่างกัน+มีวิธีเลือกยังไง?

จุดหมายปลายทางเดียวกัน / จำนวนวันเดินทาง (ต่างกันวันสองวัน) แต่ทำไมราคาถึงได���แตกต่างกันนัก เหตุผลมาจากหลายปัจจัยค่ะ

1 สายการบินที่เลือกใช้บริการ มีผลต่อราคานำเสนอ

- เรื่องของราคาค่าโดยสาร ย่อมมีผลถึงเรื่องของเวลาเดินทางทั้งไปและกลับ มีผลทำให้จำนวนวันหายไปแบบไม่ได้สังเกตุกัน เช็คดูว่าเป็นเครื่องที่บินตรง หรือต้อง transit ที่ไหนและต้องรอนานแค่ไหน

2 โปรแกรมที่เห็นว่าเหมือนๆกันนั้น บางแห่งอาจแค่ผ่าน (ไม่ได้เข้าไปชม) อย่างดีก็แวะให้ถ่ายภาพ ก็มีเยอะนะค่ะ ให้สังเกตการใช้คำให้ดีๆจากรายการที่เสนอมา และสอบถามพนักงานบริษัททัวร์เพื่อความแน่ใจ

3 การคมนาคม ยานพหนะ ระหว่างเดินทาง ในแง่ของความสะดวกสบาย เช่นใช้รถบัสประเภทและขนาดเหมาะสมแค่ไหน

หากระยะทางไกลแบบต้องข้ามเกาะเขาเลือกโดยสารทางเรือ หรือเครืองบิน(ตรงจุดนี้จะทำให้ราคาสูงกว่าอีกบริษัทฯเป็นหมื่นบาทค่ะ เพราะในยุโรปราคาสายการบินในประเทศเขาแพงมาก)

4 โรงแรมที่กล่าวไว้เป็นระดับใด สามดาว สี่ดาว หรือแบบใด เช่นถ้าไปเวนิสเขาให้คุณพักโรงแรมที่ใด (นอกเมือง หรือในเมืองแต่อยู่เมนแลนด์ หรือบนเกาะเวนิส) ราคาต่างกันฟ้ากะเหวค่ะ และมีผลต่อเวลาที่คุณจะได้เดินบนเมืองเวนิสเช่นกัน

5 อาหารการกินอยู่ในระดับใด บางบริษัทไม่เน้นมาก (อาจพอทานได้บ้างไม่ได้บ้าง คงต้องควักเอามาม่าออกมากันระงม) แต่บางบริษัทฯก็เน้นเรื่องนี้นะค่ะ

6 มีการทำประกันชีวิตไว้ให้หรือไม่ คิดว่าส่วนมากน่าจะทำไว้ให้นะค่ะ (พูดเผื่อไว้เพราะยังไม่เจอที่ไม่มีทำประกันให้นะค่ะ)

7 สิ่งสำคัญ (แต่ขอยกมากล่าวตอนท้าย) บริษัททัวร์ฯนั้นๆมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และความชำนาญแค่ไหน โดยเฉพาะสถานที่ที่คุณจะไป บริษัททัวร์แต่ละแห่งมีความชำนาญแตกต่างกันออกไป บางแห่งก็เน้นโซนใดโซนหนึ่งโดยเฉพาะก็มีเยอะ

ตอนนี้คิดออกเท่านี้ค่ะ แต่ก็น่าจะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเป็นเพราะอะไรราคาถึงแตกต่างกัน ยังไงก็เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงหน่อยหรือไม่ก็ลองสอบถามคนรู้จักหรือเพื่อนๆดูซิค่ะ

ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวนะค่ะ

อาจจะแตกต่างที่คุณภาพการบริการค่ะ

1.โรงแรมที่พักคนละระดับกัน หรือระดับเดียวกันแต่ย่านที่พักต่างกันเช่น ติดทะเล/ไม่ติดทะเล

2.อาหารการกินต่างกัน ทานข้าวที่ภัตตาคารหรูหราหรือร้านอาหารท้องถิ่นทั่วไป

3.ยานพาหนะที่ใช้เดินทางต่างกันเช่น รถโค้ช2ชั้นติดแอร์/ไม่ติดแอร์

4. มัคคุเทศก์นำเที่ยวถูกต้องตามกกฎหมายหรือไม่

5.ความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว มีการทำประกันอุบัติเหตุให้หรือไม่

การจะเลือกบริษัทนำเที่ยวนั้นให้ดูรายละเอียดที่ว่ามาข้างต้นให้แน่ชัดค่ะสอบถามกับทางบริษัทให้แน่ใจ และที่สำคัญเช็ครายชื่อบริษัทกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วยก็จะดีมากๆค่ะ

กรณีที่ทุกๆอย่างเหมือนกันทั้��¸‡à¸«à¸¡à¸” เหตุที่ราคาต่างกันเพราะ บริษัททัวร์ทั้งหมดจะมีการส่งลูกค้าเข้าพักโรงแรมนั้นๆต่อปีต่างกัน ดังนั้นเมื่อ บ.ดังกล่าวยื่นข้อเสนอในการทำสัญญาส่งลูกค้า[ room contact rate ] จะได้จำนวนห้องต่อปีมากกว่า และถูกกว่าครับและเมื่อนำมาขายต่อนักท่องเที่ยวราคาเมื่อบวกแล้วก็ยังต่ำกว่าครับ

บ.ใหม่ๆหรือเล็กๆมักจะเสียเปรียบบริษัทชั้นนำแบบนี้ครับ ยิ่งถ้ามียอดการใช้ห้องสูงต่อปี ฝ่ายบริหารของโรงแรมนั้นๆก็ยิ่งลดราคาห้อง และเพิ่มจำนวนห้องให้ในการทำสัญญาไปอีก ทั้งนี้สัญญาก็เซ๊นต์กันปีต่อปีเท่านั้น พวกทัวร์ชั้นนำทางคู่ค้าเรียกว่า[ high volume agent ] ครับ

แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วแต่ละแพคเกจล้วนแต่ไม่เหมือนกัน เช่น รวมอาหารเช้า /เย็นหรือไม่? หรือรวมอาหารกี่มื้อ? รถรับส่ง? มีทัวร์ที่ใหนบ้าง? ราคาก็เกี่ยวข้องเสมอๆ

การทัวร์ดังกล่าวเรียกว่า tourist ที่เที่ยวๆตามโปรแกรมแล้วกลับ

อีกแบบคือ traveler คือเที่ยวไปเรี่อยๆตามแต่จะคิดโปรแกรมเองจากหนังสือนำเที่ยวท้องถิ่นๆ ส่วนตัวผมเลือกอย่างหลังครับ ได้ศึกษาผูคนและวัฒนธรรมได้ลึกซึ้งกว่า ดังนั้นการจองผ่าน internet booking มีโอกาสได้ศึกษาและดูมากกว่า ครับ

ต่างกันที่คุณภาพ การบริการ ค่าการตลาด ต้องการกำไรมากหรือน้อย บริษัทนั้นโคกับบริษัทอื่น โรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน ฯลฯ มากน้อยแค่ไหน

เราเลือกจากชื่อเสียงบริษัท ถามจากคนที่เคยไป ทัวร์ไหนคนชมมากกว่าไปทัวร์นั้นค่ะ แพงหน่อยแต่น่าเชื่อถือกว่า ไม่เคยมีประวัติเสีย ลูกทัวร์ไม่เคยถูกส่งตัวกลับ ไปเที่ยวทุกที่ ตามที่เสนอจริง พักโรงแรมระดับเดียวกับที่เสนอจริง รถทัวร์ใหม่ ปลอดภัย เครื่องบินสายการบินมีชื่อเสียง (เคยเห็นบางทัวร์ไปจริง แต่แกล้งรถเสียบ้าง ทำให้ไปไม่ถึงที่หมาย หรือเปลี่ยนที่พักบ้าง เป็นต้น)

ว่านะ..ถ้าเป็นบฯ.เล็กๆ เขาก็ไป"จอย"กับอีกบฯ.หนึ่ง(ที่เขาอาจจะมีศักยภาพมากกว่า) อาจจะมี"ข้อแลกเปลี่ยน"กันว่าราคาเป็นอย่างไร?

เราเป็น"ผู้ซื้อ"สามารถจะ"คลิก"เข้าไปดูๆได้หลายๆที่ ไม่แน่ใจก็"โทร"ได้..

ตราบใดที่คุณยังไม่ได้"จ่ายเงิน"

คุณสามารถสอบถาม"ข้อมูลการท่องเที่ยว"ได้ทุกบฯ...

สาเหตุที่ราคาต่างกัน เพราะ

1. การบริการและความชำนาญของผู้นำทัวร์ ที่จะต้องอยู่กันไปตลอด trip (ตั้งแต่เช็คอินที่สนามบินจนกระทั่งกลับถึงสนามบินอีกครั้ง)

2. ระดับของโรงงแรมที่ให้ลูกทัวร์พักตลอดการเดินทาง

3. อาหารซึ่งโดยมากเป็นโต๊ะจีน แต่ควรมีอาหารไทย 2 มื้อ อาหารอิตาเลี่ยน 2 มื้อ เป็นอย่างน้อยสำหรับ 8 คืน 9 วัน

4. โปรแกรมที่จะเที่ยวอาจไปเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ทั่วทุกจุดของพื้นที่นั้นๆ เช่น อาจจะไม่ได้เข้าไปโบสถ์หรือวิหาร ไม่ได้นั่งกอนโดลา ไม่ได้ขึ้นหอเอนปิซา แค่เดินชมรอบๆ ก็ได้

5. รถบัสที่ใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทาง

ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทไหนดี ก็ต้องลอง search ตาม web ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือรายชื่อบริษัททัวร์ต่างๆ จะมีการให้คะแนนหรือเกรดไว้ด้วย หรือไม่ก็ลองสอบถามคนที่เคยไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ดู และเปรียบเทียบราคาและโปรแกรมที่ส่งมาให้ เลือกกลางๆ ไม่แพงและไม่ถูกจนเกินไป

คุณก็เอารายการที่เขาพาเที่ยวมาเปร��¸µà¸¢à¸šà¹€à¸—ียบกัน ส่วนมาราคาจะต่างกันคือ

1. สายการบินคือถ้าบินการบินไทยราคาก็แพงกว่าบินไชน่าแอร์

2. จำนวนอาหารที่ทางทัวร์จัดให้ต่อมื้อ บางทีบินแล้วกินอาหารกลางวันบนเครื่องเริ่มกินมื้อแรกเป็นอาหารเย็นไปแล้ว และอาหารที่พาไปกินเป็นอาหารจีนหรืออาหารไทย หรืออาหารขึ้นชื่อในท้องถิ่น เพราะถ้าเป็นร้านอาหารไทยหรือจีนในยุโรปราคาจะถูกว่าอาหารยุโรป

3. โรงแรมที่พักเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองหรือ 4 ดาวนอกเมือง

อยากตอบคะ เพราะไปบ่อย ก่อนอีกต้องศึกษาประวัติของทัวร์นั้นๆ ก่อนว่ามีคุณสมบัติ

อย่างไร เช่น

1. สำคัญมาก มีการจดทะเบียนหรือเปล่า ต้องระบุให้ชัดเจน

2. โรงแรมที่พักระดับ กีดาว ได้มาตราฐานหรือไม่

3 สถานทีเที่ยว ที่ไหนบ้าง น่าสนใจหรือประทับใจไหม เราสามารถหาข้อมูลสถานที่แห่งนั้นได้ ว่าน่าเที่ยวหรือเปล่า

4 อาหาร ทัวร์บางที่มักจัดเป็นโต๊ะจีน สั่งมาชุดเดียวใครมาไม่ทัน อาหารก็หมดไม่มีเพิ่ม

เหมือนแย้งกันรับประทาน

5 เรื่องการบริการก็สำคัญ แต่เราจะรู้ได้อย่างไร เช็คจากเว็บหมูหิน รู้จักไหมคะ

6 ทัวร์ที่ดีมีคุณภาพและราคาไม่แพงก็มี รองเข้าเว็บนี้น่าสนใจราคาไม่แพง

7

http://www.bondstreettour.com/

http://www.foresttour.com/