Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
ถ้าคุณเจอเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปคะ?
คือ ตอนนี้น้องที่เป็นญาติสนิทของเราคนหนึ่ง กำลังเสียใจกับเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นอย่างมาก จนเราไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดีค่ะ ดังนั้น เราจึงอยากจะถามเพื่อนๆ ใน "รู้รอบ" ค่ะว่า ถ้า "สมมติว่า" คุณได้เจอกับสถานการณ์ทั้ง 14 ข้อ ดังต่อไปนี้ แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปคะ???
1. คุณได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุมากกว่าคุณ 2 ปี (แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคุณอายุน้อยกว่าเขา 2 ปี เพราะคุณเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเขา) และเรียนจบจาก ม.ราชภัฎแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2547
2. ในตอนที่คุณรู้จักกับคนคนนี้เป็นครั้งแรก ที่ ม.รามคำแหงนั้น เขายังไม่ได้ทำงาน คือ หลังจากเรียนจบ ก็อยู่บ้านเฉยๆ มาโดยตลอด ตัวคุณเองก็ยังไม่ได้ทำงานเหมือนกัน แถมยังไม่ได้รับปริญญาของ ป.ตรีใบแรกเลยด้วยซ้ำ และเพราะว่าทั้งคุณและเขา ยังไม่��ีงานทำกันทั้งคู่ จึงเป็นสาเหตุให้ไปสมัครเรียนที่ ม.รามคำแหงเหมือนๆ กัน
3. ที่ ม.รามคำแหงนั้น คุณกับเขาก็ได้พบปะพูดคุย กินข้าวด้วยกัน ไปนั่งเรียนหนังสือด้วยกัน ฯลฯ และการทำเช่นนี้ ทำให้คุณเกิดความรู้สึกชื่นชม ประทับใจ และสนิทสนมกับคนคนนี้เป็นอันมาก เพราะเขามีบุคลิก นิสัย และแนวความคิดหลายๆ อย่างที่ถูกใจคุณมากๆ
4. คนคนนี้รับรู้ว่าคุณเค��เรียนจบจากมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ที่ติดอันดับ top five ของประเทศไทยมาก่อน และเขาก็ได้ถามคุณเกี่ยวกับเรื่องมหาวิทยาลัยเก่าของคุณเป็นอันมาก ซึ่งคุณก็ตอบไปอย่างเปิดเผย และบริสุทธิ์ใจ (เพราะคุณต้องการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดีกับคนคนนี้ กล่าวคือ คุณไม่อยากโกหกตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะกลัวจะเสียเพื่อนในภายหลัง ถ้าหากเขามาจับได้ว่าคุณโกหก) เช่น บอกว่าคุณเรียนเมเจอร์อะไร เพื่อนฝูงที่คณะเป็นยังไง ฯลฯ
5. คนคนนี้ได้ถามคุณในช่วงที่เรียนด้วยกันว่า คุณทำงานหรือยัง และถ้าทำ ทำมานานเท่าไหร่แล้ว ... ซึ่งอันที่จริง ในตอนที่เขาถามคำถามนี้ คุณยังไม่ได้ทำงานเลย แต่เพราะคุณหวังดีกับคนคนนี้มาก เนื่องจากมีความรู้สึกที่ดีๆ ต่อเขา (คือ อยากให้เขามีงานทำเสียที) ตามที่เราได้เล่าเอาไว้ในข้อที่ 3. ดังนั้น คุณจึงโกหกเขาไปว่า คุณกำลังทำงานอยู่กับ บริษัทในเครือของสำนักพิมพ์ที่ชื่อ A และบอกว่า พอคุณเรียนจบมาได้ 3 - 4 เดือนก็ได้มาทำงานในบริษัทที่ว่านี้เลย นอกจากนี้ คุณยังยุ / แนะนำ / โน้มน้าวใจ ให้คนคนนี้ไปสมัครงานอีกด้วย
6. ผลที่เกิดขึ้นจากข้อ 5. นั้น มี 2 อย่าง คือ หลังจากเรียนที่ ม.รามคำแหงด้วยกันมาได้ 3 - 4 เดือน คนคนนี้ก็ "ได้งาน" ในตำแหน่งพนักงานขาย ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง และเขาก็เลิกเรียนที่ ม.รามคำแหง
7. ความที่ทั้งคุณและเขา ยังมีความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกัน ดังนั้น แม้ว่าเขาจะลาออกจาก ม.รามคำแหง หลังจากที่เรียนไปได้แค่ 3 - 4 เดือน แต่ทั้งคุณและเขา ก็ยังโทรคุยกัน ส่งอีเมล์ถึงกัน นัดไปกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ด้วยกันตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งยังบอกที่อยู่ของแต่ละฝ่าย ให้แก่กันด้วย
8. ในช่วง 1 - 2 ปีแรกที่รู้จักกัน คุณ "ไม่ได้เอะใจ" เลยสักนิด ว่าทำไมคนคนนี้ ถึง "ไม่ค่อยอยาก" ตอบคำถามที่คุณถาม "เกี่ยวกับตัวเขา" และ "ไม่ค่อย" แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเอง เป็นต้นว่า เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฯลฯ เพราะคุณมองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนเราอาจจะเกิด "ความรู้สึกได้หลายๆ อย่าง" เวลาที่ได้รู้จักกับคนที่เรียนจบจาก “ต่างสถาบัน” ... ดังนั้น คุณจึงยังคงแสดงความชื่นชม แสดงการให้เกียรติ์ และแสดงความเป็นมิตรอย่างจริงใจ ในทุกๆ วิถีทาง เท่าที่คุณจะมีโอกาสทำได้ ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม เพราะในสายตาของคุณแล้ว คุณมองว่าคนคนนี้ "เป็นคนเก่ง คนดี และเท่าเทียมกับคุณในทุกๆ ด้าน"
9. แม้คุณจะรู้ดีว่า คนคนนี้พยายามที่จะ "ทดสอบ" คุณในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านความรู้ นิสัย คุณธรรม ความชอบ อารมณ์ ฯลฯ แต่คุณก็ "ไม่ถือว่า" นั่นเป็นการ "ท้าทาย" หรือ "ลองเชิง" กล่าวคือ คุณยอมให้เขาทดสอบได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด และคุณก็ยอมเปิดเผย / บอก / เล่า ในสิ่งที่เขาอยากรู้ โดยบอกไป "ตามความเป็นจริง" เท่าที่พอจะทำได้ (คือ เปิดเผยในเรื่องที่ "ไม่เป็นความลับจนเกินไป")
10. แม้ว่าในบางครั้งที่นัดเจอกัน คนคนนี้จะ "จำวันนัดผิด" "ไปสายกว่าเวลานัด" หรือ "ไปถึงสถานที่นัดพบแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากไปเที่ยวด้วยกันตามแผนที่กำหนดไว้ จึงโทรบอกคุณว่า เขาจะกลับบ้านแล้วนะ" แต่คุณก็ยังมีความอดทนที่จะแก้ปัญหา โดยคุณมักจะใช้วิธีโทรไปคุยกับคนคนนี้เองโดยตรง หรือไม่ก็ส่งจดหมายไปเพื่อปรับความเข้าใจต่างๆ เพราะคุณยังคงมีความคิดว่า มิตรภาพย่อมต้องมีอุปสรรคบ้าง เป็นธรรมดา ถ้ายังไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ คนเราก็สมควรจะต้องอดทนบ้าง
11. คนคนนี้อ่านจดหมาย (ที่คุณส่งไป) จนจบทุกฉบับ ไม่ว่ามันจะสั้น - ยาวแค่ไหน และบอกคุณทางโทรศัพท์ / SMS (โดยไม่เคยเขียนจดหมายตอบเลย) ว่า เขารู้สึกขอบคุณในความมีจิตใจอันดีงาม ฯลฯ ของคุณ ... ในกรณีที่คุณส่งอีเมล์ หรือ SMS ถึงคนคนนี้ เขาก็ "แทบจะไม่ตอบเอาเสียเลย" ยิ่งถ้าเป็นอีเมล์ด้วยแล้ว ถามอย่างหนึ่ง บางทีก็กลับตอบไปอีกอย่างหนึ่ง ราวกับว่า "ไม่ได้สนใจ" ในสิ่งที่คุณถามเอาเสียเลย และกว่าจะตอบกลับมาสักที บางครั้งก็นานมากๆ จนน่าโมโห ... หรือถ้าเป็นกรณีที่ส่ง SMS ถึงกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถามอะไรเขาไปทาง SMS ก่อนหรือไม่ แต่คำตอบของเขาจะมีอยู่แค่ 2 อย่าง คือ “คิดถึงเธอนะ” และ “หวังว่าเธอคงสบายดี” เท่านั้น ส่วนคำตอบอย่างอื่น นอกเหนือไปจากนี้ จะ "มีน้อยมากๆ"
12. ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนจดหมายไปปรับความเข้าใจตั้งหลายๆ ฉบับ โดยเฉพาะในเวลาที่เกิดเหตุการณ์ตามข้อ 10. แต่คนคนนี้ ก็ "ไม่เคย" แสดงความโกรธ เย็นชา หรือเกลียดชังในตัวคุณเลย กล่าวคือ เขายังคงโทรมาหา แม้ในช่วงเวลาที่คุณหายเงียบไปนานๆ ทั้งๆ ที่ "คนส่วนมาก" มักจะมี "ทิฐิ" คือ ถ้าใครมาพู
ดังนั้น ถ้าใครมาพูดเป็นทำนองว่า ฉันผิด (คือ แม้จะไม่ได้ "ตำหนิตรงๆ") ฉันก็จะเลิกติดต่อกับคนคนนั้น
13. ในปีที่ 2 และ 3 ที่คุณกับเขาได้รู้จักกัน คุณได้ส่งของขวัญวันปีใหม่ไปให้คนคนนี้ที่บ้าน (ตอนครบรอบ 1 ปีที่รู้จักกัน คุณไม่ได้ส่งของขวัญไปให้เขา) แต่เขา "ไม่เคย" ส่งอะไรมาให้คุณเลย แม้กระนั้น คุณก็ "ไม่ได้" โกรธเขา และไม่ได้กังวลว่ามิตรภาพจะสั่นคลอน ฯลฯ เพราะคุณให้คุณค่าของมิตรภาพ โดยดูที่จิตใจ / ความเข้าใจกัน ไม่ใช่ดูที่สิ่งของ
14. ในช่วงกลางปีที่ 3 มาจนถึงต้นปีที่ 4 (คือ ในปัจจุบันนี้) คุณ "เริ่มเอะใจ" ว่า ทำไมคนคนนี้ถึงยังคง "ปิดตัว - ปิดใจ" คือ ไม่ค่อยอยากตอบคำถาม และไม่ค่อยแสดงออก ในเรื่องที่ "เกี่ยวกับตัวของเขาเอง" ทั้งๆ ที่เวลาก็ได้ผ่านมาตั้ง 3 - 4 ปีแล้ว และเขาก็ยังคง "ไม่ใส่ใจ" ที่จะตอบอีเมล์ / SMS ที่คุณส่งไป รวมทั้ง "ไม่ค่อยกล้า" นัดเจอคุณ เพราะกลัวว่าตัวเขาเองจะทำตามที่สัญญากับคุณไว้ไม่ได้ คือ ไปตามนัดไม่ได้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงอ่านจดหมายที่คุณส่งไปทุกฉบับอย่างตั้งใจ และอ่านจนจบ
สิ่งต่างๆ ที่เราได้กล่าวไปในข้อ 14. นั้น มันทำให้คุณ "รู้สึกเหนื่อยหน่าย และท้อแท้" กับเรื่องความสัมพันธ์ที่มีต่อคนคนนี้ เพราะคุณรู้สึกว่า ถึงแม้ตัวคุณเองจะทำอะไรๆ ลงไป แต่มันก็ "ไม่เกิด" ผลอะไรขึ้นมา กล่าวคือ คุณ "ไม่ได้" รู้จักคนคนนี้ดีขึ้น รวมทั้งไม่สามารถ "เอาชนะใจ" เขาได้ ... ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ "เสียเวลา" และ "เสียอารมณ์" ... ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวนี้ ทำให้คุณ ...
- "ไม่ยอม" ตอบ SMS ที่คนคนนี้ส่งมา รวมทั้ง "ไม่รับโทรศัพท์" จากเขา เป็นเวลา 4 – 5 วันติดต่อกัน (นี่คือ ครั้งที่ 1) แต่ในวันที่ 5 คุณได้ "ส่ง SMS ถึงเขา 1 ครั้ง" เพื่อบอกให้เขาช่วยรอรับจดหมาย (ซึ่งในจดหมายนั้น คุณก็ได้อธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณอยากจะอธิบาย และเป็นการอธิบายอย่างมีเหตุมีผล นุ่มนวล เคร่งขรึม ชัดเจน และเป็นขั้นเป็นตอน) และพอเขาได้รับจดหมาย เขาก็ส่ง SMS มาบอกคุณว่าเขาได้รับแล้ว
- หลังจากที่เขาได้อ่านจดหมายฉบับดังกล่าว เขาก็โทรศัพท์ หรือไม่ก็ ส่ง SMS ถึงคุณทุกวัน เป็นเวลาถึง 6 - 7 วันติดต่อกัน (นี่ค��อ ครั้งที่ 2) ซึ่งคุณก็ไม่ตอบ SMS และไม่รับโทรศัพท์เช่นเคย
(เพราะยังคงรู้สึกเบื่อหน่ายกับเหตุการณ์เดิมๆ อยู่) แต่ในวันที่ 7 คุณได้ "ส่ง SMS ถึงเขาอีก 1 ครั้ง" เพื่อบอกให้เขาช่วยรอรับจดหมายฉบับใหม่ ... ซึ่งถ้านับจากวันที่คุณส่ง SMS ถึงคนคนนี้ในครั้งล่าสุด มาจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 4 - 5 วันแ��้ว แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับใดๆ เลย ถึงแม้ว่า คุณจะได้ส่ง SMS ไปถามเขาว่า "เขาได้รับจดหมายหรือยัง??" แล้วก็ตาม
ดังนั้น เราในฐานะของคนที่นั่งมองญาติของตัวเองเป็นทุกข์ จึงอยากจะถามเพื่อนๆ ใน “รู้รอบ” ค่ะว่า ... ถ้า “ตัวคุณเอง” ได้เจอสถานการณ์แบบนี้แล้วเนี่ย คุณจะ “เลิกคบ” กับเพื่อนคนดังกล่าวนี้หรือไม่ และเพราะอะไรคะ ... แล้วทำไมคนที่มีนิสัยเปิดเผย จริงใจ และตรงไปตรงมา (แต่ “ไม่ใช่” ปากคอเราะร้าย) จึงไม่สามารถ “เอาชนะใจ” คนบางคนได้สักทีคะ
เราขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบค่ะ
ปล. ขอโทษนะคะ เพื่อนๆ เราลืมบอกไปว่า ญาติของเรากับคนคนนี้ เป็นเพื่อนกัน และเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ... นี่ขนาดเป็นเพื่อนผู้หญิงเหมือนกัน ยัง in love ขนาดนี้ ... แต่รับรองว่าญาติของเรา ไม่ได้เป็นคนที่รักเพศเดียวกัน หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะคะ ... แม้กระนั้น เขาก็ดูจะ hurt มากๆๆๆ อ่ะ
5 คำตอบ
- ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
...ผมว่า"ญาติ"ของคุณคงรู้สึกดีๆกับเขามาก(หรืออยากเอาชนะ) ...มากจนบางทีหาเรื่องมาปลอบใจตัวเอง คิดหาคำตอบและสร้างความหวังให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น
...ส่วน"เขา"ผมขอเดาว่าเป็นคนที่ให้เลือกก็ไม่เลือก ต้องรักษาระยะห่างไว้เดี๋ยวจะเป็นการผูกมัด แต่พอถึงเวลาที่จะเสียไป ก็..ไม่ยอม ต้องติดต่อกลับหรือแสดงออกซักนิดเพื่อให้เค้ายังอยู่ เห็นแก่ตัวพอสมควรนะครับ (อันนี้ผมเดา)
...ลองให้"ญาติ"ของคุณลองบอกลาเค้าดูแบบเป็นนัย เช่น เราไม่สามารถทำให้เธอเปิดใจให้เราได้ เราเหนื่อยแล้วอยากจะหยุด หรือหยุดติดต่อเค้าไปซักพักก็ได้ คอยดูว่าเค้ามีอาการยังไง
- SangChanLv 51 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
à¸à¹à¸²à¸à¹à¸¥à¹à¸§à¸£à¸¹à¹à¸ªà¸¶à¸à¹à¸«à¸à¸·à¹à¸à¸¢à¹à¸à¸ à¸à¸¹à¹à¸à¹à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸à¸«à¸²à¸à¸±à¸à¸à¸µà¹à¸à¹à¸²à¹à¸«à¸à¸·à¹à¸à¸¢à¹à¸à¸à¸£à¸´à¸ à¹
à¹à¸à¸²à¸à¹à¸à¸¹à¸à¸à¸à¹à¸à¸à¸à¸±à¸§à¹à¸à¸à¸à¸±à¸à¹à¸¥à¸¢ หรืà¸à¹à¸à¸²à¸à¸²à¸à¸¡à¸µà¸à¸§à¸²à¸¡à¸à¸¥à¸±à¸§à¸à¸²à¸à¸à¸¢à¹à¸²à¸à¸à¸¢à¸¹à¹à¹à¸à¸à¸´à¸à¹à¸ à¸à¸¶à¸à¹à¸¡à¹à¸à¸¥à¹à¸²à¹à¸à¸´à¸à¹à¸à¸¢à¹à¸£à¸·à¹à¸à¸à¸£à¸²à¸§à¸à¸à¸à¸à¸±à¸§à¹à¸à¸
à¸à¸¶à¸à¸à¸±à¸à¸¡à¸²à¸ ๠à¸à¹à¸à¸±à¸à¹à¸à¸¥à¸µà¸¢à¸£à¹à¹à¸à¹à¸¥à¸¢ วà¹à¸²à¹à¸£à¸²à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸°à¹à¸£ à¹à¸à¸²à¹à¸«à¹à¹à¸à¹à¹à¸«à¸¡ à¸à¹à¸²à¹à¸¡à¹à¹à¸à¹à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸¡à¸à¸±à¸§à¹à¸à¸à¸§à¹à¸²à¸«à¸¢à¸¸à¸à¸à¸µà¸¡à¸±à¹à¸¢
à¸à¸à¸à¸±à¸à¸à¹à¸à¹à¸ à¸à¸°à¹à¸à¹à¸à¸à¸²à¸£à¹à¸ªà¸µà¸¢à¹à¸§à¸¥à¸²à¸¡à¸±à¹à¸¢ à¹à¸à¸²à¸¨à¸¶à¸à¸©à¸²à¹à¸£à¸²à¹à¸à¹à¸à¹à¸²à¸¢à¹à¸à¸µà¸¢à¸§ à¹à¸à¹à¹à¸£à¸²à¹à¸¡à¹à¸£à¸¹à¹à¸à¸±à¸à¹à¸à¸²à¹à¸¥à¸¢ à¸à¸à¸à¸¶à¸à¹à¸§à¸¥à¸²à¸à¸µà¹à¸à¹à¸à¸à¸à¸±à¸à¸ªà¸´à¸à¹à¸à¸à¸°à¸à¸µ
- หนุ่มเมืองตราดLv 41 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸¡à¸à¸µà¹à¸à¸±à¸§à¸à¸¸à¸à¸à¸±à¹à¸à¹à¸«à¸¥à¹à¸°à¸à¸£à¸±à¸...วà¹à¸²à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸°à¹à¸£à¸à¸µà¸....à¸à¸à¸²à¸à¸£à¸¹à¹à¸à¸±à¸à¹à¸à¸²à¸à¸à¸²à¸à¸à¸µà¹à¹à¸¥à¹à¸§à¸à¸°à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸à¸ªà¸à¸à¸à¸°à¹à¸£à¸à¸µà¸à¸«à¸£à¸·à¸...
à¸à¸£à¸²à¸à¸à¸µà¹à¸à¸µà¹à¸à¸¸à¸à¸¢à¸±à¸à¹à¸¡à¹à¹à¸ªà¸µà¸¢à¸à¸°à¹à¸£à¹à¸à¹à¸«à¹à¹à¸à¸²...à¸à¸¸à¸à¸à¸²à¸à¸¢à¸±à¸à¹à¸¡à¹à¸£à¸¹à¹à¸à¸²à¸à¸¸à¹à¸à¹à¸à¸à¸à¹à¸à¸²à¸à¹à¹à¸à¹...à¹à¸à¹à¸à¹à¸²à¸¡à¸±à¹à¸à¹à¸à¸à¹à¹à¸¡à¹à¸¡à¸µà¸à¸±à¸à¸«à¸²..สมัยà¸à¸µà¹à¸à¸à¸à¸à¸±à¸§à¸à¸±à¸à¹à¸à¹...à¸à¸°à¸à¸à¸à¸µà¹à¸«à¸¡à¸à¸µà¹..
- 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
à¸à¸·à¸à¸à¸¡à¸§à¹à¸²à¸à¹à¸°à¸à¸£à¸±à¸ à¹à¸£à¸·à¹à¸à¸à¸à¸µà¹à¸à¹à¸à¸à¸à¸²à¸¡à¸à¸±à¸§à¹à¸à¸à¸à¹à¸à¸à¸à¸°à¸à¸µà¹à¸«à¸¡à¸à¸£à¸±à¸
à¸à¹à¸à¹à¸«à¹à¸à¸£à¸¹à¹à¹à¸£à¸·à¹à¸à¸à¸à¸à¸à¹à¸à¸²à¸¥à¸²à¸¢à¸¥à¸°à¹à¸à¸µà¹à¸¢à¸à¸à¸à¸²à¸à¸à¸±à¹à¸ à¸à¹à¸à¸§à¸£ à¸à¸°à¹à¸à¹à¸²à¹à¸à¸à¹à¸°à¸à¸£à¸±à¸ ^^
- นู๋ผึ้งLv 41 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
à¹à¸®à¹à¸...รัà¸à¸à¸°à¹à¸à¹à¹à¸¡à¹à¹à¸ªà¸à¸à¸à¸à¸à¸£à¸¶à¸à¹à¸²à¸§ หรืà¸à¹à¸¡à¹à¸à¹à¸à¸²à¸à¸à¸°à¸¡à¸µà¹à¸à¸£à¸à¸¢à¸¹à¹à¹à¸¥à¹à¸§à¸à¸µà¹à¸à¹à¸²à¸ à¸à¸²à¸£à¸à¸£à¸°à¸à¸³à¹à¸«à¸¡à¸·à¸à¸à¹à¸¡à¹à¸à¸¢à¸²à¸à¹à¸«à¹à¹à¸à¸£à¸£à¸¹à¹à¸§à¹à¸²à¸à¸à¸à¸¸à¸à¸à¸¢à¸¹à¹ à¹à¸¡à¹à¹à¸à¹à¸«à¸à¸à¹à¸§à¸¢à¹à¸à¸£à¸²à¸°à¸à¸¥à¸±à¸§à¹à¸à¸£à¸¡à¸²à¹à¸à¸ à¹à¸à¹à¸¢....à¹à¸à¸²à¸¢à¸²à¸à¸¡à¸²à¸à¸à¹à¸° มัà¸à¸à¸µà¸à¸§à¸²à¸¡à¸«à¸¡à¸²à¸¢à¹à¸à¹à¸«à¸¥à¸²à¸¢à¸à¸¢à¹à¸²à¸ à¹à¸à¸°à¸à¸³..à¸à¹à¸²à¸à¸à¸¡à¸²4à¸à¸µà¹à¸¥à¹à¸§à¹à¸¡à¹à¸¡à¸µà¸à¸°à¹à¸£à¸à¸µà¸à¸¶à¹à¸à¹à¸¥à¸¢à¹à¸¥à¸°à¹à¸¡à¹à¸£à¸¹à¹à¸à¸°à¹à¸£à¹à¸à¸µà¹à¸¢à¸§à¸à¸±à¸à¹à¸à¸²à¹à¸¥à¸¢à¸à¹à¹à¸¥à¸´à¸à¹à¸à¸à¸°à¸à¹à¸° หาà¹à¸«à¸¡à¹à¸à¹à¸²à¹à¸à¸²à¸¢à¸±à¸à¹à¸¡à¹à¸¢à¸à¸¡à¹à¸à¸´à¸à¹à¸à¸¢à¸à¸±à¸§à¸à¸à¸à¸à¸à¸¡à¸² à¸à¸à¹à¸«à¹à¸à¸à¸à¸µà¸à¸°à¸à¸°