Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ทำอย่างไรดีเมื่อพบว่าคนที่เรารักเป็นคุณหนู(มากๆ)แต่...?

เราไม่สามารถเลี้ยงดูเหมือนที่เขาเคยเป็นได้

เราไม่สามารถ ให้ในสิ่งที่เขาเคยได้มาง่ายๆได้

ให้ความสะดวกสบาย เหมือนกับที่เขาเป็นอยู่ได้

ฯลฯ เหมือนกับว่าเราไม่มีความรับผิดชอบชอบกล

14 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    เราว่าคุณอย่ากังวลใจไปเลย เพราะเรื่องแบบนี้ มันค่อยๆ เปลี่ยนกันได้ และคุณก็อย่าไปคิดในทำนองที่ว่า ความรัก ไม่ใช่การทำให้อีกฝ่าย ต้องมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเรา (ประมาณว่า เราควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น) และอย่าไปคิดว่า การทำเช่นนั้น เป็นความเห็นแก่ตัวของเราเลย

    เพราะในชีวิตจริงนั้น เรา (ผู้ตอบ) คิดว่าคงไม่มีใครที่จะ ไม่เคยพบกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ต่อให้เขารวยล้นฟ้าสักเพียงใด แต่ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ก็คงต้องมีสักวัน ที่เขาจะต้องพบเจอกับ "สิ่งที่แตกต่างออกไป" จากที่เคยเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของตัวเองบ้าง เช่น

    - การย้ายโรงเรียน เช่น จบชั้นประถม จึงย้ายไปโรงเรียนมัธยม (ซึ่งทำให้เขารู้ว่า สภาพแวดล้อม และกลุ่มเพื่อน ย่อมจะแตกต่างไปจากเดิม)

    - การไปเข้าค่ายลูกเสือ / เนตรนารี (ซึ่งทำให้เขาต้องเรียนรู้วิธีก่อกองไฟเพื่อจะทำอาหาร ไม่ใช่แค่ หมุนวาล์วของเตาแก๊ส)

    - การที่ต้องไปซื้อข้าวหมูแดง จากร้านในห้องแถวหน้าปากซอยมารับประทาน แทนที่จะไปทานในภัตตาคาร เป็นต้น

    ที่กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่า ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครที่จะ "ยังคงใช้พฤติกรรมเดิมๆ ในเมื่อสิ่งแวดล้อม / สถานการณ์รอบๆ ตัว มันเปลี่ยนแปลงไป" เช่น ทำไมเวลาเราไปเที่ยวชายทะเล เราถึงไม่ใส่สูท ผูกเน็คไท คำตอบก็คือ เพราะเราไม่ได้ไปตั้งโต๊ะประชุมผู้บริหารที่ริมทะเล เป็นต้น

    ดังนั้น กรณีของคนที่เรารักก็เหมือนกัน คือ เราอย่าไปคิดแทนเขาเลย ว่าเขาจะไม่มีความสุข เพราะเราจะรู้ได้ยังไงว่า เขาจะไม่เบื่อหน่ายชีวิตประจำวันที่แสนสุขสบายของเขา ... เราเคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับสถิติ ที่พวกฝรั่งเขาค้นคว้ากันมา คุณเชื่อมั้ยว่า ในบรรดาผู้ที่มีชีวิตสุขสบายจนน่าอิจฉานั้น บางส่วนติดหนังสือจำพวก detective story กันงอมแงม เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะเขาหาความโลดโผน / อุปสรรค / ความท้าทายในชีวิตจริงไม่ได้ เขาจึงไปหาจากหนังสือแทน

    ในเรื่องที่คุณถามมานี้ ถ้าเป็นตัวผู้ตอบเอง ผู้ตอบจะไม่เสียใจ ไม่เสียดาย ไม่ตำหนิ สามี / ภรรยาของตัวเอง ถ้าเขาไม่สามารถทำให้ผู้ตอบ มีชีวิตที่ "ดีเท่าเดิม" หรือ "ดีกว่าเดิม" ได้ ... เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ ผู้ตอบก็ต้องพิจารณามาทุกแง่มุมแล้วว่า ทำไมเราถึงอยากจะมาร่วมชีวิตกับคนๆ นี้ และถ้าคนๆ นี้จะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง ก็ต้องมาดูว่า ความผิดพลาดนี้เกิดจากอะไร มีเหตุผลสมควรให้เห็นใจไหม (ถ้าเหตุผลฟังขึ้น เราก็จะเข้าไปช่วยเขาแก้ปัญหา) เป็นต้น ...

    แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ผู้ตอบจะ "ไม่ยึดถือว่า" ชีวิตของเราจะต้องเป็นแบบนี้ (ตาม pattern 1 - 2 - 3 - 4 เช่นนี้) ตลอดไป ชนิดที่ว่า จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย ... ผู้ตอบขอเพียงแค่ว่า ให้คนที่ "บอกว่ารักเรา" นั้น มีความพยายาม มีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความขยันอดทน และเข้าใจว่า ผู้ตอบเป็นคนอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว...

  • Kimmim
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่น่าเชื่อเล๊ยว่าจะมาเจอ"ผู้ชายที่ยึดอัตตาสูง"เข้าอีกคน นึกว่ามีแต่แฟนเราคนเดียวนะเนี่ยะที่คิดแบบนี้!!!!

    คนที่เป็นคุณหนูจริงๆน่ะ เค้ามีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมมูลอยู่แล้วสำหรับองค์ประกอบอื่นๆในชีวิตนะคะ(มากจนบางทีมันล้นซะด้วยซ้ำ) แต่มีสิ่งหนึ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดและเงินมากมายแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้ด้วย

    นั่นคือความรักอย่างสุดหัวใจจาก"ลูกผู้ชาย"คนนึงที่เธอรักและเขาก็พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต

    คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากเคยได้ยินไหม? สิ่งของต่างๆรวมทั้งความสะดวกสบายอื่นๆมันแทบเทียบไม่ได้เลยกับความรัก-ความอบอุ่น-ความเข้าใจ-ความซื่อสัตย์ ที่คุณจะมอบให้ตลอดชีวิต(นี่ต่างหากคือความรับผิดชอบสูงสุดที่คุณจะให้เธอได้)

    คิดแบบที่ตั้งคำถามนี่...ดูถูกคุณค่าของความรักที่เธอมีให้คุณซะด้วยนะเอ้า...ขอบอก!!!!

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่ได้เป็น โคนัน ยอดนักสืบ ไม่ได้สืบค้นใดๆนอกเหนือจากการเรียนรู้จากกระดานการถามตอบแห่งนี้ และนานๆโผล่ไป ไอมีม เฟซบุคค์และเเทคค์

    พอจะประมวลมาหลังจากที่ถามมาก็ต้องขอตอบตรงๆตามประสาเพื่อนกันว่า

    คำถามทั้งหมดที่กล่าวไม่ต้องกังวล

    ให้กังวลข้อหาพรากผู้เยาว์และคุณระเบียบรัตน์หรือคุณปวีณาครับ หุหุ

    แหล่งข้อมูล: น้านะน้าไม่น่าเลย
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อันดับแรก ถามตัวเราเองก่อนว่า เรารักเขาเต็มร้อยหรือเปล่า

    อันดับ 2 ค้นหาข้อมูลจากใจเธอ ว่า เธอคิดกับเราอย่างไร

    อันดับ 3 เราอาจจำเป็นต้องเสียสละ เพื่อชีวิตที่ผาสุกของคุณหนู

    อันดับ 4 ถ้าคุณหนูรักเรา เราต้องทุ่มเท พัฒนาศักยภาพของเรา ให้เจ้านายหรือผู้ปกครองยินยอม

    อันดับ 5 ถ้าเป็นคุณหนูนั้นๆ ตามที่พี่เดาคำถาม คงต้องปล่อยตามบุบเพอาละวาด โอ๋....บุพเพสันนิวาส

    อันดับ 6 ฝาก***อัตนาโจทยัทตตานัง*** จงเตือนตนด้วยตนเอง****......?

  • komet
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ถามเขาซะก่อนไหมว่า..เขาพร้อมที่จะ"รับ"ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้"รับ ได้เห็น ได้รู้"ไหม?.

    ถ้าว่า"ได้ "คุณก็เหมือนกับ"ครู"ที่สอนการใช้ชีวิตแบบ"บุคคลทั่วไปที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน"..ให้เขาได้"รับรู้"เพื่อ"สู้กะโลกที่สดใสสวยงาม"?

    แหล่งข้อมูล: ..ถามใจเธอดูก่อนๆ ก่อนที่จะรักฉัน.
  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ขอบอกว่าไม่ต้องทำอย่างไรเลยค่ะ เราเป็นเรา สภาพทุกอย่างเป็นเรา เราให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เค้าไป ถ้าเค้ารับไม่ได้ หรือไม่เข้าใจ ก็ต้องปล่อยไป อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดค่ะ ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ถ้ารักเค้าจริงอยากได้มาอยู่เคียงก็คงต้องยอมแลกทุกอย่างละค่า

    อิอิ แต่ว่า คุณหนูคืออะไรคะ? คุณแมวไม่เข้าใจ เด๋วเอาไปตั้งคำถามดีกว่า

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อานุภาพแห่งรัก

    คุณหนูรà¸��กคุณ ก็จะค่อยๆ ปรับตัวได้เอง

    ส่วนคุณก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทำงานหาเงินเข้าบ้านมากๆ

    ดูแล วางแผนการใช้เงินร่วมกัน

    ผิดพลาดก็ให้อภัยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

  • ?
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เรารักเค้า..แล้วเค้าเลือกที่จะรักเราหรือยัง..ถ้าเค้าเลือกที่จะรัก..แสดงว่าคุณหนูยอมรับสภาพในสิ่งที่เค้าไม่เคยมี และไม่เคยเป็น..เมื่อคุณหนูยอมรับสภาพ และรักในตัวเราที่เป็นเราขณะนี้ ก็ใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแต่ว่าคุณต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ขยันมากขึ้น..คุณหนูของคุณเค้ายอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าละ ถ้าเค้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง..ความรักก็เป็นได้แค่เพียงความฝันเท่านั้นเอง

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ทำอย่างไรได้ในเมื่อรักเขาไปแล้วก็ต้องยอมรับสภาพเหมือนสุภาษิตที่ว่าความรักทำให้คนตาบอดก็บอดแล้วไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หาเจอทางออกเองแหละลงเรือลำเดียวกันแล้วเค้าคงไม่คิดเอาเปรียบเราหรอกค่ะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้