คุณคิดอย่างไรกับคำว่า "ธรรมาภิบาลไม่มีในระบบราชการไทย "?

ไม่เคยทำใจยอมรับได้สักทีค่ะ

ถ้าเป็นส่วนที่เขาจะมาเก็บจากเราเพื่อให้งานเดิน

แล้วไม่มีใครให้เงินเลย ประกอบกับฟ้องเบื้องบน

หรือโหวกเหวกมากๆเข้า เดี๋ยวเขาก็ทำเรื่องตามหน้าที่นะค่ะ

ถ้าทุกคนไม่ให้ เขาก็จะมีบรรทัดฐานจริยธรรมขึ้นมาเอง

(เคยอ่านเจอว่าที่ประเทศอะไรสักอย่าง

ข้าราชการชอบโกงเหมือนกัน จนต้องตั้งมูลนิธิสำหรับคนไม่อยากจ่าย

แล้วก็เรียกร้องจนเรื่องเดินไปตามปกติ)

อย่างการเมืองตอนนี้ เรามีระบบตรวจสอบมากขึ้นนะคะ(ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า)

เพราะข่าวสารถึงกันไว ประกอบกับการรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่น

เราพูดกันมากว่านักการเมืองไม่ควรทำเรื่องน่าอับอาย

พอมีใครสะกิดขึ้นมา อย่างกรณีเครื่องจับระเบิดGT200

ข่าวก็กดดันทำให้คนมีอำนาจที่มีส่วน เริ่มถูกจับตามองแล้ว

เรายังมีฝ่ายเสียประโยชน์คอยตรวจสอบฝ่ายได้ประโยชน์

จนในที่สุดก็โกงกินได้ลำบากขึ้นทุกทีๆ

แล้วเราก็มีีความรู้สึกว่าตรงนี้เป็นจุดพลิกผันหรือเปล่า

ตรงที่ทุกคนเริ่มเห็นว่ามันไม่ดี ไม่อยากให้มีใครทำอีกแล้ว

ก็น่าจะช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยตรวจสอบ

คนดีๆในระบบราชการมีอยู่นะค่ะ ท่านบ่นๆว่าถูกย้ายบ่อย

หรือไม่งั้นก็มีคนมาบ่นให้ฟังว่าถูกกลั่นแกล้งต่างๆนานา

แ���่ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหน ลำบากเท่าไหร่

ก็มีผลงานการพัฒนาออกมาอย่างน่าชื่นใจ

เรียกว่าไปตรงไหนก็พัฒนาตรงนั้น จุดที่ด้อยอยู่ก็ได้พัฒนาค่ะ

ถึงจุดหนึ่งที่ข้าราชการมือสะอาดและพัฒนาเก่งๆ

จะเริ่มเป็นที่จับตามอง จะมีความน่าเกรงใจ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพรรคพวกกับใคร

และเริ่มใหญ่จนคนไม่มีธรรมาภิบาลทำอะไรไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ

ต้องภาวนาให้มีคนแบบนี้เยอะๆ

คนที่ยอมทำเรื่องที่ถูกต้อง มากกว่าจะเห็นแก่ความง่าย

ในความคิดผมว่ามีครับแต่เป็นเฉพาะระบบแต่การปฏิบัติยังมีส่วนน้อยเนื่องจากความต้องการของมนุษย์ที่เกิน

พอดีทั้งกิน,กาม,เกียตริทำให้มุ่งที่เงิน,ตำแหน่งมากกว่าผลงานทำให้การปฏิบัติขาดธรรมาภิบาลครับ

"ธรรมาภิบาลมีในระบบราชการไทย "

แต่ผู้ปฎิบัติ ต่างหากที่ทำลาย ธรรมมภิบาล

การอยู่ร่วมในสังคม ตามธรรมชาติ ย่อมแตกต่างความคิด

คิดเหมือนคิดต่าง ไม่เท่ากัน

แม้แต่ ครอบครัวเดียวกัน สิ่งแวดล้อมในบ้านเหมือนกัน

แต่ สิ่งแวดล้อมนอกบ้านต่างกัน รับข้อมูล input ต่างกัน

output ก็ย่อมต่างกัน

เมื่อเกิดความเสียหากขึ้นในองค์กร ใดๆ ก็ตาม

คนมักโทษ องค์กร สถาบัน

ความจริง สิ่งที่ไม่ดี เกิดขึ้นจาก มนุษย์ ทั้งสิ้น

ระบบ นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้คนในสังคมอยู่ร่วมกัน

แต่คน มักจะทำลายระบบเพราะไม่ถูกจริตของตน

ทุกปีที่บัณฑิต จบการศึกษา รับพระราชทานปริญญาบัตร

ผ่านพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ เตรียมตัวกันหลายวัน ทั้งวันซ้อม วันจริง

ตั้งแต่เช้าจรดบ่าย มีการเตรียมพิธี กันมากมาย

พระสงฆ์ นั่งเจริญพระพุทธมนต์ ทั้งวันให้แก่บัณฑิตจบใหม่

รับพระราชโอวาท จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านผู้แทนพระองค์

มีกี่คนที่จำได้บ้างว่า ในวันที่ตนรับพระราชทานปริญญาบัตรนั้น

ได้รับฟังพระราชโอวาทอย่างไรบ้าง เพื่อนำความรู้ที่เรียนมา %

ระบบข้าราชการไทย ผมว่าทุกสีก็คงเห็นเหมือนๆกัน

ปัจจุบัน หาระบบธรรมาภิบาลไม่ได้ในประเทศไทย

คนจน คนแก่ คนเฒ่า ที่ไม่ใช่พวกพ้องตัวเอง พอเวลามาติดต่อกับหน่วยงานใดๆ

100 เอา 95 ครับ ผมเห็นว่าแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ยายไปนั้งรอทางนั้นก่อน หนูยังไว่าง ทำนองนี้

ก็คิดเหมือนกับคุณ ซาตาน ครับ ถ้ายังไม่เปลี่ยนระบบราชการไทยใหม่ ก็เป็นยังงี้ตลอดไป

จริงแล้วเกือบเปลี่ยนได้แล้วนะ แต่ดันโดนปล้นไปซะก่อน ฮ่าๆๆๆๆ

ระบบราชการไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ เอื้อประโยชน์กันระหว่างพวกพ้อง หรือในหมู่ญาติมิตร บางกระทรวง ร.ม.ต เป็นพวกพ้องหรือญาติก็จะดึงหรือแต่งตั้งพรรคพวกตนเองขึ้นเป็นใหญ่ ไม่มีการคัดสรรตามอายุงานหรือความสามารถ คนทำดีเลยไม่ได้ดี กลายเป็นการวิ่งเต้นแลกซื้อตำแหน่งไป ในระบบราชการไทยค่อนข้างทำยากครับต้องเป็นแบบที่เคยเป็นมาและจะเป็นต่อๆไป ถามว่ารู้สึกอย่างไรชินชาแล้วครับ

ธรรมาภิบาลไม่มีในระบบราชการไทย รู้สึกอย่างไรกับคนกล่าวว่า ธรรมาภิบาลไม่มีในระบบราชการไทย ก็คงต้องตอบว่ารู้สึกเสียใจครับ กับบุคคลที่มีความคิดอย่างนี้กับระบบราชการของเรา จริงๆ แล้วก็โทษเขาไม่ได้ เพราะเขารู้สึกได้เช่นนั้นจริงๆ แต่ผมเรียนว่ามันไม่ใช่เรื่องของระบบครับ มันเป็นเรื่องของตัวบุคคลมากกว่า และเป็นเหตุสำคัญอย่างยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกเหล่้านั้นกับประชาชน สำหรับตัวระบบราชการแล้ว ผมเชื่อว่าดีที่สุด เหมาะสมที่สุด เพราะผ่านกระบวนการพิจารณามาแล้วอย่างดี จากผู้ทรงคุณวุฒิ à��—รงความรู้ จากการพัฒนาตามระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นร้อยๆ ปี สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากจริยธรรมในตัวบุคคลมากกว่า ที่เป็นข้าราชการ คงไม่ใช่หมายความไปทั้งหมด คงเ็ป็นเฉพาะกรณีเป็นรายๆ ไปนะคà¸��ับ ขอให้มีกำลังใจครับ ประเทศไทยเรา อย่างไรก็ยังน่าอยู่ที่สุดในโลกประเทศหนึ่งครับ

ธรรมาภิบาล มี ในระบบราชการไทย ครับ

มีทั้งในรัฐธรรมนูญ และ พรบ.ระเบียบข้าราชการ

หน่วยงานอย่าง ก.พ. ก็พยายามอย่างมากในการใช้เครื่องมือต่างๆ ภายหลังจากประกาศใช้ พรบ.ฉบับปัจจุบัน เช่น ระบบประเมินสมรรถนะ, PMQA ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ตัวหนังสือในกฎระเบียบฯ ออกมาสู่การปฏิบัติ ให้คนวงนอกได้เห็นชัดเจนขึ้น

แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า สังคมจะมองเห็นภาพรวมในแง่ลบเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เป็นแบบเดียวกันกับที่ สังคมไทย เป็นอยู่ครับ

เพราะ ข้าราชการก็เป็นคนไทย เป็นผลผลิตจาก ระบบการศึกษาเดียวกันกับ ส่วนอื่นๆของสังคม

มีเพียงส่วนน้อยที่ได้ศึกษาจากต่างประเทศ ก็เช่นเดียวกับส่วนอื่นของสังคมอีกเช่นกัน (ซึ่งก็ไม่ได้การันตีว่าจะดีกว่าเสมอไป)

จะเหà¹��นได้ว่า ในวงราชการ กับ ในสังคมไทย แทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลย ครับ

ในขณะเดียวกัน ที่ คนในสังคมอยู่ภายใต้กฏหมาย ... ข้าราชการมีกฎระเบียบล้อมรอบมากกว่าภายนอกอีกเยอะเลยครับ (นี่ขนาดมีกฎเยอะ ยังเล็ดรอด จนสังคมจับได้มากมาย)

ฉะนั้น ต้องช่วยกันหลายๆส่วน ครับ ไม่อยากเห็นให้ระบบราชการเป็นอย่างไร ประชาชนก็ต้องไม่สนับสนุนอย่างนั้น ครับ