คุณเชื่อหรือมีความคิดเห็นอย่างไร ที่ไอสไตน์บอกว่า เวลายืดหดได้ เป็นสิ่งสมมุติ แต่เวลาที่แท้จริงอยู่ที่จิต?

ถ้าจะให้มองง่ายๆก็คือเหมือนเวลาเราทำอะไรที่เราไม่ชอบจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าซึ่งต่างกับเวลาเราทำอะไรที่เราชอบจะดูเหมือนว่าเวลาผ่านไปเร็วนะครับ โดยจิตของเราเป็นตัวกำหนด

เวลาไม่ได้อยู่ที่จิตหรอกครับ เวลาอยู่ที่ความเร็วกับระยะทาง

นี่ยังไม่อ้างถึงไอนสไตนย์นะครับ

แต่แม้ว่าอ้างถึงการยึดหรือหด หรือบิดเบนของเวลา ก็ไม่ได้อยู่ที่จิต

แบบลอยไปลอยมาอย่างที่ผู้ตั้งคำถามเข้าใจหรอกครับ

ไม่ได้คัดค้านพระไตรปิฎกนะครับ

แต่การจะกล่าวอ้างอะไรบางครั้งต้องทำความเข้าใจในเรื่องนั้นให้ละเอียดถึงจะพบ

และ่พอดีเรื่องนี้ของไอนสไตน ถ้าอ่านคร่าวๆโอกาสจะตีความคลาดเคลื่อนค่อนข้างสูง

และเคยพบว่ามีคนนำความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมาอ้างถึงบ่อยๆ

ตั้งแต่ระดับป.4 ยันด้อกเตอร์ ละครับ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา

คิดเห็นอย่างนี้ เวลายืดได้หดได้นั้นมันไม่ใช่ มันอธิบายเป็นรูปธรรมโดยเอาความเร็วและระยะทางเป็นตัววัด

แต่พุทธศาสนาเอาทางจิตและอารมณ์มาวัดว่าทันใจหรือแสนนาน สรุปคือเวลาคือรอคอย...จบ

หากถามว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไรและไอสไตน์รู้อะไรเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ขอตอบว่าเรื่องเดียวกันครับเพราะสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบคือพระธรรมหรือธรรมะนั่นเอง

ท่านได้กล่าวว่าธรรมะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วสามารถพบเห็นได้ทุกที่ทุกเวลาหากจะนำมาปฏิบัติด้วยตนเองแล้วจะพบความสำเร็จคือความสุขหรือที่เรียกกันว่าได้บุญโดยมิต้องมีค่าใช้จ่ายแต่ประการใดเลย

เพราะธรรมะคือธรรมชาติและธรรมดาที่ประกอบด้วยอนิจจัง(ความไม่เที่ยงมีเกิดและดับ)มีทุกขขัง(ทุกสิ่งในโลกล้วนมีปัญหา,สาเหตุ,ทางแก้ปัญหาและผลลัพธ์)มีอนัตตา(ความไม่มีตัวตนคือทุกสิ่งต้องดับไปเป็นธรรมดานั่นเอง)

หากได้ใช้จิตพิจรณาด้วยความตั้งมั่นแล้วตัวเองจะพบแก่นของธรรมะและความสุขตลอดไปครับ

ยังครับ ยังไม่เชื่อ หากยืดเวลาไปรู้อนาคต

นักพนันทั้งหลายไม่มีคนจนครับ