คิดอย่างนี้ขวางโลกหรือเปล่า?

คืนวันลอยกระทง คืนวันปีใหม่ ที่บ้านจะเรียกกันว่า " คืนหมาเครียด" ค่ะ เพราะ มันจะกลัวเสียงปึงปังตูมตามของพลุ ประทัด จะวิ่งพล่านแบบไปหลบที่ไหน ๆ ก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น

ช่วงนี้ไปใช้ชีวิตอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาจนสามสี่ทุ่มแทบทุกคืน ได้ดูเค้าซ้อมเรือไฟ ได้เห็นจุดพลุกันเพลิน คนจุดล้วนแต่วัยยังแบมือขอสตางค์แม่ทั้งนั้น ก็นึกเสียดายตังค์เหมือนกัน แต่ก็ เอาน่ะ นานทีปีละหลายหน ทำใจ ๆ นะ ไม่ต้องช่วยหมาเครียด

ได้อะไร คนอื่นไม่รู้นะ แต่ตัวเองดูแล้วได้เห็นสัจธรรมนะคะ ว่าเราจะเลือกเป็นโคมไฟส่องแสงสว่างนิ่งนานแต่ไม่เจิดจ้าจับตาแต่ว่ามีประโยชน์กับผู้คน หรือเราจะเป็นพลุ สว่างวาบตื่นตาพริบตาพลันหาย เหลือไว้แต่ขี้เขม่า ความงามของพลุนั้น ไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยพลุลูกใหม่และความทรงจำใหม่ ๆ

ไม่ค่ะ confirm ^-^

แต่ถ้ารวย เหลือเฟือหรือฉั้นไม่เดือดร้อนอ่ะ! กระเป๋าหนักหน่อย บางทีการไม่ต้องคิดไรมากก็ดีนะคะ

แบบ>> จุดๆไปเถอะ เพื่อความสาวยงาม ตื่นตาตื่นใจ relax ของชีวิต และอีกหลายชีวิต

ถ้าเงินไม่ใช้ซะบ้างมันก็เป็นแค่กระดาษนอนอยู่เฉยๆ ^-^

--- คำตอบดูดีไร้สาระมากเลยค่ะ ..ไม่รู้ว่าคิดแบบนี้จะขวางโลกของใครมั้ยนะคะ ^-^

(แต่ตอนนี้คนตอบกำลังจะกินแกลบละล่ะค่ะ อิอิ ^-^)

อืม.สามีกะเราก็คิดคล้ายๆคุณนี่แหละ เรื่องเสียดายตังส์

ยิ่งช่วงปีเก่าต้อนรับปีใหม่ยิ่งแล้วเลย ใครๆๆๆก็จุด(แต่เราไม่).

ไม่ขวางโลกหรอกครับ . . ผมเองก็ไม่เคยชอบการจุดพลุเลย . . ทั้งๆที่เคยเป็นเจ้าของโรงงานผู้ผลิตพลุเอง

เรื่องเสียเงิน . . ใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าแพง . . เพราะไม่ได้จุดครั้งละลูก มันจะต้องจุดกันเป็นชุดๆไป จึงจะดูสวยงาม

ปัจจุบันนี้ พลุส่วนใหญ่ สั่งซื้อมาจากจีน ซึ่งราคาจะถูกกว่าที่เราผลิตเองมาก . . แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาใช้สารเคมีอะไรบ้าง

ที่ไม่มีใครรู้ และไม่เคยมีใครพูดถึงก็คือ . . อันตรายที่ได้รับจากสารเคมีที่ใช้ทำพลุนั่นเอง สีแต่ละสีนั้น เป็นสารโลหะแทบทั้งสิ้น เคยมีการใช้สารหนูเป็นสารให้สีด้วย(ปัจจุบันนี้ห้ามใช้แล้ว) . . อันตรายมากครับ

เทวดาบนสวรรค์ จะเป็นผู้ได้รับอันตรายนี้โดยตรง(คงจะทำให้เทวดาอายุสั้นลงไปด้วยละมั๊ง) รองลงมาก็เป็นมนุษย์ที่อยู่บนโลกใบนี้แหละครับ . . เป็นมลพิษที่ไม่เคยมีใครพูดถึงกันมาก่อนเลย

ไม่ ขวางโลกอะไรนี่นา ก็คิดได้นะครับ

ที่ต้องคิดต่อ ทำไงให้คนที่จุดย้อนคิดเช่นผู้ถาม

จริงๆ แล้วเป็นคนชอบดูพลุมากเลยนะ ระยิบระยับจับตา

เวลาเค้าจุดกัน ชอบไปยืนดูอ่ะ ไปฮ่องกงปีใหม่ ก็ต้องไปดูริมน้ำทุกปี เดินไปลำบากยากเย็น...ก็ยอม เป็นความชอบส่วนตัว

ชอบขนาดว่า ถ้าแต่งงานโรงแรมริมน้ำ อยากให้จุดให้แขกดูเลยด้วยซ้ำ รู้สึกว่า สวยงาม น่าจะเป็นความทรงจำที่ดี (แต่ก็ไม่ได้ทำนะคะ ไม่ได้แต่งริมน้ำ แล้วก็ไม่มีงบขนาดนั้นด้วย...)

แต่ดูไป อีกใจนึงก็เสียดายตังค์ รักสิ่งแวดล้อมด้วย หมาที่บ้านก็สะดุ้งหูตั้ง...วิ่งไปวิ่งมา น่าสงสาร (เมื่อก่อนไม่ได้เลี้ยง ไม่เคยรู้ เลยเฉยๆ)

คือ ตอนนี้คิดว่า ถ้านานทีปีหน มีเรื่องควรฉลองใหญ่ เช่นตอน golden jubilee จุดแล้วประชาชนชื่นชม ชื่นใจ ก็เอาเถอะนะ ถือซะว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง

แต่ถ้าเป็นพลุแบบ เฟี้ยวๆ เนี่ย ไม่ชอบมากเลย หนวกหู และน่ากลัวอันตราย

ไม่ขวางหรอกค่ะ

เป็นธรรมดาที่ต้องคิดแบบนี้บ้าง

เพราะถ้าเรานำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น

ก็น่าจะได้ดีและเยอะกว่าการจุดพลุเยอะแยะ

แต่เพราะเป็นเทศกาลลอยกระทงที่ต้องให้เห็นความสวยงามของยามค่ำคืน

ก็เลยจำเป็นต้องมีพลุ ดอกไม้ไฟน่ะค่ะ เราคิดแบบนี้นะคะ

ส่วนตัวเรา เมื่อวานไม่ได้ลอยกระทงหรอกค่ะ แต่ปล่อยโคมแทนต่างหาก

พอเงยมองท้องฟ้าของเมื่อคืน สวยงามและประทับใจมาก ๆ ค่ะ อิอิ

มิรู้เหมียนกันจ้า ว่าขวางหรือไม่

รู้แต่ว่า เป็นแนวร่วม

ถ้าขวางก็ขวาง

ขวางแบบลงเกียร์สองเวลารถวิ่งเกินร้อย

มันชะงัดดีจ้า

เค้าเรียกว่า ไอ้พวกล้างผลาญ ที่จุดๆกันนะ ส่วนใหญ่ ไม่มีจะกินกันทั้งนั้น

เห็นด้วยจ้า...จุดแล้วได้อะไร ^_^