ถามคนไทย อนาคตของประเทศไทยควรฝากไว้ที่คนกลุ่มใด?

คงไม่อาจ ฝากใครได้ ในกลุ่มหนึ่ง

นั่นหมายถึง อธิปไตย มิใช่หรือ

ต้องประชา ช่วยกันมา ต่างหารือ

มิใช่ถือ กลุ่มเดียว หวาดเสียวจริง

อยากให้เด็ก ร่วมด้วย ก็ช่วยหน่อย

จงอย่าปล่อย สิทธิใหม่ ทั้งชายหญิง

ช่วยเป็นหู เป็นตา อย่าปล่อยทิ้ง

เพราะทุกสิ่ง แก้ไขได้ หากใจทำ

เด็กรุ่นนี้ หัวคิดดี มิใช่น้อย

เพียงไม่ค่อย รู้แนวถูก ลูกถลำ

หันมองนิด ถามสักหน่อย เพียงคอยย้ำ

ลูกก็ทำ ได้เยี่ยม ไร้เทียมทาน.

เด็กวัยรุ่นที่หลงไหลวัฒนธรรมต่างชาติไปชั่วขณะ และกลุ่มผู้ใหญ่ที่คุณว่าเป็นอัลไซเมอร์ลืมว่าชาติไทยนั้นมีเพียง ๓ สีแห่งธงไตรรงค์ตามที่คุณว่า เปรียบไปแล้วก็เปรียบเสมือนจอกแหนบนผิวน้ำเท่านั้น คำเปรียบนี้ดิฉันมุ่งกล่าวถึงในแง่ปริมาณนะคะ ไม่ใช่คุณค่า

จอกแหนหรือไม้น้ำบนผิวน้ำดูเผิน ๆ คล้ายจะมีปริมาณมากเพราะแผ่ไปทั่ว เห็นชัดเห็นง่าย แต่จำนวนยังน้อยนักเมื่อเทียบกับมวลน้ำเบื้องล่าง ฉะนั้นเมืองไทยไม่สิ้นหวังหรอกค่ะ เรายังสามารถฝากความหวังได้กับคนทั้งสองกลุ่มตามที่ฟัดวาว่าแหละค่ะ ก็สมัยที่เราเป็นเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ยุคเราก็มองเราอย่างไม่ไว้ใจ คล้าย ๆ ติดจะท้อ พอมาถึงวันนี้เราก็กำลังใช้สายตาแบบนั้นมองเด็กรุ่นต่อจากเราอยู่ ตอนเราเด็ก ๆ ให้เราดูอะไรไทย ๆ เราก็ยี้ก็แหวะ มาตอนนี้ไม่ต้องมีใครเรียก พอวัยได้เราก็ดูกันเอง เด็กรุ่นนี้ก็เหมือนกัน ตอนนี้อาจจะเห่อเกาหลี แต่เรื่องแบบนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่นี่คะ กระแสมันมา เดี่ยวมันก็ไป และคนเรายังสามารถเติบโตเปลี่ยนแปลงได้ อีกอย่างพวกเขายังเป็นไม้อ่อน ยังดัดให้ได้รูปได้ง่ายดังใจ พวกคนแก่ ไม้แก่มากทิฏฐิต่างหากที่น่าเป็นห่วง สอนไม่ได้เพราะต่างถือว่าโต ๆ กันแล้ว ต้องรอให้สติมาปัญญาเกิดด้วยตนเองแหละค่ะ แต่ก็ไม่ใช่จะสิ้นหวังกับผู้ใหญ่นะคะ เพราะในหัวใจทุกคนมีความรักชาติเป็นทุนเดิม ถ้าอย่างไรจะให้ดี ฝากความหวังไว้กับเด็ก ๆ น่าจะดีกว่า ตอนนี้ก็กล่อมเกลาเขาให้ดี ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ที่สำคัญสอนให้รู้หน้าที่ไม่ใช่รู้แต่สิทธิ จะได้ไม่ยุ่งแบบทุกวันนี้

ปัจจุบันนี้ยืนด้วยลำแข้งตัวเองล้วนๆ อนาคตก็คงฝากใว้ที่ลำแข้งล้วนๆเช่นกัน มีน้ำบ่อน้อยอยู่ในตัว แล้วใยที่จะหวังน้ำบ่อหน้าครับ

ฝากไว้กะตัวเองค่ะ

ตัวเราเองนี่แหละ

1.ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีงานอะไรรับผิดชอบก็ทำไป..อะไรไม่ใช่หน้าที่เราก็อย่าไปสอดแทรก, อวดรู้, ก้าวก่าย ขยันหมั่นหาความรู้ใส่ตัวที่ไม่มีวันสิ้นสุดง่ายๆ อย่าหลงงมงายอะไรไม่เข้าท่า.... ถึงเวลาเลือกตั้ง ก็พยายามคัดคนที่คิดว่าดีที่สุดเข้าสภา ถ้ารอบไหนหาคนดีไม่ได้ ก็กาช่องไม่ออกเสียง ดีกว่านอนหลับทับสิทธิ์(เปิดโอกาสให้มีผีเข้ามาสวมด้วย) ที่สำคัญ...เราไม่ชอบให้ใครมาก้าวก่ายสิทธิของเราอย่างไร ก็ต้องระวังไม่ไปก้าวก่ายสิทธิของคนอื่นเขาด้วย ไม่ว่าจะทางวาจาหรือการกระทำ

2.เห็นสิ่งใดผิดก็ตักเตือนกัน แต่ถ้าผิดกฏหมายก็ต้องผู้รักษากฏหมาย ผิดในเรื่องความปลอดภัยในสังคมก็ฟ้องตำรวจ ผิดในเรื่องประเทศก็ฟ้องทหาร

3.หากช่วยอะไรได้ และเขายินดีเต็มใจให้ช่วย ก็ช่วยเท่าที่จะมีกำลังความรู้ความสามารถช่วยได้ แต่ไม่ช่วยในทางผิดๆ..จะรู้ได้ยังไงว่าผิด ก็วัดกับจริยธรรมและศีลธรรมสิ

4.สั่งสอน+ดูแล+อบรม ทั้งลูกและหลานที่อยู่ในปกครองของเรา อย่าไปมัวหวังพึ่งแต่โรงเรียน เพราะวิชาชีวิตโรงเรียนไม่มีสอน และวิชาศาสนา-ศีลธรรม-จริยธรรม ก็ต้องพึ่งเราเป็นผู้ปลูกฝัง(เน้นกว่า)....อย่าสักแต่จ่ายเงินเดือนจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้ดูแล อย่าฝากเด็กไว้กะเคเบิลทีวีและคอมพิวเตอร์เท่านั้น อย่าเพียงแต่ ดู กับ แล ต้อง เลี้ยง อย่างใส่ใจ ด้วย

ถ้าทุกคนเริ่มที่ตัวเอง ในครอบครัวในบ้านก็สงบสุข สังคมที่อยู่ก็จะดีขึ้น อำเภอ-จังหวัดก็จะดีขึ้นตาม แล้วประเทศจะไม่เจริญก็ให้รู้ไปสิ

ที่ตอบแบบนี้เพราะ ไม่ชอบที่จะหวังพึ่งพาคนอื่นค่ะ ชีวิตของเรา-ลมหายใจของเรา ถ้าเราไม่ลงมือเอง จะหวังขอแต่คนอื่นมาช่วยได้ยังไง ^^o

ผมเชื่อเหลืองนะ อย่างน้อยยังไม่มีอะไรทำให้เห็นว่าขี้โกงเกินเลยบ้างแต่ผมว่าให้อะไรๆกับสังคมนะ ถ้าไม่มีใครนำหรือนำเสนอแล้วสู้กับนักการเมืองกะเลวกะลาดแล้วใครที่เป็นผู้นำ คุณเหรอ มีปํญญาเหรอ หรือใครละที่มีปัญญา ผมเชื่อไอ้ระยำพวกนี่ต้องมีคนคอยกระทุง และถ้วงแบบแรงๆและมีพลังให้ต่ิเนื่องครับ หรือคุณว่าไง

ทั้งสองกลุ่มนั่นแหละค่ะ

การฝากไว้กับคนอื่นหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคงไม่ดี เหมือนคำที่ว่ายืมจมูกเข้าหายใจ ทำไมเราไม่เริ่มจากตัวเราว่าจะทำอะไรให้ประเทศไทยของเรา ถ้าคนสีต่างๆลดๆลงบ้างที่สำคัญอย่าเห็นแก่ตัวให้ออกหน้าออกตา เมืองไทยจะสงบสุข ครับ

กลุ่มที่มองเห็น คาดหวัง แหละให้ความสำคัญกับโอกาสแห่งอนาคตของชาติไทยไง