Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

? ถามใน ครอบครัวและความสัมพันธ์ครอบครัว · 1 ทศวรรษ ที���ผ่านมา

งานกับครอบครัวเลือกอะไรคะ?

ถ้าสองสิ่งนี้ขัดแย้งกัน คุณจะเลือกอะไรคะ

รับผิดชอบในงาน ทุ่มเทกับงาน แต่ต้องอยู่ห่างกับครอบครัว

กับยอมออกจากงานเดิม มาเริ่มงานใหม่ที่รออยู่ เพื่ออยู่ใกล้ครอบครัว

คุณจะไปทางไหนคะ

อัปเดต:

ดิฉันกับแฟนอยู่ห่างกันค่ะ ปัญหามันมีมากแน่นอน กว่าจะเจอกันก็ยาก คิดถึง ห่วงหาไม่ได้ดูแลกัน

เราคุยกันบ่อยมากว่าเมื่อไหร่เราจะได้มาอยู่ใกล้กันซะที

วันนึงดิฉันหางานที่ดี ที่พักพร้อม ในพื้นที่ของดิฉันให้เขาได้

ซึ่งถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้มันก็ดูยากเต็มทน ที่จะได้งานดี ใกล้บ้าน

เขาตกลงจะมาทำงานที่นี่ ดิฉันโล่งใจ ว่าเราจะได้มาเริ่มสิ่งใหม่ๆ ด้วยกันซะที

คิด หวัง วางแผนทุกอย่างไว้รอ

แต่วันนี้เขามาบอกดิฉันว่า งานที่เก่าขร้องให้ช่วยงานไปก่อน อย่าเพิ่งออก และเขาก็เลือกที่จะอยู่ต่อ ทั้งที่ยื่นใบลาออกไปแล้ว

ดิฉันรู้จักคำว่ารับผิดชอบ มันต้องมี แต่โอกาสที่ดีในชีวิตมันไม่ได้มีบ่อย

ดิฉันรู้สึกเหมือนสร้างปราสาททราย ความหวังมันห่างไกล กับการตัดสินใจของเขา

แค่นั้นเองค่ะ

อัปเดต 2:

จะทำใจได้มากเลย ถ้างานเก่าเขาดีจริง แต่ที่ผ่านมาเขามีอุบัติเหตุหมอให้ใบรับรองแพทย์หยุด 3 วัน แต่ที่ทำงานก็ให้ไปทำ (ช่วยกัน) ปวดหัวเป็นไข้ก็มาเถอะ (เพื่อภาพรวมที่ดีของแผนก ) วันหยุด ดึกดื่นก็ต้องไปทำ

ขอไปทำเอกสารที่ธนาคารมาเกือบสองเดือน ยังไปไม่ได้ ( มีงาน )

แต่พอเขาจะไป มาหว่านล้อมสารพัด จนเขาต้องอยู่

มันเลยเป็นความรู้สึกที่ว่า...น้อยใจอยู่ลึกๆ

18 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • Kimmim
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ดิฉันเคยเลือกงานมาก่อนครอบครัวค่ะ

    เพราะคิดเสมอว่า ถ้าไม่มีงาน...ครอบครัวจะลำบาก

    ก็นั่งตรองแล้วว่าต่อให้เราไม่อยู่ซะคนนึง ก็ยังมีพี่ชายอยู่ มีแม่บ้านอยู่ ลูกกับแม่เราคงไม่เป็นไร

    แต่ที่ไหนได้...ผ่านไปเพียงแค่ 2-3 ปี...ทุกอย่างถอยหลังลงคลองหมด

    แม่ก็สุขภาพแย่ลงทั้งๆที่ชรามากแล้ว

    ลูกสาวการเรียนก็ดรอปลงแถมยังมีปัญหาทางใจกลายเป็นเด็กเศร้าซึม

    ตัวเอง..สุขภาพก็ทรุดถึงแม้เงินเดือนจะสูงและสวัสดิการดีก็ตามแต่ไม่มีโอกาสจะใช้ทั้งเงินและสวัสดิการ(งานยุ่ง)

    ก็เลยนั่งคิดใหม่ว่า "กำลังทำอะไรอยู่? เพื่ออะไร?"

    สรุปว่า..ได้ ไม่คุ้มเสีย และไม่อยากเสียใจภายหลัง

    เลยตัดสินใจลาออกจากงานไม่ว่าเจ้านายจะขอร้องแค่ไหนก็ตาม

    จริงๆต้องบอกว่า....หลอกเจ้านายว่าขอกลับมาดูแลแม่สัก 1 เดือนโดยไม่เอาเงินเดือน

    แต่พอกลับมาแล้วก็โทรไปบอกเจ้านายว่าไม่กลับไปแล้ว(ไม่งั้นเค้าคงรั้งไว้ไม่ให้ออก)

    ยอมสละไม่เอาเงินเดือนที่ค้างหรือที่จะได้ชดเชยทั้งหมด

    ดิฉันว่า...สำหรับดิฉัน...ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่า แม่ กับ ลูก ค่ะ

    วันนี้เขาต้องการเรามากที่สุด ควรให้เขาก่อน

    เพราะเวลาแม่ก็นับถอยหลังทุกวัน

    ลูก...ถ้ารากฐานเขาไม่มั่นคงในวันนี้ ปล่อยให้โตขึ้นอาจแก้ยากกว่าตอนนี้

    ก็ยังดีที่ไม่มีคำว่าสายเกินไปค่ะ ^^o

    สำหรับเคสที่คุณยกมา...ก็ไม่แน่...วันข้างหน้าอาจมีโอกาสอื่น "ที่ดีกว่านี้" ก็เป็นได้

    ต้องให้โอกาสทั้งตัวคุณเองและแฟนค่ะ

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    งานกับครอบครัว สำคัญทั้งสองอย่างน่ะครับ

    งาน ทำเพื่อแลกเงิน มาจุนเจือครอบครัว สร้างความสุขให้ครอบครัว

    ครอบครัว คือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

    เราต้องจัดเวลาทั้งสองอย่างให้เหมาะสม กลมกลืน เพื่อสร้างสมดุลความสุขให้กับชีวิต เพราะเราไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้

    แต่ถ้าต้องเลือกอย่างให้อย่างหนึ่ง ผมว่า งานช่างหัวมัน

    ถ้ามีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต เป็นผู้จัดการ เป็นผู้บริหาร แล้วครอบครัวต้องล้มเหลว ผมขอเลือกงานเป็นพนักงานธรรมดาๆดีกว่า ขอมีความสุขกับครอบครัว ดีกว่า มีตำแหน่งใหญ่โต

    กินไวน์แพงๆ กินอาหารหรูๆ มันไม่มีความสุขเท่ากิน บะหมี่เกี๋ยวกับครอบครัวหรอก

    ชีวิตมีอะไร เข้ามา-ออกไป แต่ครอบครัวจะอยู่กับเราทุกวันตลอดไป

    Apartment Khunpa - ใบหน้าของเรา

    http://www.youtube.com/watch?v=mzM-xtabKQc

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    งานกับครอบครั��¸§ สำคัญทั้งคู่สำหรับฉัน ถ้าสองสิ่งนี้ขัดแย้งกันฉันก็ต้องถามความคิดเห็นของคนในครอบครัวก่อนค่ะ ว่าจะให้ฉันทำอย่างไร จะให้ลาออกจากงานเดิมเพื่อมาเริ่มต้นใหม่หรือเปล่า เผื่อไว้ค่ะ หากเกิดอะไรขึ้น หากมีข้อผิดพลาดใดจะได้ไม่มาโทษกัน จะได้รับผิดชอบร่วมกันค่ะ

    ถ้าเป็นข้าราชการยังย้ายกลับภูมิลำเนาหรือย้ายติดตามครอบครัวได้ แต่ถ้าทำงานเอกชนต้องพิจารณาที่ฐานเงินเดือน ความก้าวหน้า ความมั่นคง ความสบายใจ ถ้าบวกลบคูณหารแล้วค่าเฉลี่ยติดลบหรืออยู่ใกล้ศูนย์ กลับบ้านไปหาครอบครัวดีกว่าค่ะ (คิดแบบไทยๆค่ะ ถ้าคิดแบบฝรั่ง คิดนอกกรอบ งานที่ทำให้เรามีอิสระภาพทางการเงิน มีมากมาย เงินมันลอยอยู่ในอากาศค่ะ หาวิธีช้อนเงินเข้ากระเป๋า ดีกว่าทำงานในระบบมากมาย)

    พระเจ้าอวรพรคุณค่ะ ^_<

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ครอบครัวสำคัญกว่าครับ

    ถ้าจำเป็นต้องเลือกเพียงอย่างเดียว ควรเลือกครอบครัว

    แต่ควรพยายามหาทางออกที่ได้ทั้งครอบครัวและงาน เช่นทำความเข้าใจกับครอบครัว หรือทำความเข้าใจกับหัวหน้างาน

    วิธีสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างงานและครอบครัว

    1. การจัดสรรเวลาอย่างสมดุล

    2. ไม่หมกมุ่นแต่เรื่องงาน

    3. สื่อสารไม่ขาดตอน

    4. พึงสังวรประมาณตน

    ถ้าสนใจ อ่านรายละเอียดได้ที่ http://www.kriengsak.com/node/196

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    คงไม่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทั้งสองสิ่งก็สำคัญพอๆ กัน ถ้าหากขาดสิ่งใดส่งหนึ่งไปก็คงไม่ดีทั้งนั้น ก็ควรที่จะให้เวลากับทั้งสองอย่างให้เหมาะสม ไม่มากไปไม่น้อยไป เพื่อความสมดุลของการงานและครอบครัว และชีวิตก็จะมีความสุข ทำงานได้อย่างเต็มความรับผิดชอบ ให้เวลากับครอบครัวด้วยความรักและความเข้าใจ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและจะมีความสุขมาก

    แหล่งข้อมูล: http://miraclepro-9.blogspost.com/
  • komet
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    สำหรับเรานะ เราเลือก"ครอบครัว"จ้ะ แม้จะเริ่มงานใหม่ แต่ก็ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว,

    .

    .

  • ?
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    จริงๆแล้วทั้งงานและครอบครัวสำคัญเท่าๆกัน ไม่มีงานทำ ครอบครัวก็เดือดร้อน ทำแต่งานครอบครัวต้องแตกแยก งานก็ไม่มีความหมาย ถ้าเลือกได้ ก็ต้องเลือกทำงาน ใกล้กับครอบครัวซิคะ จะได้ไม่เสียอย่างใดอย่างหนึ่งไป

  • ?
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ตั้งคำถามได้รวบรัดดีจัง.. พี่ก็จะพยายามสรุปตอบให้สั้นลงบ้างนะคร้า แหะแหะ ^___^

    สำหรับพี่..ครอบครัวต้องมาก่อนค่ะ อาจจะเป็นเพราะพี่มีโอกาสได้ทุ่มเทกับงานมามากแล้ว พอวันที่มีครอบครัวเลยขอเลือกทุ่มเทความเอาใจใส่ทั้งหมดให้กับครอบครัว เป็นเมียและแม่เต็มเวลาอ่ะ ^^)

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เลือกงานค่ะ ไม่มีงานครอบครัวอดตายแน่ๆๆ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    จริงๆมันคือปัญหาโลกแตกและมันก็คือความจริงได้อย่างเสียอย่างดั่งคำโบราณท่านกล่าวเอาไว้พึงให้คนสมัยใหม่เช่นเราได้ตรึกตรองและทำให้เราได้ใช้มันสมองมากขึ้นอีกนิดเพื่อทดสอบจิตใจของคนขึ้นชื่อว่ามนุษย์ว่าคุณจะเลือกสิ่งไหนในสองสิ่งนี้เราเองก็เจอปัญหาเดียวกันจะเลือกงานก็ต้องห่างจากครอบครัวจะเลือกครอบครัวก็แสนจะลำบากมันก็จริงไม่ได้ลำบากถึงต้องอดมื้อกินมื้อแต่พอถึงจุดเข้าตาจนก็มองหาอะไรไม่เห็นเช่นกันเราในตอนนี้เราเลือกงานเพราะอย่างน้อยก็คุยกับครอบครัวถึงปัญหาที่มันจะตามมาทีหลังเราโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจเราก็อยากให้คนที่มีปัญหาให้เข้าใจซึงกันและกันนั่นก็คือจับเข่าคุยกันจ๊ะที่แน่ๆมันสำคัญทั้งสองสิ่ง

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    การเลือกและยอมรับกันนั่นแหละความหมายที่สุดของครอบครัว ถ้าต่างคนต่างคิดมันป็นแค่ตู่อื่นที่ไม่ใช่คู่ชีวิต..จ๊ะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้