การโหวตโน ดีจริงหรือ?

อ่านจั่วหัวข้อแล้วนึกว่าว่าเรื่องโหวตในรู้รอบเสียอีกแน่ะ...หุหุ

แม้จะเป็นชุมชนเล็กๆแต่ก็ประกอบด้วยความหลายหลายทางชีวมวลตด อะเจ้ยยย หลายหลากทางความคิด อาชีพ และความรู้สึก ผมเข้าใจว่าท่านผู้ถามไม่ได้ตั้งใจเพื่อที่จะกรอบนำทางความคิดให้ผู้อื่นร่วมลงบล๊อคเดียวกัน หรือเห็นเชื่ออย่างนั้นเช่นกันครับ

แต่

อย่าลืมว่าในความหลากหลายของชุมชน หรือประเทศก็ตาม วิธีการลากนำมักจะได้ผลเสมอ และได้ผลปลายยก ทำให้ตัวเก็งตกม้าตายตอนจบในทางการเมืองก็มาก

ประเทศและประชาธิปไตยอย่างแท้จริงไม่อาจสร้างอย่างฉาบฉวย หรือสวยชั่วข้ามวันอย่างคลีนิค สวยด่วย งามด่วน หน้าเด้งอกดูมๆแบบด่วนสวยได้

ดังนั้นการออกมาแสดงพฤติกรรมอย่างใด อย่างนีงในทางการเมืองนั้น

ผมมั่นใจว่า"เป็นหลุมพลางทั้งสิ้น"อาศัยเจตนาอันบริสุทธิ์ของผู้หลงเชื่อทั้งหลายแห่แหนกันเพื่อลากนำครับ

สุดท้ายพวกนิ่งๆวางแผนจะเป็นผู้จัดวางบริหารประเทศเสียเอง

ไม่เชื่อลองดูในบอร์ดเรานี่ก็ได้นะ

นิ่งๆถามมาเหอะ ปล่อยโหวตเมื่อไหร่ เป็นได้"คนๆนั้นทุกๆที"

" เอิ๊กๆๆๆ..

ปล่อยดิๆ

ผมไม่เห็นด้วยกับการโหวตโน แต่ก็จะยอมรับในผลและกติกา หากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนออกมาเป็นเช่นนั้น ในสว่นของเหตุผลทำไมถึงไม่เห็นด้วยกับโหวตโน บ้านเมืองไม่ต้องเลือกตั้งตัวแทนประชาชนกันตลอดปีตลอดชาติตลอดไปหรือ แล้วบ้านเมืองที่ไม่มีตัวแทนประชาชนเข้ามาบริหารประเทศและราชการแผ่นดินจะขับเคลื่อนเดินหน้าเข้าต่อสู้ในเวทีโลกได้อย่างไร และผมมีอีกคำถามหนึ่งในเมื่อลัทธิโหวตโนได้ทำการสถาปนากลุ่มของตัวเองว่าสุดที่จะรักชาติและมีความคิดความอ่านที่ดีกว่าคนอื่นในแผ่นดินสำหรับการนำพาประเทศชาติให้เดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องดีงาม แล้วทำไมไม่ชูนโยบายการแก้ปัญหาและนำพาประเทศให้ยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างสง่างามสักสองสามหรือสี่ห้านโยบายเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชนได้เลือกอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ แต่นี่ปฎิเสธวิถีทางแห่งการเลือกตั้งซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบอบประชาธิปไตย เอาแต่แหกปากเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่ข้างถนน หนทางที่ถูกต้องตามวิถีแห่งรัฐสภากลับถูกปฏิเสธ นโยบายการแก้ปัญหาที่ชัดเจนไม่มี มีแต่คำด่าทอเอามันสะใจไปวันๆ หากรักชาติจริงเก่งจริงแก้ปัญหาประเทศชาติได้จริง อย่ามัวเปล่งเสียงอยู่ข้างถนน เดินหน้าเสนอนโยบายเข้าสู่การเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจเพื่อที่จะได้รับเอาอำนาจบริหารจากประชาชนไปบริหารประเทศชาติและราชการแผ่นดินเถิดครับ

การโหวตโน ดีจริงหรือไม่ จริงๆแล้วหากการโหวตโนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศชาติ

ได้จริงตามตรรกะที่ผู้นำทางจิตวิญญาณของผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง ผมว่าก็น่าสนับสนุนนะครับ

แต่หากจะไล่เรียงพิจารณาตามเหตุและผลแล้ว ครั้งแรกมีความคิดจะโหวตโน เช่นกัน แต่

เป็นการคิดก่อนที่จะมีการประกาศรณรงค์การโหวตโน ของกลุ่มพี่น้องพัมธมิตร ซึ่งจริงๆแล้ว

พี่น้องกลุ่มพันธมิตรเอง ก็คิดอ่านในบางเรื่องไม่ได้มีความแตกต่างกับสิ่งที่ผมคิดเช่นกัน

แต่ด้วยการโหวดโน นั้น ภายหลังมีการรณรงค์ออกมาโหวตโน นั้นผมต้องกลับมาคิดอีก

ครั้งว่าหากโหวตโนไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นมาต้องสังคมไทยบ้าง เพราะโดยจริงๆแล้ว การได้

มาของสส.ในประเทศไทยที่ผ่านกระบวนการการเลือกตั้งในทุกครั้งที่ผ่านมานั้น เป็นการที่

ได้สส.มาจากสัดส่วนเปอร์เซนต์ของประชาชนผู้มีสิทธิ์เพียงไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้น โดยการ

รณรงค์การเลือกตั้งในแต่ละครั้งผู้ที่มาใช้สิทธิ์ครั้งที่ผ่านมาหากจำไม่ผิดจะอยู่ที่ราว 62-65%

เท่านั้น ซึ่ง ยังมีผู้ที่นอนหลับทับสิทธิ์อีกร้อยละ35-38 ที่จะเป็นตัวที่จะชี้ทางออกให้กับประเทศ

ไทย ซึ่งหลายๆฝ่ายควรหันมามองและพิจารณาตรงจุดนี้มากกว่า

ที่ผ่านมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญในแต่ละมาตรานั้น เป็นการแก้ไขในเรื่องของการกระทำเพื่อ

การเข้าสู่อำนาจของสส.ทั้งสิ้น โดยผู้ที่มีหน้าที่ไปเลือกตั้งก็มีหน้าที่เพียงกากะบาท ส่งเขาเข้า

สภา แล้วปล่อยให้ระบบมันดำเนินการของมันไปเอง โดยหารู้ไม่ว่า " ระบบมันผิดแต่คนที่เข้าสู่

ระบบมันไม่ผิด " ดังนั้นการบิดเบี้ยววัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญในการขีดเขียนขึ้นมาในแต่

ละฉบับนั้น จะถูกกลุ่มผู้มีอำนาจฉีกมันทั้งฉบับแล้วเขียนรัฐธรรมนูญมันขึ้นมาใหม่ ครั้งแล้วครั้ง

เล่า และในการเขียนทุกครังก็พยายามที่จะแก้การกุมกลไกของรัฐให้ได้มากที่สุด จนทำให้โครง

สร้างบิดเบี้ยวไปอย่างที่เห็น

ดังนั้นส่วนตัวเลยมองว่า การโหวตโน ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ ตราบใดที่

คนไทยเองยังเรียกร้องหาสิทธิ์ที่เป็นไปในแนวทางใรแนวทางมัน และไม่รู้จักหน้าที่พลเมืองไทย

ที่พึงมีในการเคารพสิทธิ์อันควรอีกหลากหลายประการ การอ้างสิทà¸��ิ์ในแต่ละครั้ง การแสดงออก

ยังละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นครับ และแนวโน้มจากลการสำรวจในทุกครั้ง ที่มีแนวโน้มที่คนไทยจะ

ยอมรับคนโกงกิน แต่ขอให้มีการทำให้เห็น(บ้าง) เพิ่มสูงขึ้นไปทุกวัน จนส่งผลให้การจัดระดับ

การคอรัปชั่นของหน่วยงานของโลก จัดอันดับให้ประเทศไทยกลับไปมีอันดับการคอรัปชั่นที่มี

ตำแหน่งที่สูงขึ้น และ จัดอันดับให้ประเทศไทยมีสภาวะถดถอยไปเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา

และที่สำคัญ สิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชนถูกจำกัดไว้ในขอบเขตของสื่อที่ไร้เสรีภาพในการ

นำเสนอ โดยที่การจัดลำดับเองมันไม่ได้มาจากการบริหารนโยบายของภาครัฐซะทีเดียว แต่เป็น

เพราะคนไทยต่างหากที่ยอมรับให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศของเรา อย่าไปโทษใครเลยครับ

สรุปสำหรับผม ผมคิดว่า โนโหวตไม่ดีแน่ๆสำหรับเมืองไทย จากมุมมองของผมที่ได้กล่าวไป

จากวลีที่บอกว่า ไม่เลือกเราเขามาแน่ หรือ ตรูชนะแหงๆ หรือ ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้เป็นสส. และ

หลังสุด ประชาธิปไตยไทยจะมีนายกมาจากการเลือกของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร แล้วจะไป

บอกชาวโลกว่า ประเทศไทยคือประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ไงก็คงหมดสมัยไปแล้วแน่ๆครับ

ดังนั้นจึงอยากรณรงค์ วิงวอน ขอร้อง คนที่นอนหลับทับสิทธิ์ ออกมาตัดสินอนาคตของประเทศ

ไทยไทยกันซะทีเถอะครับ หลังจากที่ท่านนอนหลับทับสิทธิ์มานาน หนึ่งเสียงของท่านรวมกับอีก

หลายๆเสียงของคนที่มีสิทธิ์ ไงก็เปลี่ยนแปลงประเทศได้แน่นอนครับ

เช่นนี้ครับ

โหวตโน ก็คือประชาธิปไตร

และไม่ต้องกลัว ว่าจักเกิดอะไรขึ้น นอกเสียจาก คนที่เรียกตัวเองว่า สส.

จ้กต้องไปพิจารณาตัวเองว่า ตัวฉันเอง สมควรแล้วหรือ

และที่ถามว่า ใครรับผิดชอบ.........

ต้องถามก่อนว่า ถ้าเลือกมาแล้ว เหมือนเดิม ฆ่ากันตาย เผาบ้านเผาเมือง ที่ผ่านมา "ใครรับผิดชอบ"

ก็คนที่เลือกเข้าไป ไม่ใ่หรือ

ประชาธิปไตร ในมือคุณ สาวได้ สาวเอา ถึงเวลาล้างมือ แล้วครับ

ผมเบื่อการเมือง...แต่ก็อยากรักษาสิทธิ์ของตัวเอง

การโหวตโน อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด...แต่

ณ เวลานี้ ผมยังมองไม่เห็นใครจริงๆ

ขนาดนายไจ่ แซ่เอ๋ง หัวขบวนสายสาธารณรัฐ ของกลุ่มเสื้อสีแหล่ๆ

ยังออกมาบอกว่าเรายังจำเป็นต้องเลือกพรรคเผาไทยเลย

หลังจากออกมาด่าบักหน้าเหี่ยมออกทั่วเน็ทเสียสองยก

ว่าหวังเพียงกลับคืนอำนาจ ไม่ได้คิดถึงพี่น้องร่วมสี

ที่ถูกหลอกมาเสียชีวิต

ตกลงพวกเสื้อสีทั้งหลายภายในก็ไม่ได้เป็นเอกภาพกันเท่าไรหรอก

ยืมมือ ถือพลังที่เอามาจากคนอื่น หวังทำตามเป้าหมายแอบแฝงกันเสียเยอะ

หมายฟามว่า พวกที่จำใจเลือกเผาไทย ก็ยังมีอยู่อีกมาก

ผมก็คงยังไม่โนโหวต หรือโหวตโน หรอกครับ

เพราะไม่ใช่เวลาปิ้งปลาประชดแมว

จริยะธรรมยังไม่ซึมซับลงในหัวใจโจรหรอกครับ

แม้อาจจะต้องกินเหล้า หรือคุยกะจิ๊กโก๋หน้าซอยบ้าง

ก็ยังดีกว่าปล่อยให้โจรเผาเมือง

มานั่งเต๊ะจุ๊ย กินปลาย่าง อยู่บนบ้านเรา

โหวตโนดีจริงหรือ ตามหลักทั่วไปหรือทุกครั้งที่มีการใช้โหวตโน ความหมายก็คือ งดออกเสียง หรือไม่แสดงความคิดเห็นใดๆต่อการตัดสิน ปล่อยให้คนอื่นตัดสินใจแทน และยอมรับคำตัดสินนั้นๆด้วย แต่เที่ยวนี้ กลุ่มพธม.เรียกร้องให้โหวตโน เพราะ ทางตัน ส่งพรรคการเมืองใหม่ลงแข่งก็แพ้ยับเยิน หรืออาจจะได้ ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่1 ทางเลือกเดิม คือเลือกประชาธิปัตย์ ตอนนี้โดนหักโดนโค่นกัน ก็เลยเลือกไม่ได้ ตัวช่วยที่เคยช่วย ก็ไม่ช่วย หน้าเวทีก็น้อยลงแบบใจหาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ก็ต้องหาทางออก ก็อาศัยสวมรอย บัตรเลือกตั้ง ว่าถ้าโหวตโนก็คือเลือกพธม. ชาวบ้านเรียกว่า ฉวยโอกาส ไอ้เหตุผลที่อ้างว่าไม่มีคนดีบ้าง มีแต่คนโกงบ้าง มีแต่คนเลวบ้าง คนโสโครกบ้าง มันก็คือข้ออ้าง อย่างที่เคยทำอยà��¹à¹ˆà¸šà¹ˆà¸­à¸¢à¹† เดี๋ยวข้บไล่เผด็จการ เดี๋ยวเชียร์ยึดอำนาจ อย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย อย่างเขาเรียกว่าเอาแต่ใจ พรรคการเมืองก็ตั้งมาแล้ว แล้วมาบอกว่านักการเมืองไม่ดี แล้วตอนตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทำไมไม่เห็นบอกว่าไม่ดี โหวตโนมันอยู่ที่ใจของผู้กา ถ้ากาแบบบริสุทธิ์ใจตามหลักทั่วไป ก็ไม่เป็นอะไร ดีเสียอีก ที่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้ากาโหวตโนเพราะพธม.ว่าคนอื่นเลวหมด คนอื่นโสโครกหมด ก็แค่โหวตโนช่วยเหลือตัวเองหาทางออกให้ได้ ก็เหลือแค่ทางเดียว ดูตามสถานะการณ์คงไม่มีผลอะไร จะมาก จะน้อย ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ไอ้ที่หวังว่าจะเกิด ก็หลอกตัวเอง ประชาชนส่วนใหญ่ อยากเลือกตั้ง เลือก รัฐบาล เพื่อมาจัดการกับปัญหา ให้ชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าคิดให้ละเอียด โหวตโนตามที่พธม.บอก ก็คือการไม่รับระบอบประชาธิปไตยดีๆนี่เอง แล้วจะเอาอะไรกันแน่

"แคว้นจะเป็นแคว้นไม่ได้ หากไร้ซึ่งประชาชน"

เรื่อง Animal Farm ผู้นำอย่าง"นโปเลียน"หรือสควีลเลอร์" ไม่เคยตายจากโลกใบนี้ อำนาจเผด็จการณ์มักไปได้สวยกับโลกทุนนิยมนะครับ

ในภาคของเรากำลังดำเนินมาช่วงที่เรากำลังถูกเจ้าหมู"นโปเลียน"กดขี่แล้วล่ะ ครับ คงไม่ใช่ช่วงต้นเรื่องอย่างตอนที่"นายโจนส์" ปกครองเราอย่างที่คุณเข้าใจ

"กบ"อย่างพวกเราแค่กำลังทนเจ้าหมู ตะกละตัวนี้ไม่ได้ต่อไป เพราะนอกจากมันจะกินเยอะจนท้องจะแตก มันยังกำลังหาทางขายFarmของเราทุกคนทอดตลาด ไม่ใช่ว่าเราจะไม่รู้ว่าหมูตัวต่อไปที่ขึ้นมาปกครองมันก็โหยหิวพอๆกัน แต่เราแค่รักFarmของเรา ซึ่งเราก็เชื่อว่าคุณก็คงรักไม่น้อยกว่า

ตอนจบของ"Animal Farm" ไม่มีอะไรมากครับ แค่หมูมันดูหน้าเหมือนคนและเริ่มเดินสองขา

และพวกสัตว์ก็ยังถูกปกครองในFarm

--------------------------------------------------------

วันที่เราเขาคูหา เลือกตั้ง

เบอร์ 1 เลว

เบอร์ 2 ชั่ว

เบอร์ 3 ขี้โกง

แล้วเราจะเลือกใครละครับ ถ้าไม่มีใครให้เลือก ถ้าจะตอบว่า "เลือกคนที่เลวน้อยสุด ผมว่าก็หมดหวังเหมือนกัน แบบนี้สิ้นคิดอีกต่างหาก"

ถ้าเลือกคนดี พอเข้าไป เจอระบบการเมืองที่เลวๆ หวังแต่ผลประโยชน์ สุดท้ายก็ยกมือตามมติพรรค หมดหวังอีกเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น ผม Vote no ดีกว่า

ส่วนกลุ่มที่เดือดร้อนกับ Vote no มากที่สุด ก็พรรคประชาธิปัตย์ ไม่รู้ทำไม จะเป็นจะตายกับ Vote no กันจริงๆ ส่วนคนที่บอกว่า Vote no เป็นภัยต่อบ้านเมืองบ้าง ไม่ดีบ้าง ผิดกฎหมายบ้าง พวกนี้ก็พยายามเบี่ยเบนประเด็นกันทั้งนั้น

มาตรา ๒๖ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจ

ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว แต่เหตุนั้นมิใช้่เหตุอันสมควร หรือ

เป็นผู้ที่มีรายชื่อในประกาศตามมาตรา ๒๕ ให้ถือว่าผู้นั้นเสียสิทธิดังต่อไปนี้

(๑) สิทธิยืนคําร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาหน้า ๘๐

เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๖๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ ตุลาคม ๒๕๕๐

(๒) สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทน

ราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น

(๓) สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลัà¸��ษณะปกครองท้องที่

มาตรา ๒๗ การเสียสิทธิตามมาตรา ๒๖ ให้มีกําหนดเวลาตั้งแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิ

เลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะ

เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหาร

ท้องถิน

ในกรณีที่มีการโต้แ ย้งการเสียสิทธิตามวรรคหนึ่งให้ผู้มีสิท ธิเลือกตั้งยื่นคําร้องต่อ

คณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดพร้อมหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นได้ไปใช้

สิทธิเลือกตั้งในครั้งถัดมาแล้ว ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดพิจารณาคําร้องเพื่อมี

คําส่ังให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคําร้อง

หลัก เกณฑ์แ ละวิธีการยื่นคําร้อง และการพิจารณาคําร้องตามวรรคสองให้เป็น ไปตาม ที่

คณะกรรมการการเลือกตั้งกําหนด

มาตรา ๒๘ บุคคลซึ่งไปใช่สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ไปใช้สิทธิเลือก กตั้งและได้แจ้งเหตุแห่ง

ความจําเป็นซึ่งเป็นเหตุอันสมควร ย่อมได้รับสิทธิการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง

ขอโทษจริงจริงค่ะ ป่านนี้ ก็ยังไม่เข้าใจว่า โหวตโน ใคร เพื่ออะไร ให้ใคร

มองว่า วิธีการเป็นหนทางที่จะนำไปสู่จุดหมาย

วิธีการจะใช้อะไรก็ได้

สำคัญที่สุดประสงค์มากกว่า

คุณทำ หรือใครทำ ทำเพื่อใครกันแน่ โหวตโน เพื่ออะไร เพื่อใคร

ทำอะไร สำคัญที่สุด คือส่วนรวม ทำแล้ว เกิดผลดีต่อประเทศ จะทำอะไร ก็ทำเท้อะ

ถ้ามีเหตุก็ต้องมีผล ถ้ามีดีก็ต้องมีเ ล ว........มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยก็ว่าไำด้ แต่่ถ้าจะต้องถูกหล่อหลอมบนเบ้าหลอมจากการเคยชิน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกกับอดีตที่มีมา แต่ถ้าจะไม่ปรับเปลี่ยนกับเวลาที่เปลี่ยนไป...ประเด็นนี้น่าคิดครับ งั้นผมคงไม่สามารถแสดงผลได้ในขณะที่ ข้อมูลที่มีของแต่ล่ะคนนั้น........แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ว่าได้ แต่ถ้าถามแนวความคิดกับสิ่งเกิดขึ้น.......คงไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายแน่นอน เพราะแนวคิดมันคงไม่ได้ซับซ้อนแปดชั้นแน่นอน ...จะต้องศรัทธาคนๆหนึ่งหรือคนกลุ่มๆหนึ่ง(ผมไม่ได้แยกสีน่ะครับ) ถ้าจะต้องยอมสูญเสียเวลาไปบ้าง กับสิ่งที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่เรื่องยากมากมายในสภาพปัจจุบันกับสิ่งที่มีอยู่ แต่ถ้าจะต้องบอกว่าโนคือ สิ่งที่ดีที่สุด... ของใครบางกลุ่มหรือบางคนด้วย โดยปราศจากเหตุกับสิ่งที่เป็นอยู่จริง โดยคนส่วนใหญ่ ที่เริ่มได้รับรู้ข้อมูลแล้ว คงไม่แน่นอนครับ สมมุติว่ามีคนบอกว่า ทำแบบนี้อย่างนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุด.... ทั้งๆที่จะนั่งหรือนอนหรือตีลังกาหาข้อมูล กับสิ่งที่กล่าวมา ....อย่่าว่าแต่หาที่มาเลยครับ ผมว่าหาที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ว่ามาอย่างไร...ยังยากที่จะบอกเลยครับ...อิอิ