อะไรจะเกิดขึน หากระบบถ่วงดุลของประเทศมีความเสื่อม?

ผมเองไม่คิดนะครับว่าจะมีคำถามเยี่ยงนี้และเห็นคำตอบของ Smartie G ผมว่าใช้คำสุภาพมากไปสำหรับเจ้าของคำถาม หรือบุคคลใดก็ตามที่มีความคิดต่อพระเจ้าอยู่หัวเช่นนี้ ท่านเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศไทย และไม่เคยที่จะให้ร้ายประชาชนคนไทยเลย แต่ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่เห็นด้วยกับการหยิบยื่นอะไรให้โดยไม่ได้เป็นการสอนหรือชี้แนะ วิธีหาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นเพื่อดำรงค์ชีวิต นั่นคือ พระองค์ท่าน จะสอนวิธีจับปลา วิธีปลูกข้าว แต่พระองค์ท่านจะไม่ใช้วิธีให้"ประชานิยม"ที่พรรคเหลี่ยมขายชาติใช้ เพราะยิ่งจะทำให้ประชาชนเคยตัวและหากินเองไม่เป็น ใครจะไปรู้ว่า คนรับของฟรีจะตายก่อนหรือ คนให้ของฟรีจะตายก่อน แล้วถ้าคนรับตายก่อนก็แล้วไป แต่ถ้าคนให้ตายก่อนแล้วแน่ใจได้อย่างไรว่า ลูกเมียหลานของคนให้จะนำสิ่งของมาให้ต่อจากพ่อที่ตายไป คิดกันดีๆ และคิดให้เป็น พระองค์ท่านได้แต่ค้นคว้าหาวิธี ทั้งฝนเทียม ทั้งกันภัยแล้ง ทั้งกันน้ำท่วม ล้วนแล้วแต่พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นและคิดค้นวิธีให้กับประเทศไทย มาตลอดพระชนม์ชีพของท่านและยังคงคิดอยู่จวบจนบัดนี้ ไอ้พวกที่พยายามจะเบี่ยงเบนไม่ว่าหัวข้อใดๆ อันเป็นการให้ร้าย กลับจิตกลับใจก่อนจะตายจากไป จะดีกว่านะครับ

หลังสงกรานต์แล้วนึกย้อนกลับมาอ่านคำถามนี้ อà��µà¸à¸„รั้งก็เริ่มงงๆกับ บ้านเมืองเรา

ซะแล้วสิครับ ว่า ท่านพี่บอกว่า พระองค์ทรงใช้อำนาจผ่านทางกระบวนการ นิติบัญญัติ

บริหาร ตุลาการ ซึ่ง พระองค์ทรงได้ใช้อำนาจของพระองค์จริงหรือไม่ เพราะทุกวันนี้

ยังมีคนหลงประเด็นตรงนี้อีกหลายคนที่เป็นกับดักไปสู่ความเข้าใจผิด

อำนาจอธิปไตย ในระบอบประชาธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่อำนาจของ

พระมหากษัตริย์ที่ได้ทรงใช้ เพราะสังคมไทยเองก็เริ่มมีการลงคะแนนเลือกตั้งมาตั้ง

แต่นานนม ที่คนหลายคนก็ยังมองว่ามีเงาดำครอบความเป็นประชาธิปไตยไว้ก็ตาม

แต่การที่ เราเองได้มีการกำหนด อำนาจทั้งสามตัวในระบอบประชาธิปไตยในความ

คิดของผมคือ ตัวแทนของปวงชนชาวไทยที่มีหน้าที่ในการเลือกขึ้นมาเพื่อกระทำ

การนั้นไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย การบริหาร และการยุติข้อขัดแย้งทั้งสิ้น

มิใช่หรือ เพียงแต่พระมหากษัตริย์ทรงวินิจฉัยและให้คำแนะนำ และลงนามพระ

ปรมาภิไธย ที่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์และชอบธรรมในการใช้อำนาจนั้นๆ

ซึ่งที่ผ่านมา มร รัฐธรรมนูญฉบับไหนบ้าง หรือ คณะรัฐมนตรีคณะใดบ้าง ที่เมื่อได้

การเลือกสรรจากปวงชนชาวไทยแล้ว พระมหากษัตริย์ทรงไม่ให้การยอมรับ หาก

ใครคิดได้โปรดช่วยบอกผมที

วันนี้หลายครั้งหลายหนที่ปวงชนชาวไทยชอบเอาพระมหากษัตริย์ไปกล่าวอ้าง

ในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของศาลสถิตย์ยุติธรรมที่

ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ขัดแย้งอะไรกับใคร มีหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องราวเพื่อหา

ข้อยุติความขัดแย้งนั้น กลับโดน กลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าไร้สาระในการดำรงตนที่อ้าง

ว่าเป็นประชาธิปไตย มาเที่ยววิพากวิจารณ์ว่าศาลเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และทำการ

ใส่ความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนราà¸��กับว่าศาลเป็นคู่ขัดแย้งซะเองประมานนั้น

หากมองแบบถอยหลังกลับไปสิครับว่า อำนาจ นิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร

ได้เสื่อมถอยไปเพราะอะไร ใครพาเรื่องพวกนี้ไปเล่นกันให้เสื่อมเสีย ปวงชนชาวไทย

ที่อยู่นอกสภาเขาเอาไปเล่นแล้วนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือ วันนั้นมีการ

แก้กฏกติกามารยาทในการนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง และนำ

ความได้เปรียบจากการแก้��¹„ขนั้น มาสร้างระบบการเมืองห่วยๆ ที่เอาบริวารว่านเครือ

หรือคนใกล้ชิด ขึ้นมาสืบทอดกันจนบ้านเมืองวุ่นวาย วันนี้จะมาบอกว่า ระบบการ

ถ่วงดุลเสื่อมแล้ว ผมว่ามันก็ไม่หนีจากความจริงที่รับรู้ได้ว่า

หากจะแก้ไขอะไรสิ่งที่ผมเว้าวอนมาตั้งแต่แรกที่เป็นจุดยืนของผมคือ การให้การ

เคารพคำตัดสินของตุลาการที่ไม่ได้เป็นข้อขัดแย้ง และอย่าได้มองคำตัดสินที่ไม่เข้า

ข้างฝ่ายตนเป็นเรื่องที่ผิด เพราะหากเราเองอ่านคำตัดสินเขาจะมีรายละเอียดระบุ และ

การตัดสินนั้นไม่ได้ใช้คนเพียงคนเดียว แต่เป็นการใช้องค์คณะในการตัดสินและทุก

ครั้งหลังตัดสินก็จะมีคำฎีกาออกมาเพื่อประกาศให้ปวงชนชาวไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจ

อธิปไตยรู้แต่เสียดายเผอิญว่า คนไทยติดอันดับโลกที่ อ่านหนังสือไม่ออก และ ในรอบ

หนึ่งปีคนไทยอ่านหนังสือน้อยที่สุดเฉลี่ยปีละไม่เกิน 7หน้ากระดาษ อย่างที่ผลสำรวจ

ระดับโลกเขาทำมา คนไทยเลือกที่จะฟังเขาเล่า ทั้งๆที่เล่าจริงหรือไม่ก็ไม่มีใครตอบได้

เพราะมุมที่ยืนและมองเข้าไปของแต่ละคนย่อมเห็นไม่เหมือนกันอยู่แล้วนี่ครับ

ท้ายที่สุดแล้วของการใช้อำนาจ ทั้งสามที่ไม่ถูกทาง พระมหากษัตริย์ทรงออกมาย้ำ

เตือนบ่อยๆ ซึ่งก็ได้แต่ย้ำแต่เตือน เพราะที่ผ่านมาก็มีน้อยคนนักที่จะฟัง จนกระทั่ง

พระมหากษัตริย์ทรงออกพระราชดำรัสมาว่า ในสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ดังนั้นเรา

ต้องเลือกคนดีมาปกครองบ้านเมือง คนไม่ดีก็ไม่ต้องให้เกิด (ในความหมายของพระมหา

กษัตริย์) แต่ท่านก็ไม่เคยใช้พระราชอำนาจในการกระทำอะไรที่มากกว่าพระราชอำนาจ

ที่มี โดยหากใครอ่านรัฐธรรมนูญทุกๆฉบับก็จะรู้ว่า หมวดพระมหากษัตริย์ ระบุขอบเขต

ของพระราชอำนาจไว้ให้กับ คนที่ได้ชื่อว่าทรงเป็นประมุข หรือชาวบ้านกล่าวแบบบ้านๆ

ว่าเป็นเจ้าของประเทศ ไงก็พึงสดับตรับฟังกันบ้าง บ้านเมืองคงไม่เป็นเยี่ยงนี้

แบบนี้ก็ไม่ดีแน่เลยค่ะ

ผมว่าระบบถ่วงดุลของบ้านเรามันไม่ค่อยดีมานานแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเสื่อมหรือไม่ค่อยดี เพราะระบบการเมืองในบ้านเรา ค่อนข้างจะไม่เอื้อให้ระบบถ่วงดุลพัฒนา ทำให้ระบบต่างๆพัฒนาไปอย่างช้าๆ พอมีส่วนใดส่วนหนึ่งพัฒนาไปเร็วก็จะถูกส่วนอื่นฉุดไว้

ผมว่าระบบถ่วงดุลของบ้านเราจะพัฒนาไปได้เร็วกว่านี้ ต้องอาศัยผู้บริหารบ้านเมืองที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างพอ กล้าคิด กล้าทำ ไม่ใช่ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่ใช่ทำแบบไม่เป็นไรค่อยๆทำก็ได้ อย่างนี้ระบบมันก็ไม่พัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงซะที