Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการมอบร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่และร่างกายเป็นประโยชน์และความรู้ให้กับผู้อื่น?

ร่ายกายและอวัยวะของเรายังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นถ้าเป็นคุณ คุณอยากมอบร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่หรือไม่?

12 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 9 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    โอนี่มันทานสุดยอดของการให้ทานของคนเรานะครับ ในระหว่างที่คุณแม่ผมเสียชีวิตที่ รพ ศิริราช คุณหมอ ท่านได้เข้ามาถามผมว่า คุณจะยินยอมให้ศพแม่ผม เป็นอาจารย์ใหญ่ไหม ผมตอบตกลงโดยไม่ต้องลังเลใดๆเลยนะครับ ทางรพศิริราชได้นําศพแม่ผมไปสอนนักเรืยนแพทย์ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ แล้วถึงจะนําศพคุณแม่ผม มาคืนให้ผม ผมดีใจมากเลย ส่วนตัวผม ก็บริจาค ร่างกาย ดวงตา และ เลือดให้กับสภากาชาดไทยเรืยบร้อยแล้วครับ

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    ก็แค่ของไม่ใช้แล้ว ไม่เน่าก็เผาทิ้ง ไม่ได้พูดแบบเกทับใคร คิดงี้จริงๆ

    ถ้านสพ.ไม่มีอาจารย์ใหญ่จะเอาความรู้ที่ไหนรักษาคน มันจำเป็นนะ

    เราเองก็พยายาà¸��บริจาค ซึ่งน่าสงสารมากที่ยังไม่มีใครเอา

    เราต้องอยู่ในรัศมี200 กม.จากที่รับ เราเกินมา80กม. เค้าไม่เอา

    ขนาดบอกว่าจะเช่าโลงเย็นไปส่งเอง ก็ยังไม่เอา คิดดูดิ เจ็บมะ

  • Urai
    Lv 5
    9 ปี ที่ผ่านมา

    น่าจะหมายถึงการบริจาคร่างกายเพื่อให้นำไปศึกษา

    ก็คิดนับถือครับ ที่มีใจเป็นกุศล อะไรยังมีประโยชน์ก็ให้ผู้อื่นใช้ต่อ

    รวมทั้งครอบครัวเขาด้วย คนไทยส่วนใหญ่ทำใจยาก

    ที่น่าจะมีประโยชน์ยิ่งไปกว่านั้นคือการบริจาคอวัยวะครับ

    สองแบบนี้ไม่เหมือนกันนะครับ

    บริจาคกระจกตา ไต ตับ หัวใจ

    ตายปุ๊บมีคนมาเอาทันที ส่วนที่เหลือคงเอาไปศึกษาต่อไม่ได้

    แต่มันต่ออายุคนอื่นๆได้ และไม่ค่อยมีคนยอมด้วย

    ร่างที่จะใช้ศึกษาน่ะ ส่วนใหญ่มีเพียงพอเหลือเฟือครับ

    แต่อวัยวะที่จะเอาไปเปลี่ยนหายากเย็นเหลือเกิน เพราะคงหวงกันเนอะ

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    เวลา อาจารย์ใหญ่ โดนผ่า โดนปังตอ คงจะเจ็บไม่น้อย เลยนะนั่น

    แหล่งข้อมูล: อาจารย์น้อย 71
  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    ก็คิดว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีจิตรใจที่มีแต่ให้อย่างสูงส่ง ขนาดสิ้นลมหายใจไปจากภพนี้แล้วยังทิ้งร่างตัวเองเพื่อสร้างประโยช์ให้กับสังคมอย่างใหญ่หลวงกับวงการแพทย์ของไทยในอันที่จะได้เรียนรู้ และศึกษา ค้นคว้า ซึ่งจะนำมาเป็นองค์วามรู้รักษาให้กับมวลมนุษยชาติ ขอคารวะด้วยใจจริงอย่างนับถือน้ำใจที่ทิ้งไว้

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    มิ มี สิ่งใด เป็น ของเจ้า แม้แต่ จิต เมื่อดับสูญ

    ใยจึงต้องเป็นกังวล ต่อการอยู่ในภพหน้า

    ภพปัจจุบัน หากเหลือสิ่งใดที่เป็น ประโยชน์ต่อผู้อื่น จงทำเถิด

    เพราะมิ มี สิ่งใด เป็น "ของเจ้า" อย่างแท้จริง แม้แต่ ลมหายใจ

  • sosaku
    Lv 5
    9 ปี ที่ผ่านมา

    อาจารยใหญ่คีอผู้ที่เสียสละอย่างแท้จรีง อุทีศร่างกายเพี่อให้นักศึกษาแพทยได้มีโอกาศหาความรู้จากร่างกายตน เพีอประโยชนแก่บุคคลที่ยังมีลมหายใจต่อไป

    แหล่งข้อมูล: นับถีอๆ
  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    ถ้ามีโอกาสและลูกหลานพร้อมก็อยากจะทำ

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าร่างกายของเราเป็นสิ่งที่เราหวงแหนในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ เมื่อมีอาการสึกหรอหรือบาดเจ็บเราก็ทำการรักษา อาจไปหาหมอ พยาบาล หรือคนรอบข้างช่วยเยี่ยวยาให้หาย การที่เรามอบร่างกายให้คนอื่นเอาไปทำอะไรต่อมิอะไรโดยเรานึกสภาพว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะรู้สึกว่าเรารับไม่ได้ แต่เมื่อพิจารณาตามหลักความเป็นจริงแล้ว ร่างกายของเราเมื่อเราหมดลมหายใจแล้วก็จะเปรียบดังเป็นท่อนไม้ ไม่มีความรู้สึกใดๆ นั่นคือร่างกายมิใช่ของเราแล้ว กลายสภาพเป็นอื่นไป แล้วเรายังจะหวงแหนไว้อีกหรือว่าจะเก็บเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าร่างกายนั้นจะเน่าเปื่อยไปตามสภาพ ถูกมด ถูกแมลงวัน ถูกหนอนมากัดแทะเป็นที่สะอิดสะเอียนแก่ผู้พบเห็น ดังนั้น การที่เราจะบริจาคร่างกายอันนี้ให้ไปแหล่งที่เขาจะนำไปศึกษาหาข้อมูลของสรีระภายหลังการตายนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง จิตใจเราเมื่อได้ให้ร่างกายเป็นทานแล้ว ย่อมมีสุข เป็นการบริจาคทานที่ผู้ให้ทานไม่เดือดร้อน ผู้รับทานก็ได้ประโยชน์อันมหาศาล ย่อมมีอานิสงค์มาก ฉะนี้

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และมีประโยชน์ต่อการศึกษา อีกประการเราก็ไม่ต้องไปพะวงกับชีวิตของเรา เราไม่กังวลกับความตาย ความตายอยู่คู่กับเราทุกฝีก้าว เราไม่สามารถกำหนดชีวิตเราได้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ วันไหน การมอบร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ คือการสร้างกุศลมหาศาล เราได้มอบร่างกายมาเกือบ 30 ปีแล้ว ทุกวันนี้อยู่โดยไม่กังวลเรื่องความตาย เรามีชีวิตอยู่ก็สร้างประโยชน์ให้สังคม เมื่อตายไปก็ควรสร้างประโยชน์ให้สังคมเช่นกัน อย่ากลัวว่าตายไปแล้วชาติหน้าจะไม่เกิดอีก

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้