ถ้าท่านยังมีความคิดโบราณ โปรดช่วยเหลือบอกวิธีเชิญผีออก?

ถ้าเป็นหนูนะคะ จะนิมนต์พระมาที่บ้าน ถวายอาหารเพลเดือนละ 1 ครั้ง

พระสวดให้ได้ยินได้ฟังกันทั่ว ทุกคนอิ่มบุญ ลำพังให้ไปใส่บาตรไม่พอค่ะ

หลานลุงต้องอยู่ช่วยตลอดรายการ เก่งแล้วก็เป็นหัวเรือใหญ่ จัดการเอง

รักษาด้วยธรรมะ จิตใจเขาต้องฝักใฝ่ เป็นที่พึ่งแก่ตนได้นะคะ

ไอ้หมอผีคนนี้น่าตึ้บจริงๆนะลุง ไม่ได้ตั้งใจจะมาช่วย หวังจะเอาพระเครื่องเราอย่างเดียว แล้วสะใภ้ไปไหว้ผีทุกวันพระนี่ไม่ค่อยน่าทำ แต่ถ้าแย้งไม่ได้ ก็ เอาแบบท่านเพื่อนสมาชิกว่านี่ล่ะดี วันพระก็ถวายเพล ทุกเดือนเป็นประจำ คงไม่น่าลำบากสักเท่าไร อย่างน้อย พวกผีเร่ร่อนจะได้เกรงอกเกรงใจกันบ้าง

ลมชักนี่ปรกติก็ไม่ได้สามารถรักษากันให้หายกันไปได้ง่ายๆสำหรับความสามารถของมนุษย์เราปัจจุบัน จะรักษาได้เฉพาะบางสาเหตุ และใช้เวลาค่อนข้างนานด้วย การเยียวยาทางด้านความรู้สึก จะให้ผลดีและอย่างน้อยๆก็อาจทำให้คนไข้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีความสุข ผมก็เห็นอย่างท่านเพื่อนสมาชิกแนะนำครับ เมื่อไม่สดวกที่จะไล่ผี ก็เอาพระเข้าบ้านเถอะ ด���กว่าเอาหมอผีเข้าบ้านซึ่งไม่รู้ว่าเจอหมอจริง หรือหมอปลอมจะเอาพระห้อยคอออกจากบ้านไปอีก

ต้องเชิญผีเข้าก่อน

เดี๋ยวนี้ยังมีแบบนี้อยู่อีกเหรอครับ

โดยปกติเราผู้เป็นเจ้าของที่ดิน เราคือผู้มีอำนาจเหนือผืนดินนี้สูงสุดอยู่แล้วครับ

สมัยก่อนผมกลัวผีมาก จนมามีบ้านของตนเองก็ยังกลัว แต่มีพระสงฆ์ได้สอนผม

เรื่องนี้ ว่าเราคือเจ้าของนะ เรากลัวเค้าก็ยิ่งเหิม หากเราไม่กลัว เค้าก็จะไม่เข้ามา

ยุ่งเกี่ยวเรา แต่ถ้าเค้ามายุ่งเกี่ยว ทำให้เราเดือนร้อน เราก็ควรแสดงความเป็นเจ้าของ

หากนับถือพุทธ ให้นิมนต์พระมาทำพิธี ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ประพรมน้ำมนต์

หากนับถือศาสนาอื่นให้ทำตามในส่วนของศาสนาตนครับ

แต่วิธ๊ที่แก้ดีสุด ลองให้ลูกชายลุงไปอยู่วัดป่า ถือศีล 5 สักระยะหนึ่งครับ

*ทำไมต้องวัดป่า โดยพื้นฐานของวัดป่า ค่อนข้างจะเคร่งทั้งปฎิบัติ และเก่งเรื่องเหล่านี้ครับ

หากอาการดีขึ้นให้ย้ายที่อยู่ออกจากบ้านเราครับ หาที่อยู่ใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ บางที่บางแห่ง ก็ไม่ได้ว่าจะเหมาะให้อยู่อาศัยเสมอไปครับ

อีกอย่างลองประวัติเรื่องราวของที่บ้าน มีประวัติอะไรที่น่ากลัวบ้างหรือไม่ก่อนเราเข้ามาอาศัย

และเรื่องสะไภ้ไหว้ แนะนำว่า ให้นำไปไหว้นอกเขตพื้นที่บ้านเราครับ การไหว้ในพื้นที่เท่ากับเป็นการเชิญสัมพเวสีเข้าสู่ตัวบ้านเราครับ

แหล่งข้อมูล: ก็วนเวียนกับวงการพระมาจะยี่สิบปีแล้วครับ

ขอขอบคุณท่านสมาชิกอาวุโสผู้ทรงเกียรติที่ได้

กรุณามาให้คำตอบเป็นกำลังใจ ลุงประทับใจใน

คำแนะนำของคุณชาติชายอย่างมาก คุณพ่อ

ของลุงก็เป็นคริสต์ศาสนิกชนด้วย

ขอน้อมรับคำแนะนำที่แสนดีจากทุกท่านครับ

ความเห็นส่วนตัว ไม่ต้องเชิญให้มันออก ขับไล่ออกด้วยวาจาได้ครับ

ผมขอชี้แจงนะครับ ลุงอาจไม่เข้าใจ หรือไม่ทราบมาก่อน

ในสัจธรรมที่ว่า เสรีภาพในการเลือกและการตัดสินใจ

ที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่นั้น ได้รับมอบหมายให้มาจากสวรรค์

จากพระผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง ทรงมอบให้แก่เราทุกคน

ซึ่งพระองค์เองก็ไม่ทรงละเมิดเสรีภาพนั้น

พระเจ้าเองก็มิได้บีบคอใคร หรือบังคับให้เชื่อหรือมีศรัทธาในพระองค์

และมิได้แช่งสาปผู้ใดให้ตกทุกข์ได้ยาก หรือรับความทรมานใดๆในโลกนี้

เพราะผู้นั้นได้ใช้เสรีภาพในการเลือกและการตัดสินใจตามที่ตนเห็นชอบ

ฉันใดก็ฉันนั้น ผี ปีศาจ เทวทูตชั่ว หรือ ซาตานเอง ก็ไม่มีสิทธื์

ในการที่จะละเมิดเสรีภาพที่มนุษย์ทุกคนได้รับมานั้น

ในการเข้าสิงในกายหรือในใจของผู้ที่ไม่ยินดีต้อนรับมัน

มันจะเข้ามาสิงได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าของกายเชื้อเชิญมัน และต้อนรับมันไว้

และถ้าเปลี่ยนใจเมื่อใด และกล่าวด้วยวาจาชัดถ้อยชัดคำ มันต้องออกไป

ถ้ามันไม่ยอมออก ต้องขับไล่มันออก เพราะมันบุกรุกมนุษย์ที่ไม่รู้ความจริง

ผู้ที่มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ก็จะขับผีออกจากกายของทุกคน ด้วยคำกล่าวนี้คือ "ในนามของพระเยซู เราสั่งให้เจ้าออกจากคนๆนี้ที่เจ้าสิงอยู่เดี๋ยวนี้"

นามนั้นมีพลานุภาพที่จะทำให้ผีและวิญญาณชั่วทั้งปวงที่บุกรุก ออกจากกายที่ไม่ประสงค์ให้มันสิงอยู่

และถ้าลุงมีศรัทธาอยู่บ้าง แต่ไม่กล้าทำ แต่ก็อยากเห็นผล ก็ให้ไปเรียนเชิญนักเทศน์จากคริสตจักรใดๆที่รู้เรื่องนี้ดี มาช่วยขับให้ก็ได้ แล้วผีจะไม่กลับเข้ามารังควานอีกต่อไปในอนาคต

ผู้ไม่มิได้เป็นชาวคริสต์ ก็คงใช้วิธีอื่นตามความเชื่อและความเข้าใจของตน ได้ผลอย่างไร ก็นำมาเล่าสู่กันฟังได้ ครับผม

ปรึกษา คุณ ริว จิตสัมผัส ครับ