มีความคิดเห็นอย่างไรกับ"ห้ามเด็กอายุต่ำว่า 18 ปีออกนอกบ้านหลังเวลา 22.00 น."?

...เห็นด้วยอย่างมากมาก..อยากเสนอ

ให้คุณเธอ อยู่กับบ้าน กับพ่อแม่

ทั้งการบ้าน ควรได้อยู่ เฝ้าดูแล

ดีแน่แน่ ได้นอนค่ำ ตามคำเรียน

...อยากให้ค่ำกว่านี้นะ กะสองทุ่ม

ทั้งสาวหนุ่ม แม่ได้เห็น เป็นสิ่งเปลี่ยน

พ่อได้พบ พูดมากกว่า เดินวนเวียน

วันนี้เรียน เป็นอย่างไร ได้คุยกัน

...อยากให้เด็กกว่านี้อีก..ที่กำหนด

ยังไม่หมด กลุ่มเสี่ยง ที่พบนั่น

กันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อถึงวัน

เพราะว่าปัญหาก็เห็นเป็นประจำ.

ผมว่ามักง่ายมากกว่า

กฏอะไรที่ออกมาโดยไม่ได้วางแผนอะไรรองรับ

คงไม่สามารถตอบสนองไอเดีย หรือแรงบันดาลใจของใคร ให้บรรลุได้หรอกครับ

บ้านคนอื่นอาจจะไม่เหมือนบ้านเรา

และเหตุผลในการปฎิบัติกิจวัตรของชีวิต ก็คงไม่เหมือนเรา

และการดูแลควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมายอย่าง ถูกต้องยุติธรรม

เป็นไปได้แค่ไหน

เจ้าหน้าที่เป็นที่พึ่งได้เต์มที่อย่างยุติธรรมแค่ไหน

และอำนาจตามกฎหมายในการจัดการกับเรื่องต่างๆ

ทั้งในอดีต และ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็มีอยู่มากแล้ว

แต่ไม่สามารถปฎิบัติได้

จะด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่

ถ้าให้อำนาจครอบจักวาลไปอีก

ก็คงปฎิบัติไม่ได้เหมือนเดิมอีกล่ะครับ

เพราะในอดีตกาลเจ้าหน้าที่เคยมีอำนาจมากกว่านี้

แต่ก็ไม่เคยเป็นผลดีในระยะยาวเลย มีแต่แสดงโชว์เท่านั้น

กฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบันนี่ บังคับใช้ให้ได้อย่างจริงจัง ก่อนเถอะครับ

กฎนะออกได้แต่ถ้ากลายเป็นกด มันก็ไม่ได้สร้างสรรค์อะไร

กลายเป็นวางระเบิดเวลาไว้เสียอีก

เห็นด้วยค่ะ การที่ปล่อยให้เด็กที่ยังไม่มีวุฒิภาวะออกจากบ้านในยามค่ำคืนมันไม่มีเหตุผลค่ะ อาจถูกหลอกลวง หรือไปมั่วสุมในทางที่ผิดได้

เราคิดว่าดีนะเพราะจะได้ทำให้เด็กที่ไม่เกี่ยวข้องที่โดนลูกหลงปลอดภัยขึ้น

แต่ก็ต้องดูว่าละเมิดสิทธิเด็กมั๊ยแล้วมีอะรัยที่ดีกว่าที่จะแก้ปัญหาแบบนี้มั๊ย

แต่ส่วนตัวเราเห็นด้วยมากๆ

เห็นด้วยครับ แต่จะให้ดีที่สุด ควร ศึกษาข้อจำกัด ข้อยกเว้นให้ละเอียดถี่ถ้วน ก่อนออกเป็นกฏหมาย ครับพ้ม...

ผมเคยตอบคำถาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว...

ตอบว่าเห็นด้วยนะ บอกตามตรง...

ละเมิดสิทธิเด็ก แล้วในกรณีที่เด็กละเมิดสิทธิ ผู้อื่นล่ะ...ใครจะรับผิดชอบ

โดยรวมเห็นด้วยครับ

คิดว่า เด็กบางคนอาจมีความจำเป็นในการทำงานพิเศษ เช่น พาร์ทไทม์ ซึ่งอาจเป็นรายได้หลักในการเล่าเรียน หรือแบ่งเบาภาระทางบ้าน เหมือนจำกัดความเป็นอิสระในการใช้ชีวิตของคนที่ต้องทำงานหลังเลิกเรียน อาจมีข้อดีหลายอย่างเช่น เด็กแว้นอาจน้อยลง การมั่วสุมเบาบาง แต่คนดีๆที่จำเป็นต้องทำงานจริงๆหรือเรียนพิเศษได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน.

ผมไม่เห็นด้วยนะครับ ยิ่งถ้าจะนำมาใช้เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาเด็กแว้น ผมว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ ขนาดตำรวจตั้งด่่านจับหรือเรียกตรวจ พวกมันยังซิ่งหนีไม่มีกลัวเลย ผมว่าอย่ามาจำกัดสิทธิ์เยาวชนเราเลยครับ เราท่านเองก็น่าจะผ่านชีวิตในช่วงนั้นมากันแล้ว เป็นเราก็คงไม่ชอบที่จะให้ใครมาจำกัดสิทธิ์เราเช่นกัน อย่าลืมว่าเยาวชนเป็นวัยที่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ผมว่าหาวิธีที่มันสร้างสรรมากกว่านี้ดีกว่า ไม่อย่างงั้นถ้ายังฝืนใช้ไปนานเข้า ผมว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดีนะครับ

การห้าม โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเราเป็นประเทศประชาธิปไตย เรื่องของสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่พลเมือง ควรให้ความสำคัญ สำหรับเรื่องนี้ เรามีกฎหมายที่ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว คือกฎหมายแพ่ง ว่าด้วยเรื่องของครอบครัว ได้กำหนดบทบาทหน้าที่สำหรับเยาวชน เอาไว้ในส่วนของผู้ปกครอง หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง อยู่แล้ว น่าจะให้เป็นเรื่องของการอบรม การเลี้ยงดู การเอาใจใส่ โดยให้ความรู้กับผู้ปกครอง หรือผ้ใช้อำนาจปกครอง น่าจะเป็นผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย ไม่เพิ่มภาระของเจ้าหน้าที่ และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัว ในการอบรมดูแล มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น