Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
พวกท่านเชื่อเรื่อง การเดินได้ทันที่หลังคลอด ถาดอาหารลอยทวนน้ำ พระยานาคมีจริงและยังมาปรกกันฝน ธรณีสูบ?
หลายตำราบอกเจ้าลัทธิพุทธไม่สอนให้เชื่อเื่องเทวดา สิ่งศักคิ์สิทธิ์ แต่นิยายประวัติมีเทวดา สิ่งโกหกเพียบ คุณเชื่อเหรอว่าสิ่งนั้นๆมีจริง
คุณ Lemon Grass คุณ Ketmanee ตอบคำถามเพิ่มหน่อยสิ ถ้าคนๆหนึ่งโกหกได้ครั้งหนึ่งคีั้งต่อไปคุณเชื่อว่าไม่โกหกใช้ไหม แล้วโกหกได้ทำความเลวอย่างอื่นไม่ได้ใช่ไหม หรือคุณทั้ง 2 เป็นแบบนั้นจึงเชื่อและทำในแบบนั้น ก็ไม่ใข่พุทธศาสนาสอนหรือว่าถ้าโกหกได้ก็ไม่ต้องเชื่อว่าจะทำความผิดอื่นๆไม่ได้
14 คำตอบ
- 9 ปี ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
คำถามกับคำตอบส่วนใหญ่ของคุณค่อนข้างจะส่ออยู่สองอย่างนะ มีเรื่องเพศ(พูดเรื่องเพศ ไม่ก็ดูถูกเพศหญิง) กับคอยเพ่งโทษทางศาสนา ถ้าถามคำถามศาสนาทีไรไม่เคยเห็นมีไรสร้างสรรค์หรือเป็นคำถามที่มีกึ๋นในแก่นสารเลย คำถามคุณที่เห็นผ่านๆตามาออกจะบ่งบอกอคติเอามากๆ มันฟ้องความคิดและจิตสำนึกของคุณ ที่จริงมารยาทในการอยู่ร่วมสังคมในชุมชนกะผู้อื่น (ไม่ทราบว่ามีผู้ใดสั่งสอนหรือไม่)ว่าเมื่อไม่ศรัทธาหรือเชื่อในศาสนาใดๆก็ตาม ไม่ได้สมควรที่จะไปหมิ่นเค้า เช่นไม่ศรัทธาในคริสต์ก็ไม่ควรหมิ่นคริสต์ ไม่ศรัทธาอิสลามก็ไม่ต้องพูดถึงเขา ไม่ศรัทธาพุทธแต่ทว่ามีเพื่อนๆในนี้ศรัทธาและนับถืออยู่มากมาย ในนี้มีสมาชิกที่มีความรู้ความคิดและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่มากมาย ไม่รู้สึกเกรงใจเพื่อนๆเหล่านี้บ้างหรือ?? ที่จริงอีกอย่างที่อยากจะบอกเพื่อเปิดตาคุณก็คือ หากหาอ่านประวัติย่อศาสนาอื่นๆจะพบปาฏิหารย์ทำนองคล้ายๆกัน อยู่มากมาย ไม่ว่าจะแม่น้ำท่วมโลก ทะเลแยก สิ้นชีพแล้วกลับคืนมา การล้างโลก ฯลฯ แต่คนที่มีสติรู้ก็จะไม่เพ่งโทษหรือหมิ่นใครใดๆทั้งสิ้น จะมาหาความสาระตรงเล็กๆน้อยๆตรงนี้เพื่อประโยชน์อะไร ในทุกศาสนามีหมด ลองไปหาอ่านดูนะจะได้ตาสว่าง คนสมัยก่อนมีความคิดความเชื่อและกุศโลบายที่คิดต่างไปจากคนยุคศตวรรษนี้ แต่คนในทุกๆศาสนาเค้าเพ่งตรงที่คำสอน ซึ่งแก่นแท้สอนให้คนเป็นคนดี ไม่ได้เพ่งตรงที่อภืนิหาร เข้าจัยยัง?
- 9 ปี ที่ผ่านมา
คนถามไม่มีศรัทธา มีอคติต่อพระพุทธศาสนา จริง ๆ แล้วในโลกมนุษย์เรานี้มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เมื่อ 1000 ปีที่แล้วมนุษย์ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ ก็ไม่มีใครเชื่อว่าในอากาศมีัสัญญาณคลื่นต่าง ๆ อยู่ ไม่เคยเชื่อว่าในอากาศมีฝุ่นละเอียดอยู่และในฝุ่นละเอียดมีเชื่อโรคอยู่ คนเมื่อ 1000 ปีที่แล้วก็เหมือนกับเจ้าของคำถามนี้ เรื่องผีสางเทวดา เทพเจ้า หรือพระเจ้า เป็นสิ่งที่ไม่ควรลบหลู่ เพราะทุกศาสนาก็ได้บอกถึงสิ่งเหล่านี้อยู่ ทุกศาสนามีอภินิหาร ในเมื่อคุณไม่เชื่อไม่เข้าใจในสัจธรรม หรือกลวิธีการสอน ก็อย่าลบหลู่ ในเมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ โลกที่คุณอยู่ทุกวันนี้ที่มีความเจริญก้าวหน้า เพราะพัฒนามาจากสิ่งที่มนุษย์คิดว่าเป็นไปไม่ได้ และไม่มี ทั้งนั้น
ผมจะตอบคำถามเดียวแล้วคุณคิดเอาเป็นไปได้หรือไม่ ในประวัติพระพุทธศาสนากล่าวถึงการเดินได้หลังคลอดก็จริงอยู่ เจ้าชายสิทธัตถะ มีอัตตะประวัติสองช่วงด้วยกัน ช่วงที่หนึ่งคือคลอดจากครรภ์พระมารดา ช่วงที่สองคือเกิดเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อพระชนน์ได้ 29 พรรษา จะเดินกี่ก้าวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเจ็ดก้าว แต่ที่บอกแค่เจ็ดก้าวก็มีคำอธิบายอีกว่า จะสามารถประกาศศาสนาให้รุ่งเรื่องได้เจ็ดแคว้นใหญ่ ๆด้วยกัน และกรุณาอย่าลืมว่า นั่นเป็นประวัติของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เจ้าชายสิทธัตถะ และเรื่องโคลนดูด ทะเลทรายดูด สมัยนี้ก็มี ไม่ใช่มีแต่สมัยพระพุทธเจ้าหรอก ไม่แปลกที่สัญชัยปริพาชก ตอนที่พระสารีบุตรไปชักชวนให้มาบวชเพื่อศึกษาธรรมกับพระโคดม ถึงได้บอกว่า เราเป็นอาจารย์ที่นับถือของคนมานาน มีบุญอยู่เพียงเท่านี้ พวกเธอจงไปเถิด ในโลกนี้ยังมีคนโง่ที่ให้เราสั่งสอนอีกเยอะ และหนึ่งในนั้นก็คงเป็นคุณ
- ไม่ประสงค์ออกนาม9 ปี ที่ผ่านมา
เห็นด้วยอย่างมากกกกกับคุณประสิทธิชัย ปลอดชูแก้ว + คุณ Lemon Grass คำตอบถูกใจเป็นที่สุดเลย กด like ให้ไปเลย 1,000,000 ครั้ง ขอบคุณที่ตอบตรงใจดิฉันที่สุด คิดแบบเดียวกันเลย ผู้ถามดูจะชอบเรื่องเพศ ดูถูกผู้หญิง หมิ่นและลบหลู่ศาสนา ดิฉันอยากให้คุณ Aim Design ปรับปรุงทัศนคติ ความคิดของคุณเสียใหม่นะคะ
- ?Lv 69 ปี ที่ผ่านมา
ผมว่าคุณไม่เขัาใจเองมากกว่า ว่าตรงไหนคือเนื้อหาของศาสนา
ตรงไหนเป็นวิธีการอธิบาย หรือถ่ายทอด ให้คน จำนวนมาก
ซึ่งแตกต่าง หลากหลาย ลักษณะความคิดสติปัญญา และความเชื่อดั้งเดิม
ส่วนจะนำไปคิดได้ช้าหรือเร็ว ก็แล้วแต่พื้นของแต่ละคน
เรื่องที่แพร่กระจายสู่คนจำนวนมาก
คนบางประเภทฟังแล้วเข้าใจเลย คนบางประเภทต้องเอาไปคิด หลายวันหลายคืนถึงเข้าใจ
คนบางประเภทต้องคิดกันข้าม ชาติข้ามภพ ก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี
เรื่องเกิดแล้วเดินได้ ยังไงมันก็ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์หรอก
แต่มันเป็นวิธีการอธิบายอะไรบางอย่าง ซึ่งเราจะต้องเอาไปคิดก่อน ถึงจะเข้าใจ
แต่ใครจะเขื่อว่าเป็นจริง มีผลทำให้เป็นคนดี ก็ไม่ได้ผิดอะไร
แล้วใครจะไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องส่วนตัว ของเฉพาะบุคคล
ส่วนใครจะวนเวียน อยู่แค่ ตรงอภินิหาร มหัศจรรย์ ตามนิยายปรำปรา
คง ต้องไปหาพวกเทพซูส จูปิเตอร์ อะไรพวกนี้มากราบไหว้บูขา ยอดอภินิหารกันเอาเอง
หรือจะรวม สไปเดอร์แมน ซูเปอร์อภิมนุษย์ ทั้งหลายไปด้วยก็ได้
เพราะอภินิหารไม่ใข่เนื้อหาของศาสนาพุทธ เลยแม้สักนิด ใครจะติดใจก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องให้เวลากับตัวเอง เผื่อจะมีทางมองเห็นสักวันหนึ่งบ้าง
บ่นไปเฉยๆ หรือ โวยวายไป ยังไงก็ไม่มีทางเข้าใจหรอก
- ?Lv 49 ปี ที่ผ่านมา
เรื่องการนับถือศาสนานั้นเป็นสิทธิและเสรีภาพ และเรื่องความเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิ่งที่กฎหมายไม่ได้ห้ามอีกเช่นกันเรื่องความเชื่อและความเห็นที่แตกต่างกันนั้้นถือเป็นเรื่องปกติ บัณฑิตทั้งหลายต้องทำใจยอมรับ แต่ถ้าท่านเรียนแค่ทฤษฎีอย่างเดียวหรือเรียนด้านวิทยาศาสมาอาจจะเป็นผู้ที่ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ จนกว่าจะพิสูจน์ให่ได้ด้วยตัวเองเสียก่อนถึงจะยอมเชื่อ ความจริงก็ไม่ยากอะไรถ้าหากใครที่ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์ นรกมีจริงหรือไม่จริง นอกจากทฤษฎีแล้วอยากให้หันหน้ามาลองปฎิบัติดู จะได้ไม่เป็นการปิดหู ปิดตาตัวเองจนเกินไป เพราะการปฎิบัตินั้นทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไรแค่ทำใจหยุดใจนิ่งแต่ต้องใช้ความอดทนสูงหน่อยนะเพราะคำว่า ขันติ เป็นตะบะเป็นความอดทนได้อย่างดีเยียม ลองลงมือปฎิบัติดูเถิดท่านจะรู้ได้ตัวของท่านเอง จะได้ไม่ต้องถูกถามว่า จะเชื่อตอนเป็นหรือจะไปเห็นตอนตาย ท่านจะไดัไม่ต้องมาเสียดายหรือเสียใจภายหลังว่า"เอ้อ เราไม่น่าพลาดเลย" ขอให้ท่านพบแสงสว่างและพบคำตอบที่ถูกใจนะเจ้าคะ สาธุ สาธุ สาธุ
ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ
แหล่งข้อมูล: ประสพการณ์ภายใน - 9 ปี ที่ผ่านมา
ท่าน Suwatp พูดดี
คนเราหากเพ่งโทษตนเองดูว่ามีความบกพร่องตรงไหน อาจจะพัฒนาตนเองได้และอยู่ในชุมชน(ไหนๆก็ได้)จะมีแต่มิตร
ท่านสมาชิกที่เข้ามาตอบตอบได้ดีและ "ตอบอย่างมีกึ๋น" ทั้งสิ้น แม้คำถามจะบ่งอคติดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างโจ่งแจ้ง
ขอบคุณที่ให้ความรู้และทำให้สติปัญญาของข้าพเจ้ายาวมากกว่าหางอึ่ง ขออนุโมทนาในความดีที่เข้ามาตอบและขอบคุณผู้ถามที่ตั้งคำถามซืื่อบึ้อหวังว่าท่านคงนำคำติชมไปสำรวจปรับปรุงตนเอง คนดีชอบแก้ไข คนอะไร(ไปเติมเอาเอง)ชอบเพ่งโทษต่อศาสนา(ไม่ว่าจะเพ่งโทษต่อศาสนาใดก็ตามไม่ขอยอมรับทั้งนั้น)ดูหมิ่นเพศหญิงและหมกมุ่นแต่เรื่องหว่างขา
- Manoch PLv 59 ปี ที่ผ่านมา
เวลาศึกษาพวกเราก็ต้องแยกแยะด้วยว่า ส่วนไหนเป็นข้อความดั้งเดิม และส่วนไหนเป็นข้อความที่เพิ่มเติมขึ้นมาภายหลัง เพราะเรื่องนี้นักวิชาการทั้งหลายก็วิจารณ์กันมากมาย รวมทั้งท่านพุทธทาสด้วย เช่น
ภัทรพร สิริก��ญจน กล่าวว่า “นักวิชาการและนักการศาสนาในปัจจุบันมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องความสำคัญของคัมภีร์อรรถกถา กลุ่มหนึ่งเห็นว่าอรรถกถามีความสำคัญต่อความเข้าใจพุทธธรรมและเป็นแม่บทในการตีความพุทธธรรม แต่อีกกลุ่มหนึ่ง เช่น พุทธทาสภิกขุ เป็นต้น เห็นว่าอรรถกถาของพุทธโฆษาจารย์ไม่ใช่มาตรฐานในการเข้าใจพุทธศาสนา และอภิธรรมปิฎกเป็นคัมภีร์ส่วนเกินที่รวบรวมกันขึ้นภายหลังไม่ใช่คำสอนโดยตรงของพระพุทธเจ้า และเสนอให้ชาวพุทธให้ความสนใจเฉพาะพระสูตรและพระวินัย ตลอดจนศึกษาให้เข้าถึงแก่นพุทธธรรมจากพระไตรปิฎกโดยตรง” (ภัทรพร สิริกาญจน (และคนอื่นๆ), ความรู้พื้นฐานทางศาสนา, (พิมพ์ครั้งที่ 4) กรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2546, 46)
ในพระไตรปิฎกเองก็มี “เรื่องเท็จ” ซึ่งผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือแต่มีความคิดวิปริตได้เขียนเพิ่มเติมเข้ามาภายหลัง เช่น เรื่องพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดเทวดาที่เคยเป็นพระมารดาของท่านบนสวรรค์ ท่านพุทธทาส กล่าวว่า “เราสวดกันอยู่ทุกวันว่า “อิติปิโสภควา อรหังสัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะ มะนุสสานัง” พระพุทธเจ้าเป็นครูทั้งของเทวดาและมนุษย์ ถ้าเรื่องมันไม่จริงเราก็โกหกทุกวัน” (น. นันทวันมุนี, 7 คัมภีร์ธรรม, กรุงเทพฯ, ไพลิน, 2549, 45-63)
เรื่องยักษ์มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยขอให้พระองค์ไปบอกให้ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา ได้รู้จักเรื่องต่าง ๆ ของยักษ์เสียแล้วยักษ์จะไม่มาเบียดเบียน ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกาเลย (พุทธทาส อินทปัญโญ,คู่มือแสดงหลักธรรม ,ฉบับสมบูรณ์,กรุงเทพฯ,ธรรมสภา, 40-41)
เรื่องที่มาของอภิธรรมปิฎก ที่พระอรรถกถาจารย์และฎีกาจารย์ได้สร้างเรื่องเท็จอันวิจิตรพิสดาร จนผู้อื่นเขาเลื่อมใสศรัทธาในอภิธรรมแบบงมงายมากกว่าที่จะให้เขาเลื่อมใสศรัทธาด้วยปัญญาและสัจจะ (เยาวนันท์, โลกตอแหล, ความเท็จเรื่องที่มาของอภิธรรมปิฎก, มติชนสุดสัปดาห์, 2547, 62, (ร.ท. สุภัทร สุคนธาภิรมย์, พุทธปรัชญาประยุกต์, สันติธรรม, 2528)
- เบนจี้Lv 59 ปี ที่ผ่านมา
เชื่อแต่พระํธรรมคำสอน
ส่วนเรื่องอภินิหารก็เล่ากันไป ไม่ใช่สาระ
คนโบราณฉลาด รู้วิูธีจะให้คนทำความดี
รู้จักมั้ย คำว่า "กุศโลบาย"
- ไม่ประสงค์ออกนาม9 ปี ที่ผ่านมา
เรานับถือศาสนาพุทธ เราเชื่อในสิ่งทำทำครับ เชื่อในคำสังสอนของพระพุทธเจ้าครับ
แหล่งข้อมูล: SB