Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ใครคิดได้ดีกว่าผมบ้าง?2?

ผมไม่สามารถเพิ่มข้อความได้ จึงใช้อีกคำถามครับ

(ต่อ)ผมบอกวิธีการคัดคนกับพี่ชายว่า เราก็ให้คนในจังหวัดเลือกตัวแทนเข้ามา แล้วให้คนอีก70กว่าจังหวัดเลือกเป็นคะแนนลบ รวมแล้วใครได้คะแนนสูงสุดคนนั้นได้เป็น

ทันควัน พี่ชายผมสวนทันที แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน คนในจังหวัดเลือกผู้แทนของเขา คนจังหวัดอื่นมีสิทธิ์อะไรมาเลือกเขาออก

ผมได้แต่อธิบายว่า หากคนในจังหวัดเลือกเขาเป็นผู้แทนของจังหวัดเขา คนจังหวัดอื่นไม่ควรเลือกเขาออกได้ แต่หากผู้แทนคนนั้นเข้ามาเป็นนายก รองฯ หรือรัฐมนตรี รอง ผู้ช่วยฯ ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวพันกับคนทั้งประเทศ เช่นนี้คนจังหวัดอื่นควรมีสิทธิ์ไหม?

มรึงก็ไปบอกบนเวที กปปส.สิ ....ไม่หรอก...กรูเกลียด...ผมตอบตรงๆ

ผมจบเรื่องการเมือง ไม่อยากให้คุยกันจนบานปลาย เด๊๋ยวไม่วายต้องหารถกลับบ้านเอง

กลับถึงบ้าน มาคิดเล่นๆ หากเราแยกคนที่จะสมัครเข้ามาเป็นเพียง ส.ส. ตามระบบเดิม(ไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งนายกตลอดจนรัฐมนตรีฯลฯ) และแยกบัญชีรายชื่อเพื่อเป็นคณะบริหาร มีการกาคะแนนบวก และกาคะแนนลบอย่างละพรรค แล้วสรุปคะแนนที่สูงสุด มันอาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่คนที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองเราทุกวันนี้ จะไม่สามารถเข้ามาบริหารประเทศของเราได้อีกเลยก็เป็นได้ ดูว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนแผ่นดิน เข้ามาได้ก็ต้องยอมแล้ว

ใครมีข้อเสนอที่ดีๆ ช่วยกันคิดครับ เผื่อบางทีทางออกมันก็คือทางเข้านั่นเอง

อัปเดต:

3 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 7 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ผมไม่มีความคิดดีๆที่จะแก้ปัญหาการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ แต่ผมชอบความคิดเห็นของคุณ และสิ่งแวดล้อมในวงศาคณาญาติที่คุณมีอยู่ นี่คือประชาธิปไตยที่กำลังเบ่งบาน ที่ทุกครอบครัว ทุกชุมชนควรมี

    การมีประชาธิปไตย ก็คือ แต่ละคนแต่ละชุมชน มีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี แม้ความขัดแย้งจะไม่หมดไป และจะยังมีอยู่เสมอไป แต่ทุกคนก็รู้กติกาและเคารพกติกา และเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกฝ่าย รับฟังและรับทราบจุดยืนของแต่ละคน ต่อสู้ด้วยความคิดและวาจา มิใช่ด้วยความรุนแรง ไม่คุกคาม ไม่มุ่งร้าย และไม่ทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ด้วยกำลังหรืออาวุธ ข้อท้ายๆนี้ทำยากเมื่อเกิดโทษะ หมดความอดทนต่อกัน หรือหมดหนทางที่จะแก้ไขปัญหาจริงๆ แล้วฝ่ายหนึ่งก็จะกลายเป็น "ไทยเฉือน ไทยเฉ่ง" และอีกฝ่ายกลายเป็น "ไทยฉี่ หรือ ไทยเฉย" อย่างที่คุณว่าในกระทู้แรกของคุณ

    ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จำเป็นต่อระบบประชาธิไตยคือ ความมีศีลธรรมและมีหลักการของประชากรที่อยู่ในระบบนั้น (ดูตัวอย่างของประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ หรือ สหรัฐฯ ก็ได้) ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของระบบประชาธิปไตย คือ จรรยาบรรณและคุณภาพทางใจของชุมชนที่อยู่ในระบบนั้น ระบบประชาธิปไตยจะก้าวหน้าไปไม่ได้ ถ้าจรรยาบรรณและคุณภาพทางใจของผู้เลือก และผู้ถูกเลือก มีอยู่ในระดับต่ำๆ แต่ปัญหานี้มิได้เพิ่งจะเกิดขึ้นในวันก่อนนี้เอง และจะไม่หมดไปภายในวันสองวันข้างหน้านี้ แต่นั่นมิได้หมายความว่าเราจะหมดความมานะที่จะช่วยกันแก้ไขปั���หานี้ด้วยกัน

    สิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการก็คือให้คนชั่วที่มีเงินหลือล้นซื้อเสียงกลับเข้ามากุมอำนาจ โกง กลืนกินทรัพยากรของประเทศชาติอย่างไม่ละอายใจอีกต่อไป เราประสงค์จะขับคนเหล่านั้นให้ออกจากตำแหน่งนั้นเสีย และเราจะต้องทำอย่างไรประเทศจึงจะได้ผู้มีคุณภาพทางใจสูงกว่าและมีความสามารถมากกว่า เข้ามาเป็นผู้นำและผู้บริหารประเทศ? นี่คือสองประเด็นที่สำคัญ

    สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ และคิดอยู่ คือจะต้องเปลี่ยนกติกากันใหม่ ก็เป็นลู่ทางที่หันไปในทิศทางที่ถูกต้อง และต้องช่วยกันทำและคิดกันต่อไป รายละเอียดคืออะไรยังไม่ทราบ แต่ก็คงต้องถกกันต่อไป มิฉะนั้น ก็จะต้องถลกกันต่อไป ครับผม

  • stan
    Lv 4
    7 ปี ที่ผ่านมา

    ส่วนตัวผมคิดว่า ควรทำตามกติกาที่มีอยู่ ถ้าจะแก้กติกาก็ควรนำเสนอด้วยวิธีทางที่ถูกต้องตามกฎและกติกา และควรเสนอให้พอมองเห็นภาพรวม ไม่ใช่การนำเสนอแบบข้างถนนตามใจฉัน และพรรคพวกฉัน ส่วนผู้ที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำการเสนอไม่ควรเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง จากนั้นก็พิจารณาข้อเสนอกันว่าตกลงหรือเปล่า(ทำประชามติก็ได้) การคิดเห็นต่างน่าจะเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์มากกว่านี้ ถ้าผู้ที่นำมาใช้ เอามาใช้อย่างถูกวิธีและถูกต้องตามกฎและกติà¸��า

  • 7 ปี ที่ผ่านมา

    คนถามน่าจะเติมเพิ่มชื่อเป็น เชยชิด เราคงจะได้สนิทกันมากขึ้น

    คุณคุยเรื่องการเมืองกับญาติพี่น้องหรือครับ ถ้าหากว่าไม่ได้มีญาติที่ได้

    เข้าออกเสียงในที่ประชุมรัฐสภา และพอเริ่มต้นคุยสองสามคำเห็นว่า

    ความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีความเห็นว่า ควรจะยุติการคุยดีกว่า เพราะว่า

    ถ้ายังขืนรั้นทุรังคุยกันต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นญาติ ก็มีสิทธิ์ที่จะบังเอิญ

    ให้เกิดอาการหัวร้างข้างแตกได้ เปลี่ยนเรื่องคุยว่า ประเดี๋ยวมื้อถัดไป

    จะกินอะไรดีกว่าเอ่ย

    ถ้าต้องการความแน่นอนว่าเรื่องที่คุยแล้ว ไม่มีการทะเลาะกันแน่แน่

    ก็เห็นแต่เรื่องอาหารการกินนี่แหละ ส่วนเรื่องชีชีแปะแป๊ะนี่ ถึงแม้ว่า

    จะยิ่งคุยยิ่งมันอันใด ถ้าหากว่ามีเด็กเด็กนั่งอยู่ด้วยใกล้ใกล้ ท่านว่า

    ให้ระวังระไว เด็กแอบได้ฟัง เผลออยากแอบทำตามมั่ง

    ตานี้ ก็กลุ้มใจละ ไม่รู้จะว่ายังไง

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้