คนเชย

สังคมออนไลน์ สร้าง��วัตกรรมการสื่อสารยุคใหม่ ที่ให้ประโยชน์และโทษไปพร้อมๆกัน คนกลุ่มหนึ่งสร้างสรรค์ คนอีกกลุ่มหนึ่งก็พร้อมที่จะทำลาย ด้วยเครื่องมือชนิดเดียวกัน

บังเอิญได้ยินคำว่าโซเชียล ที่ผู้ประกาศข่าวกำลังเหน็บแนมกลุ่มผู้คอยจับผิดกับการทำความดีช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยยัดเยียดข้อหา"เอาหน้า"กับเขาเหล่านั้น พลอยให้นึกถึงคำผวนของคำว่า โซเชียล เออ...ความหมายมันตรงใจที่จะใช้กับคนกลุ่มนี้จัง...โซเชียล...เสี้ยนโชว์ ไม่ได้เจตนาว่าร้ายคนที่ใช้สื่อเหล่านี้ทำความดีนะครับ แต่หากคำผวนนี้ จะทำให้คนที่กำลังจะแสดงความคิดเห็นใดๆ ในสังคมออนไลน์ ได้ยั้งคิดสักนิด ก็น่าพอที่จะเป็นประโยชน์อยู่บ้างครับ

แล้วต้องเลือกคนสรรหาคนเลือกนายกที่เป็นกลาง ที่มีความเป็นกลางก่อนอีกทีใช่ไหม

ผมไม่สามารถเพิ่มข้อความได้ จึงใช้อีกคำถามครับ

(ต่อ)ผมบอกวิธีการคัดคนกับพี่ชายว่า เราก็ให้คนในจังหวัดเลือกตัวแทนเข้ามา แล้วให้คนอีก70กว่าจังหวัดเลือกเป็นคะแนนลบ รวมแล้วใครได้คะแนนสูงสุดคนนั้นได้เป็น

ทันควัน พี่ชายผมสวนทันที แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน คนในจังหวัดเลือกผู้แทนของเขา คนจังหวัดอื่นมีสิทธิ์อะไรมาเลือกเขาออก

ผมได้แต่อธิบายว่า หากคนในจังหวัดเลือกเขาเป็นผู้แทนของจังหวัดเขา คนจังหวัดอื่นไม่ควรเลือกเขาออกได้ แต่หากผู้แทนคนนั้นเข้ามาเป็นนายก รองฯ หรือรัฐมนตรี รอง ผู้ช่วยฯ ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวพันกับคนทั้งประเทศ เช่นนี้คนจังหวัดอื่นควรมีสิทธิ์ไหม?

มรึงก็ไปบอกบนเวที กปปส.สิ ....ไม่หรอก...กรูเกลียด...ผมตอบตรงๆ

ผมจบเรื่องการเมือง ไม่อยากให้คุยกันจนบานปลาย เด๊๋ยวไม่วายต้องหารถกลับบ้านเอง

กลับถึงบ้าน มาคิดเล่นๆ หากเราแยกคนที่จะสมัครเข้ามาเป็นเพียง ส.ส. ตามระบบเดิม(ไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งนายกตลอดจนรัฐมนตรีฯลฯ) และแยกบัญชีรายชื่อเพื่อเป็นคณะบริหาร มีการกาคะแนนบวก และกาคะแนนลบอย่างละพรรค แล้วสรุปคะแนนที่สูงสุด มันอาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่คนที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองเราทุกวันนี้ จะไม่สามารถเข้ามาบริหารประเทศของเราได้อีกเลยก็เป็นได้ ดูว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนแผ่นดิน เข้ามาได้ก็ต้องยอมแล้ว

ใครมีข้อเสนอที่ดีๆ ช่วยกันคิดครับ เผื่อบางทีทางออกมันก็คือทางเข้านั่นเอง

วันนี้ผมขอระบายเรื่องราวที่เกี่ยวกับความคิดเห็นด้านการเมือง ภายในบ้านสักหน่อย

ผมไม่เคยคิดเลยว่าบ้านผมก็จะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย อย่างที่บ้านอื่นเขาเป็นกัน บ้านผมเป็นครอบครัวใหญ่ มีการแยกออกไปทำธุรกิจส่วนตัวไม่กี่คน พอถึงเทศกาลหรือมีวันหยุด ก็มักจะนัดมาทานข้าวหรือไปเที่ยวกัน เช็งเม้งก็เป็นเทศกาลหนึ่งที่ครอบครัวผมจะนัดมารวมกันและไปไหว้บรรพบุรุษ

ปีนี้ก็เช่นกัน เราเหมารถตู้ไป เพราะจะได้ไม่ต้องขับรถไปหลายคัน และเป็นธรรมดาที่จะต้องพูดคุยทั้งเรื่องการงาน ความเป็นอยู่ทั่วๆไป แต่ที่เป็นประเด็นและไม่ยอมกันก็หนีไม่พ้นความคิดเห็นเรื่องการเมือง ผมถูกผลักเป็นไทยเฉย

ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมเฉย เพราะผมไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับการเป่านกหวีด หรือการกระทำเพื่อให้กรุงเทพเป็นอัมพาต ผมไม่เห็นว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้องกับการตัดนำ้ตัดไฟ ปิดล้อมไม่ให้ข้าราชการทำงาน

พี่ชายผมถามว่ารัฐบาลโกงกินไหม ผมตอบว่าโกงมั้ง ดูเขาจะไม่พอใจคำตอบ ผมจึงถามกลับไปว่า การที่แกนนำแต่ละฝ่ายกล่าวหากันผ่านประชาชน เอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วใส่คนอื่น เป็นวิธีที่ถูกต้องหรือ? ทำไมไม่จัดการไปที่คนผิดเสียเลย ประชาชนจะได้ไม่ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

คำตอบที่ได้ มรึงก็ไปทำดิ แล้วสาธยายร้อยแปด ตั้งแต่ชาวนาไม่ได้เงินค่าข้าว พรบ.นิรโทษกรรม แล้วย้อนกลับไปเรื่องเก่าๆอีกมากมายฯลฯ เล่นเอาหูดับทีเดียว

ผมก็ตั้งคำถามง่ายๆ ทำไมไม่ปล่อยให้มีการเลือกตั้งล่ะ แทนที่จะเกี่ยวเบ็ดตกปลา ก็ลงน้ำตีอวนซะเลย คำตอบเป็นไปตามที่คาด พวกมันก็เข้ามาโกงกินเหมือนเดิม ผมก็สวนต่อ แล้วให้พวกมันเข้ามาทำไมล่ะ? แล้วมรึงห้ามพวกมันได้เหรอ หรือมรึงจะไปบอกพวกมันไม่ให้พวกมันเข้ามา ผมก็ได้แต่ส่ายหน้า แล้วบ่นพึมพัม เข้าเส้น...

ใครที่คุณฟังแล้วเชื่อในข้อมูล เชื่อว่าสิ่งที่พูดนั้นคือความจริงทุกด้าน ไม่มีอคติ คุณอยากฟัง

และใครที่คุณคิดว่า พูดแล้วเหมือนไม่ได้พูด ไม่มีข้อมูล แค่ด่าเป็นเท่านั้น คุณไม่อยากฟัง

ผมแค่อยากทราบว่า คนนอกกลุ่มกปปส.อย่างผม กับสมาชิกกปปส. คิดเห็นเหมือนกันไหม?

ดีหรือไม่ โดยฟอร์มกลุ่มคณะ ที่คิดว่าเป็นกลางและมีศักยภาพ สามารถบริหารประเทศช่วงรอยต่อนี้ได้ หากคนส่วนใหญ่ยอมรับ รัฐบาลคนกลางก็ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะได้รับเลือกเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ต้องเข้ามาด้วยวิธีการพิเศษ ที่จะนำพาปัญหาที่ไม่รู้จบเช่นทุกวันนี้

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่อยากดูมาก

และจะดีมากๆ หากแกนนำทั้งสองฝ่ายจะจับคู่ขึ้นชกด้วยอีกหลายๆคู่ หรือจับคู่ตบกันด้วยก็ได้ ให้มวลชนกับเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเชียร์กันบ้าง บอบช้ำกันมามากแล้ว

เดิมพันด้วยประเทศไทย

หรือคุณจะระดมเงินฝากเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเพื่อช่วยชาวนาแม้มันจะช่วยไม่ได้มากก็ตาม

มีแต่เบี้ยผูกไม่มีม้า ไม่มีเรือ ไม่มีโคน ไม่มีเม็ด ไม่มีแม้แต่เบี้ยเทียม ไล่ให้อับได้ แต่รุกฆาตขุนไม่ได้ สุดท้ายก็คงอับเสมอ เสียเวลาเล่นเปล่า

เริ่มเกมใหม่ไม่ดีกว่าหรือ คุยกันออกทีวี นิรโทษข้อหากบฏ หาทางออกให้ประเทศไทย ให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสิน

กรุงเทพมหานคร เป็นของคนไทยทุกคน หยุดการเอาชนะเถิดครับ และหากจะดีที่สุด หันหน้าเข้าหากัน ทำสัตยาบัน ตั้งรัฐบาล กำหนดกติกา และวางมือไปเสียทั้งสองฝ่าย

ประเทศไทยวันนี้ไม่ไ้ต้ต้องการคนเก่งหรือขาดคนรักชาติ แต่ต้องการเพียงความไม่แตกความสามัคคี ถอนตัวเองออกจากเงื่อนไขความแตกแยก ก็ปลดแอกความถดถอยได้ ไม่มีทุกสี ไม่มีทุกฝ่าย สลายทุกขั้วได้ นั่นคือชัยชนะของประเทศไทย

คุณได้ฟังที่อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมลกล่าวปราศรัยหรือไม่ สรุปใจความสั้นๆได้ว่า อหิิงสาในการชุมนุมเป็นสิ่งที่ดี แต่จะดีที่สุดต้องอหิงสาทั้งกาย วาจา และจิตใจ พูดเป็นเชิงเสนอแนะ และปรามในเชิงที่ถ้อยที น่าฟัง น่าคิดทีเดียว ไม่เพียงแต่มวลมหาประชาชน และกลุ่มเสื้อสีต่างๆ ตลอดจนกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม

ฟังแล้วโดนใจทีเดียว ทำให้กลับมาคิดว่า เวลาที่ฟังคำปราศรัยทางวิทยุ ฟังมันทุกเฉดสี แต่ก็ไม่มีความรู้สึกร่วม กลับต่อต้าน และมีความรู้สึกว่า กรูเกลียดมรึง มากกว่าคนที่มรึงเกลียดเสียอีก

ฟัง 107.9 mhz. ด็อกเตอร์คนหนึ่งพูดเอามันส์ รุนแรง หยาบคาย เสียงนกหวีดตอบรับมากมาย

ด็อกเตอร์อีกคนหนึ่งพูดเรียบง่าย ให้แง่คิด เสียงนกหวีดอาจน้อยกว่า แต่ได้ใจมากกว่า แม้แต่ใจของฝ่ายตรงข้าม

ข้อคิดที่อาจารย์สมเกียรติให้นั้น หากยึดเป็นแนวทาง ย่อมน่าจะนำความชนะที่บอบช้ำน้อยที่สุดสำหรับประเทศไทย ชนะโดยที่ฝ่ายตรงข้ามต้องยอมรับและไม่ต่อต้าน ชนะโดยที่ไม่ทิ้งเชื้อไฟให้ไหม้ต่อ ผิดกับด็อกเตอร์ท่านนั้นและอีกหลายคน ที่พยายามชนะด้วยความเกลียดชัง แบ่งแยก คนไทยด้วยกัน แม้นสิ้นสุดสงคราม ก็ไม่อาจรวมชาติเชื้อไทย เป็นอันตรายที่ทุกคนควรพึงสังวรณ์ และไม่ควรทำให้เกิดในทุกที่ทุกสถาน ที่มีการพูดจาสนทนากัน

เมื่อวานฟังคุณสุเทพ ยอมรับและขอโทษอาจารย์สมเกียรติที่เคยกล่าวว่าอาจารย์สมเกียรติเป็นคนโลกสวย ยอมรับในคำวิจารณ์ตลอดจนจะปฏิบัติตามแนวทางที่ท่านเสนอแนะ และจะสานต่อไปยังแกนนำท่านอื่นๆ สะท้อนความรู้สึกและบ่งบอกได้ว่า ณ.วันนี้ คุณสุเทพมาถูกทางแล้ว

เลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เลือกไปก็เท่านั้น กปปส.จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลได้ก็เท่านั้น ถูกปราบได้ก็เท่านั้น ตระกูลชินวัตรถูกขับไล่ออกไปจากประเทศก็เท่านั้น ฝ่ายใดขึ้นเป็นนายกได้ก็อยู่ไม่ได้ ประเทศไทยร้าวลึกเกินกว่าจะฝืนเดินหน้าต่อ ปัญหาไม่ได้เกิดจากเงื่อนไขกติกาหรือระบอบใดใด แต่เกิดจากคน คนที่ไม่รู้จักแพ้ เอาชนะคะคานกันด้วยแนวร่วมจำนวนคน ปั่นหัวกันจนคนไทยด้วยกัน คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่คุยกัน ในเมื่อปัญหาเกิดจากคน ก็เอาคนที่มีปัญหาทั้งหมดออกไป ไม่ดีกว่าหรือ?

ปั่นป่วนไปทุกวงการ เป็นประเด็นให้ถกเถียงกันไม่จบสิ้น พระกับการเมือง เหมาะสมเพียงใด ผมไม่มีคำตอบ

แต่ผมมีคำถาม หากคุณยิ่งลักษณ์ลาออก ก็คงไม่เกิดสูญญากาศที่คุณสุเทพต้องการให้เกิด เพราะคุณสุเทพไม่สามารถยึดครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ต่างจากการยึดอำนาจของกองทัพ ซึ่งฉีกรัฐธรรมนูญสถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำ ร่างรัฐธรรมนูญได้ตามที่ต้องการ เพราะเมื่อคุณยิ่งลักษณ์ลาออก อำนาจรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีก็จะไปตกอยู่กับรองนายกฯโดยธรรมเนียมปฏิบัติ(หากผมเข้าใจไม่ผิด) และหากเป็นเช่นนั้น หลวงปู่พุทธอิสระท่านจะปฏิบัติเช่นไร สึกก็เสียท่า ไม่สึกก็มุสา

หากคุณสุเทพทำสำเร็จ สรรหาคนกลางมาร่างรัฐธรรมนูญได้ตามต้องการ เลือกตั้งใหม่ ฝ่ายไม่เห็นด้วยย้อนเกล็ด เรื่องจะจบได้อย่างไร

วนไปวนมาก็คงต้องถามว่า สุเทพก็คนไทยยิ่งลักษณ์ก็ำคนไทย ทำไมถึงไม่คุยกัน เดือดร้อนไปทุกสถาบัน

เป็นคำถามที่มาจากลูกชายชั้นป.6 จากคำถามที่ว่าพระอาทิตย์ลุกเป็นไฟได้อย่างไร ในเมื่อพื้นผิวของดวงอาทิตย์ไม่มีออกซิเจน ผมพอจะรู้ว่ามันเกิดจากปฏิกริยาฟิวชั่น แต่ก็รู้น้อยเกินกว่าจะให้คำตอบที่ถูกต้องได้ จึงสงวนคำตอบไว้ เพื่อไม่ให้จำข้อมูลที่ผิดๆไป ขอบคุณครับ

หากคิดอย่างชาวป่าชาวเขาอย่างผมแค่พลุตะไล บั้งไฟพญานาคก็ดูน่าทึ่งแล้ว ยานอวกาศต้องขนเชื้อเพลิงเท่าใดที่ไม่หนักมากจนเป็นภาระ และไม่น้อยเกิน จนไปไม่ถึงจุดหมาย และบางครั้งต้องกลับโลกอีกด้วย ขอบคุณครับ

แรงดูดและแรงผลักเกิดขึ้นได้อย่างไร พลังงานเหล่านี้มีการเสื่อมถอยหรือหมดไปหรือไม่ นอกจากแม่เหล็กที่ดูดเหล็ก มีโลหะชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติเช่นนี้อีกหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ

จากสงครามวันสุดท้ายและสุดท้ายหลายครั้ง จนที่สุดไม่ชนะไม่เลิก ปิดถนนหนทาง จะตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรีหรือเป็นไปได้จะควบคุมตัวไว้ด้วย หากไล่นายกรักษาการณ์ไม่สำเร็จ ต่อไปหากคุณสุเทพจะยกระดับปิดประเทศ ตัดไฟ ตัดน้ำ ตัดแก๊ส ตัดน้ำมัน ฯลฯ ไทยแลนด์ต้องชัตดาวน์หรือไม่

ืำ

ไม่มีทางเลือกทางอื่นแล้วหรือ ทำไมคนไทยด้วยกันจึงไม่หาทางออกด้วยการเจรจา

เห็นกลุ่มคนมากมาย อดสงสัยไม่ได้ว่า ต้องใช้ห้องน้ำจำนวนมากเท่าใด โดยเฉพาะท่านสุภาพสตรีน่าจะไม่ง่ายนัก