ก่อนเลือกนายกคนกลาง ต้องสรรหาคนเลือกนายกคนกลาง ที่เป็นกลางก่อนหรือไม่?

ขอบคุณที่คุณถาม ผมมีข้อคิดเมื่ออ่านกระทู้ของคุณแล้ว คือ

ถ้าจะเลือกนายกฯ ทำไมไม่เลือก รองนายกอีก 2 คนให้เข้ามาทำงานร่วมกัน และเป็นศูนย์ถ่วงซึ่งกันและกัน ซึ่งมาจากพรรคอื่นๆ ซี่งประชาชนก็นิยมด้วย? ให้ทั้งสามคนนี้จัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องหา คนที่เป็นกลาง (จะหาอย่างไรครับ?) แต่ต้องเป็นผู้ที่ประชาชนทั่วประเทศต้องการและนิยมมากที่สุด (นี่หาได้)

ให้ทุกพรรคส่งผู้สมัครลงแข่งขันทั่วประเทศ จะส่งกี่คนลงสนามก็ได้ แต่พรรคหนึ่งจะได้รับเลือกได้เพียงคนเดียว อีกสองคนต้องมาจากพรรคอื่นๆ สามคนนี้จะเป็นนายกฯ และเป็นรองนายกฯสองคน ร่วมกันจัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ ผู้ที่ได้รับเลือกจากทั้งสามพรรคนี้จะเป็นศูนย์ถ่วงซึ่งกันและกันไปในตัว ไม่มีฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในรัฐสภาอีกต่อไป

สส และ สว จากแต่ละพรรค ก็อยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ร่างและออกกฏหมายควบคุมการบริหารประเทศของรัฐบาล ผู้ได้รับเลือกทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ จะดำรงตำแหน่งอยู่ได้ 4 ปี แล้วก็ต้องเลือกตั้งกันใหม่ แต่ละคนจะมีโอกาสได้รับเลือกอยู่ในตำแหน่งนั้นได้เพียง 2 ครั้ง แล้วจะหมดสิทธิ์ในหน้าที่นั้นตลอดไปในชีวิตนี้

ประเทศไทยขณะนี้มี 76 จังหวัดกับอีก 1 เขตปกครองพิเศษคือ กรุงเทพมหานคร และประกอบด้วยอำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ (*) [บันทึกเพิ่มเติม ความจริงมีเขตปกครองพิเศษอีกหนึ่งแห่งหนึ่งซึ่งมิได้กล่าวถึง ในที่อ้างอิงนี้คือ พัทยา ด้วยครับ]

ถ้าเราจะกำหนดแต่ละอำเภอให้เป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขต ก็จะได้ 878 เขต

ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่เขต จะได้ 1 คะแนนจากเขตนั้น ผู้ที่ได้รับคะแนนจากจำนวนเขตมากหลายที่สุดทั่วทั้งประเทศจะได้เป็นนายกฯ ผู้ที่ได้รับคะแนนเขตรวมที่รองลองมา เป็นคนที่สองและที่สาม จะเป็นรองนายกสองคน ผู้สมัครอื่นๆ ถือว่า สอบตกหมด ใครมีเงินมากเพียงพอที่จะซื้อเสียงคนทั่วประเทศ ทุกเขต ก็ให้มันรู้ไป !*#@*!

การเลือกตั้งที่จะให้มีขึ้นทั่วประเทศนี้ ให้มีการเลือกตั้ง นายกฯ รองนายกสองคน สส และ สว ประจำจังหวัดแต่ละจังหวัด พร้อมกันไป ผู้สมัครจะลงสมัครได้เพียงตำแหน่งเดียว สส และ สว จะอยู่ในตำแหน่ง 4 ปี นายกฯและรองนายกฯจะอยู่ในตำแหน่งครั้งแรกนี้เพียง 2 ปี แล้วในเวลานั้นจะมีการเลือก นายกฯและรองนายกฯ กันใหม่ซึ่งจะรับหน้าที่นั้นอยู่ 4 ปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป การเลือกตั้งก็จะมีทุกๆ 2 ปีสลับกันไประหว่างการเลือกผู้แทนฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารผู้ซึ่งจะจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศ

นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ใครจะ "จวก" จะ "ถลก" ก็เชิญตามสบาย ครับผม

********************

ขอเพิ่มข้อความ และตอบคุณ stan ครับ

เห็นด้วยทุกประการครับ ต้องมีการร่างกฏหมายเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ จะเริ่มจากสภาประชาชน หรือมีการแต่งตั้งกันขึ้นมา ก็ให้คู่กรณีทุกฝ่ายเสนอข้อคิดกัน ตั้งผู้แทนขึ้นมาฝ่ายละ 2-3 คนเป็นผู้ร่วมเจรจาว่าจะหาคณะกรรมการร่างกฏหมายเลือกตั้งใหม่จากกลุ่มอาชีพใดบ้าง? รวมหมดมีกี่คน? มีหลักการสำคัญอะไรบ้าง? มีกำหนดเวลาร่างเท่าไร? จะมีการเลือกตั้งกันเมื่อไหร่? และม๊อบทั้งหลายจะสลายตัวกลับบ้านกลับช่องให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินสดวกขึ้นกว่านี้อีกเมื่อไหร่? กำหนดลงไปให้ชัดเจน ครับผม

แนวคิดก่อนหน้านี้ก็ดีนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีกฎหมายรองรับก่อนอยู่ดี ส่วนกรณีนายกคนกลางหรือเลือกคนกลางมาเลือกนายกก็ดี ยังไงก็ต้องมีกฎหมายมารองรับ ไม่อย่างงั้น ทำไปก็ประท้วงกันอีกอยู่ดี ขนาดปัจจุบันมีกฎหมายรองรับ ยังประท้วงกันไม่เลิกเลย ผมว่าปัญหาบ้านเราไม่ได้อยู่่ที่วิธีการหรือกฎหมายหรอกครับ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวคนและอำนาจมากกว่า ซึ่งกฎหมายหรือกติกาอะไรก็ไม่สามารถรองรับได้

ทั้งหมดนี้ที่ถามคือทำได้ถ้าเขียนกฎหมายมารับ

คำตอบที่ดีที่สุด ตามนั้น

กลางยังไง ถ้าไม่ถอยคนละก้าวก็ไม่มีใครยอมรับอย่ดีครับ

หาได้หรือ คนเข้าใจ บทกฏหมาย

เห็นแบ่งฝ่าย แบ่งฝัก รักเพื่อนฝูง

หรือไม่ก็ ไปตามหลัก เงินชักจูง

กลางอาจยุ่ง ถูกเก็บก่อน ตอนเอาจริง