วิธีรับมือกับเรื่องร้าย ๆ ในชีวิต เราควรทำไง ?

เรื่องบางอย่างก็ร้ายแรงเกินกว่าจะรับได้ พอเกิดขึ้นก็คงรู้สึกช็อค อย่างว่า

แต่ความร้ายแรงของความรู้สึก ไม่อาจฆ่าชีวิตของเราได้จริงไหม??? ต่อให้คุณเจ็บ และเจอเรื่องร้ายๆ ต่างๆ นานา ร่างกายของคุณก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่ ที่เจ็บก็เจ็บแค่ใจ พอเวลาผ่านไป ความเจ็บก็มักจะจางลง....

ถามว่าจะรับมืออย่างไร ไม่ต้องรับมือ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป สิ่งไหนที่เราพอจะแก้ไขได้ก็ให้ทำ สิ่งไหนที่ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ก็ให้ทำ สิ่งไหนที่ทำอะไรไม่ได้เลย ก็ปล่อยไป พอเกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวก็มีทางออกของมันเอง ปล่อยไปตามที่ควรจะเป็น ให้คิดเสียว่า เราได้ทำดีที่สุดแล้ว ส่วนสิ่งนี้ที่เกิดขึ้น เราเองไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ก็คงได้แต่ทำใจ...วางใจ...และที่สำคัญ เชื่อใจตัวเอง ว่าร้ายแค่ไหน เจ็บแค่ไหน ก็ไม่เคยทำให้เราตายได้

เรื่องเล่าน่าคิด แครอท ไข่ กาแฟ

วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบ่นถึงชีวิตอันแสนรำเค็ญให้พ่อฟังว่า . . . เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการ ต่อสู้และการแข่งขัน

พ่อสอนให้ลูกสาวรู้คิดโดยการต้มน้ำให้เดือดในหม้อสามใบ ใบแรก ใส่แครอท ใบที่สอง ใส่ไข่ ใบที่สาม ใส่กาแฟ เมื่อผ่านไป 20 นาทีจึงยกลง พร้อมกับถามลูกว่า "เห็นอะไรบ้าง" "แครอท ไข่ กาแฟ" เธอตอบ

เขาจึงขอร้องให้เธอสัมผัส แครอท เธอจึงรู้ว่ามันนิ่ม แล้วเขาก็ให้ลูกสาวตอกไข่ เมื่อเธอแกะเปลือกไข่ออก ก็พบว่าไข่ นั้นได้ต้มจนสุกแล้ว ท้ายที่สุดเธอให้ลูกสาวลองจิบ กาแฟ ดู เธอยิ้มและลิ้มรสอันหอมกรุ่นนั้น

พ่ออธิบายว่า"เราได้กระทำต่อ 3 สิ่งนี้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน นั่นคือ น้ำเดือด แต่ผลลัพธ์มันกลับแตกต่างกัน จากเดิม แครอท ดูแข็งๆ และไม่โอนอ่อนผ่อนตาม พอผ่านการต้มมันกลับนิ่มและดูอ่อนปวกเปียก ไข่…ซึ่งดูบอบบาง มีเพียงเปลือกบางๆ คอยห่อหุ้มของเหลวภายใน แต่น้ำเดือดทำให้ของเหลวนั้นกลับแข็งขึ้น ขณะที่กาแฟกลับมีลักษณะเฉพาะตัวตลอดกาล เมื่อมาเจอน้ำเดือด น้ำต่างหากที่แปรเปลี่ยนไป . . ."

ถ้าเป็น "แครอท" แม้จะดูแข็งโป๊ก แต่เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยากนานาก็จะเฉา อ่อนแอ และสูญเสียเรี่ยวแรง และกำลังไป

หรือจะเป็น "ไข่" ซึ่งดูสามารถปรับสภาพได้ในตอนแรก แต่หลังจากที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตาย การแตกแยก การหย่าร้าง หรือการเลย์ออฟ . .แม้เปลือกภายนอกยังคงเดิม แต่หัวใจ และจิตวิญญาณของอาจปวดร้าว และแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นไปได้

หรือหากคุณเหมือน "กาแฟ" เมื่อเจอน้ำเดือดอันนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่ ณ อุณหภูมิสูงสุด 100 องศาเซลเซียส กาแฟกลับมีรสชาติดีขึ้นยามนั้น หากเป็นดั่งกาแฟ เมื่อถึงภาวะที่เลวร้ายที่สุด นอกจากจะสามารถจัดการชีวิตตนเองได้แล้ว ยังสามารถทำสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้นได้ด้วย. . .

แล้วคุณหล่ะจะเลือกเป็นอะไร

ก่อนอื่นเลย เราต้องมีสติครับ ตั้งสติให้ดีทุกอย่างมีที่มาก็ต้องมีที่ไปหากเรื่องใดที่เราแก้ไขมันไม่ได้ก็ยังสามารถที่จะเตรียมตัวรับมือ กับผลที่จะตามมาได้นะครับ มีสติ เต็มใจ ที่จะรับและเผชิญกับเรื่องหรือปัญหานั้นๆ และก็ ตั้งใจ ที่จะหาทางแก้ไข หรือบรรเทาความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากเรื่องหรือปัญหานั้นๆครับผม

สวัสดีครับ

สลักถ้อยคำติดแหวนไว้ว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" ครับ

ไม่มีใครแพ้ปัญหา มีแต่คนขี้แพ้ที่หนีปัญหาครับ หลายคนสู้จากติดลบมาเป็น100 แล้วทำไม เราจะสู้จากศูนย์ไม่ได้ละครับ

อีกอย่างหนึ่ง ต้องคิดอยู่เสมอว่า "ชีวิตเรามีคุณค่านะครับ"

ถ้าไม่มีเรา ใครจะจูงคนแก่ข้ามถนน

ถ้าไม่มีเรา ใครจะช่วยลูกหมาที่ตกน้ำ

และ ถ้าไม่มีเรา ใครจะร่วมตอบปัญหาที่เพื่อนๆตั้งขึ้น

ใช่ไหมครับ

ถ้าจะบอกคุณว่าต้องทำใจ คุณคงจะว่าฉันหรือบาวเพราะสิ่งที่ฉันกำลังเจออยู่นั้นก็บอกไม่ได้ว่ามันใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณเจอไหม แต่เป็นกำลังใจให้นะเพราะคงไม่มีอะไรดีไปกว่าจะให้กำลังใจกับตัวเอง แล้วทุกอย่างจะผ่านไปค่ะ

ตั้งสติให้ได้ค่ะ เพราะเคยเจอเหมือนกัน เราควรตั้งสติให้ได้และค่อยแก้ไขโดยให้เวลาเป็นตัวช่วย ไปทำบุญทำทาน สะเดาเคราะห์ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และคนที่ควรได้รับ......... พักผ่อน ดูแลตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ ร้องไห้บ้างก็คงไม่เป็นไร มีเพื่อนสักคนที่รับฟังและให้กำลังใจเราได้ค่ะ

ถ้าสมมุติว่าเรื่องร้ายที่ว่านั้น เป็นเรื่องที่ยังไงๆก็ต้องเกิดขึ้นจริงๆ

ดังนั้น ในเมื่อมันเป็นสิ่งต้องเกิด และไม่มีอะไรไปห้ามไม่ให้เกิดได้

รู้ก่อนแล้วจะได้อะไร รู้ภายหลังจะเป็นอย่างไร

หากจะบอกว่าถ้าได้รู้ก่อน จะได้ทำใจรอไว้ล่วงหน้าเสียก่อน

มีค่าเท่ากันค่ะ เพราะต้องเสียใจเหมือนๆกันไม่ว่าจะได้รับรู้ตอนไหน

เผลอๆอาจกลายเป็นว่า รู้ก่อนเสียใจก่อน และเสียใจนานกว่านะคะถ้าทำใจไม่ได้

เรื่องร้ายๆหมายถึงเรื่องไม่ดีที่เราไม่ชอบ ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

ชีวิตคนเรา ต้องพบกับเรื่องที่ชอบใจ และไม่ชอบใจกันตลอดชีวิต

ย่อให้เห็นเร็วๆสั้นๆ แบบวินาทีต่อวินาทีเลยนะ

ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวินาทีนี้ วินาทีถัดไปมันก็คืออดีต

ส่วนวินาทีข้างหน้าเป็นอนาคต เราบังคับไม่ได้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นนอกจากคาดเดาเอาเอง

เราแก้ไขสิ่งที่เป็นอดีตไม่ได้ กำหนดความจริงล่วงหน้าไม่ได้

และเราก็อยู่กับปัจจุบัน วิธีรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆอย่างมีสติก็คือ

ให้ "รู้" ว่าเราชอบ หรือ ไม่ชอบ

แต่อย่าอย่า "บังคับ" ให้ชอบ หรือ ให้ไม่ชอบ

ก็ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ต้องยังรับรู้ และรู้สึก กับเหตุการณ์ต่างๆตลอดเวลา

ลองทำใจให้คล้ายน้ำกลิ้งบนใบบอนดูสิคะ "อยู่ด้วย แต่ไม่ติดด้วย"

ร้ายแรงขนาดไหน..ถ้าถึงกับชีวิต..มีทางเดียวนะทำใจ..สู้กับมันอย่างมีความสุขทำให้ชีวิตที่มีอยู่คุมค่าที่สุดนะ...ชีวิติมีค่า..รักษาให้ดีที่สุด..จงมีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่

ทำใจ และคิดถึงเรื่องอื่นที่มันร้ายกว่า เรายังผ่านมาได้เลย คิดถึงเรื่องคนอื่นที่เค้าทุกข์ กว่าเราเค้ายังสู้กันเลย คิดว่าเราต้องทนให้ได้ ยอมรับให้ได้ ค่ะ

จงรู้ความจริงว่า เรื่องที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจนี้เป็นธรรมชาติธรรมดาที่มีอยู่ในโลกนี้ บางทีท่านก็ได้ตามที่ปรารถนา แต่บางทีก็ไม่ได้ตามที่ปรารถนา มันเป็นของธรรมดาอยู่อย่างนี้เอง ดังนั้นเราจึงต้องทำจิตใจให้พร้อมรับสถานการณ์เหล่านี้อยู่เสมอ โดยไม่ต้องดีใจหรือเสียใจไปกับเรื่องเหล่านั้น

*-*เท่าที่เราสังเกตุดูชีวิตคุณปายเนี๊ย ค่อนข้างเจอแต่เรื่องร้ายๆ เนอะ ..ล้อเล่นอ่ะ..อิอิ

*-*เรามีคำคมเด็ดของ ปอล์ซาโกฯ นะ เขาบอกว่า "ต้องไว้ใจตัวเอง ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราจะไว้วางใจตัวเราเองเสมอ", "ข่มความรู้สึกกลัว ความตื่นเต้น หรือความรู้สึกที่เป็นภัยกับเรา ไม่ว่าต่อหน้าใครเราจะต้องเป็นนายตัวเราเองเสมอ"

*-* นั่นคือ หากเรามีความไว้วางใจตัวเราเอง เราจะมีความพร้อมที่จะรับมือกับเรื่องร้ายๆ แต่นิดนึงคือ ปรับทัศนะคติใหม่ซะว่า การที่เราเจอเรื่องร้ายๆ นั้นมันไม่ใช่เรื่องร้าย แต่มันเป็นบททดสอบเพื่อให้เราข้ามระดับของชีวิตไปสู่อีกขั้นหนึ่ง และผลสำเร็จของข้อทดสอบนี้ไม่ได้วัดกันที่ ผลที่ประเมินค่าได้โดยสายตาของคนทั่วไป แต่มันอยู่ที่เรามี"พัฒนาการ" ในความมั่นคงของจิตใจ ไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ ในแต่ละครั้งที่ได้ประสบได้ดียิ่งขึ้นๆ ไปแค่ไหน? ..เราวัดตัวเราเอง !! ..

*-* หากเราจะอ่านชีวประวัติของใครสักคนหนึ่ง เราจะเลือกอ่านของคนที่มีชีวิตราบเรียบไม่มีอะไรหรือป่าว? ป่าวเลย..เราต้องเลือกอ่านของคนที่มีชีวิตเข้มข้นแน่...แล้วชีวประวัติของเราหล่ะ เราพร้อมที่จะแต่งเติมความเข้มข้นให้มันรึยัง...มันส์กับชีวิตและบททดสอบที่มีรสชาติกันเถอะ...จ้า...